หากใครที่ดูซีรีส์ Vincenzo วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย นอกจากตัวนักแสดงนำ ซงจุงกิ จอนยอบิน และ แทคยอน 2PM จะเป็นที่พูดถึงแล้ว อีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เห็นจะเป็น ควักดงยอน ผู้รับบท จางฮันซอ น้องชายต่างมารดาของจางฮันซอก (รับบทโดย อ๊กแทคยอน) ประธานตัวจริงที่กุมบังเหียนแห่งอาณาจักรบาเบล ซึ่งเขาคนนี้เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่กลายเป็นหัวข้อที่แฟนๆพูดถึงกันอย่างล้นหลาม จากการความสามารถทางการแสดงอันไร้ที่ติ บทบาทอันน่าสงสาร และหน้าตาที่จะน่ารักก็น่ารักใจเจ็บ จะหล่อก็หล่อจนติดสตั๊น เพราะฉะนั้นเราจะต้องขอแอบส่องประวัติของหนุ่มคนนี้กันหน่อย ว่าแล้วก็ไปอ่านกันในบทความ SPOTLIGHT ของ Korseries ได้เลย!
ควักดงยอน (Kwak Dong Yeon) เกิดวันที่ 19 มีนาคม 2540 นักแสดงภายใต้สังกัด H& Entertainment จบการศึกษาจาก School of Performing Arts Seoul (SOPA) ในสาขา Practical Music Department โดยในการสอบเข้าดงยอนได้ใช้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในการเล่นกีต้าร์ จนกลายเป็นนักเรียนในโรงเรียนชั้นนำที่เต็มไปด้วยคนดังได้ ความฝันของดงยอนในแรกเริ่ม คือ การได้เป็นศิลปินไอดอลทำให้ดงยอนในวัย 13 ปีตัดสินใจเดินทางออกจากแดจอน บ้านเกิด และมุ่งหน้าตามความฝันเพียงลำพังในเมืองหลวงอย่าง โซล เพื่อเป็นเด็กฝึกหัด
โดย ดงยอน เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิง ด้วยการเข้าเป็น เด็กฝึกของค่าย FNC Entertainment ในปี 2010 ค่ายใหญ่ที่เต็มไปด้วยศิลปิน นักเอนเตอร์เทนเนอร์และนักแสดงคุณภาพ อาทิ FTISLAND, CNBLUE เท่านั้นยังไม่พอด้วยความสามารถที่มีทำให้ดงยอนกลายเป็น 1 ในสมาชิกวง KOKOMA BAND ในตำแหน่งมือกีต้าร์ โดยการฟอร์มวงนี้ได้ปรากฏตัวในฐานะศิลปินฝึกหัดของค่าย ในรายการ Cheongdamdong111 Ep.3 รายการที่จะตามติดวิถีชีวิตของเหล่าไอดอลและศิลปินฝึกหัดทั้งหลายของค่ายนั่นเอง
ความรักของหนุ่มดงยอนที่มีต่อดนตรีนั้นทรงพลังมาก เพราะหลังจากเข้าบริษัทมาในปี 2010 หลายๆคนก็บอกว่าเขาสามารถเป็นนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงได้ แต่ถึงอย่างนั้นความฝันของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนนั่นเป็นเพราะเขารักในเสียงดนตรีจริงๆ แต่เมื่อได้ลองทำตามความฝันแล้วความรู้สึกสนุกที่เขาเคยได้จากการเล่นดนตรีก็เปลี่ยนไป เมื่อดนตรีที่เขารักกลับกลายมาเป็นงานที่เขาต้องทำ บวกกับแนวทางดนตรีที่ตัวเขาและค่ายอยากจะทำนั่นแตกต่างกันมาก ความกดดันจึงเกิดขึ้น และนั่นทำให้หนุ่มควักดงยอนค่อยๆเบนสายมาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว เพราะการแสดงทำให้เขารู้สึกสนุกและเป็นอิสระ ทำให้เขาตกหลุมรักการแสดงเข้าอย่างจัง
โดยผลงานการแสดงเรื่องแรกของเขาคือซีรีส์ My Husband Got a Family (2012) และจากการแสดงในเรื่องนี้ส่งผลให้ดงยอนได้รับรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมจากงาน 5th Korea Drama Awards และถูกส่งชื่อเข้าชิงในสาขารางวัลเดียวกันในเวที 2012 KBS Drama Awards ซึ่งในขณะนั้นดงยอนมีอายุเพียง 14 ปี
หลังจากการเดบิวต์ในสายนักแสดงอย่างเต็มตัวในปี 2012 โดยที่ตัวดงยอนก็การันตีความสามารถจากการคว้ารางวัลมาได้จากงานแสดงเรื่องแรก ทำให้ปีถัด ๆ มางานแสดงก็ไหลเข้ามาหาหนุ่มดงยอนอย่างไม่ขาดสาย อาทิ เรื่อง Jang Ok Jung (2013) ในบทเจ้าชายดงพยองตอนเด็ก, เรื่อง Adolescence Medley (2013) ในบท ชเวจองอู ประกบคู่กับนักแสดงสาว อีเซยอง
เรื่อง KBS Drama Special: Middle School Student A (2014) ในบท อีแฮจุน นักเรียนหัวกะทิที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่, เรื่อง Inspiring Generation (2014) ในบทชินจองแท (รับบทโดย คิมฮยอนจุง) ช่วงวัยรุ่น จากการแสดงในซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องนี้ทำให้ดงยอนสามารถคว้ารางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมที่เคยพลาดไปในเวที KBS Drama Awards ในปี 2012 มาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ในปี 2014 ดงยอนยังมีผลงานซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องอย่าง Modern Farmer (2014) ในบทฮันกีจุน หนึ่งในสมาชิกวงพั้งค์ร็อค Excellent Souls ร่วมกับฮงกิ รุ่นพี่ร่วมค่ายอีกด้วย
หลังจากนั้นดงยอนก็ยังมีซีรีส์เข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น Splendid Politics (2015), Drama Special: Avici (2015), Come Back Mister (2016), Puck! (2016), Pied Piper (2016), The Master of Revenge (2016)
จนมาถึงเรื่อง Moonlight Drawn by Clouds (2016) เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ดังเปรี้ยงปร้างและเป็นที่พูดถึงไม่แพ้โบกอมและจินยอง พระเอกและพระรองภายในเรื่องเลย โดยในเรื่องนี้ ดงยอน รับบทเป็น คิมบยองยอน องค์รักษ์ของรัชทายาทอียอง (รับบทโดย พัคโบกอม) ที่มีฝีดาบเป็นเลิศไม่แพ้ใครในโชซอน ด้วยเคมีที่เข้ากันสุดๆกับโบกอม บวกไปกับคิวบู๊สุดพลิ้วไหวขององค์รักษ์ที่ใช้ดาบ ผสานไปกับบุคลิกนิ่งๆ พูดน้อยต่อยหนัก ทำให้ดงยอนในบทคิมบยองยอนขโมยใจผู้ชมไปไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงเราด้วยที่โดนดงยอนตกอย่างกู่ไม่กลับจากเรื่องนี้
ยังค่ะความปังของดงยอนยังหมดเพียงเท่านี้เพราะงานยังคงไหลเข้ามาเรื่อยๆไม่มีทีท่าจะหยุด เป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ Fight for My Way (2017), รับบท ซองแฮชอล ใน Reunited Worlds (2017), รับบท จีวอน นักเบสบอลระดับมัธยมปลายที่กำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างที่อาจจะทำให้เขาไม่สามารถเป็นนักเบสบอลอาชีพได้ ใน KBS Drama Special: Slow (2017)
ในปี 2018 รับบท เจสัน หมอส่วนตัวของพระเอกในซีรีส์ Radio Romance (2018), รับบท ยอนอูยอง ผู้ช่วยสอนภาควิชาเคมี รุ่นพี่สุดเพอร์เฟกต์ สดใส น่ารัก ที่ตกหลุมรักนางเอกและตามจีบอย่างเปิดเผยโดยไม่ได้สนใจว่านางเอกจะผ่านการศัลยกรรมมามากขนาดไหน ในซีรีส์ My ID is Gangnam Beauty (2018), รับบท โอเชโฮ เพื่อนสมัยเด็กของพระเอก ประธานนักเรียนที่เบื้องหน้าดูสุภาพแต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและโหดเหี้ยมในซีรีส์ My Strange Hero (2018)
ในปี 2019 เป็นนักแสดงรับเชิญในบทจองฮารัง เด็กหนุ่มอายุ 19 ที่เป็นเหยื่อของอุบัติเหตุในที่ทำงาน ในซีรีส์ Doctor Detective (2019), รับบทนาแฮจุน ผู้สืบทอดกิจการโรงแรมโคซอง ในซีรีส์ Never Twice (2019)
ถึงแม้ในปี 2020 ดงยอนจะมีงานแสดงเพียงเรื่องเดียวอย่าง It’s Okay to Not Be Okay (2020) ในฐานะนักแสดงรับเชิญ แต่ขอบอกเลยว่าแม้จะมาในฐานะนักแสดงรับเชิญแต่การแสดงของดงยอนในบทควอนกีโดหรือน้องหนูจิ๋ว คือปัง! มาก! เป็นตัวละครที่น่าสงสารและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมแม้จะมาปรากฏตัวเพียงสั้นๆ โดย ดงยอน จะต้องแสดงเป็นผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ ที่เกิดจากการไม่เคยได้รับการเลี้ยงดูที่ถูกต้องจากครอบครัว ไม่เคยได้รับความอบอุ่นและใส่ใจ จนสะสมจนต้องระบายโดยการทำเรื่องบ้าๆเพื่อเรียกร้องความสนใจจนเขานั้นกลายเป็นบ้าไปจริงๆ และในปีเดียวกันนี้ ดงยอน ยังได้โบกมือลาค่ายเดิม และย้ายไปอยู่ค่ายใหม่อย่าง H& Entertainment ที่คับคั่งไปด้วยนักแสดงคุณภาพอย่าง จูจีฮุน, จองรยอวอน, คริสตัล, ซลดัมบี เป็นต้น อีกด้วย
และก็มาถึงผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นที่จะทำให้นักแสดงควักดงยอนดังเปรี้ยงปร้างขึ้นไปอีกอย่าง Vincenzo (2021) ที่นับวันบทจางฮันซอ ยิ่งน่าสงสาร ไปพร้อมๆกับน่าเอ็นดูขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวละครที่แม้แต่จะก่อนจะดูร้ายแต่นั้นก็เป็นเพราะถูกพี่นำมาใช้เป็นหุ่นเชิด มาเป็นเกราะกำบังตัวเอง แต่ในตอนนี้เมื่อได้เจอกับทนายวินเชนโซ่ ฮันซอก็เหมือนเป็นลูกนกที่กำลังหัดบินอีกครั้ง กลายเป็นจางฮันซอคนใหม่ที่กลายมาเป็นหมากสำคัญบนเกมส์กระดานนี้ที่อาจจะสามารถทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงชนะไปได้อย่างขาดลอย
นอกจากผลงานทางด้านการแสดงในประเภทซีรีส์แล้ว ภาพยนตร์พ่อหนุ่มคนนี้ก็แสดงจ้า!! อาทิเรื่อง Misbehavior (2016),
Man of Will (2017), Heung-boo: The Revolutionist (2018) และเรื่อง Baseball Girl (2019) ไม่ต้องถามถึงเรื่องละครเวทีเลยในเมื่อมาสายร้องมาตั้งแต่ต้น มีหรือหนุ่มคนนี้จะพลาดในปี 2020 ที่ผ่านมา ควักดงยอน ได้เข้าร่วมแสดงละครเวที Something Rotten ร่วมกับอึนกวัง BTOB และ ยอวอน Pentagon
ยัง ยังไม่หมดค่ะ 55555 อย่าลืมว่าควักดงยอนเป็นเด็กฝึกหัดไอดอลสายร้องมาก่อนแน่นอนจะต้องเคยมีเพลงเป็นของตัวเอง โดยเพลงแรกของเขาคือเพลง Ce Song เพลงประกอบซีรีส์ My Husband Got a Family (2013) ซีรีส์เรื่องแรกของดงยอนโดยเป็นการร้องร่วมกันกับคุณยูจุนซัง นอกจากนี้ยังมีเพลง Stargirl เพลงประกอบซีรีส์ Adolescence Medley (2013) นอกจากนี้ยังไปเป็นพระเอก MV ให้กับ AOA ในเพลง Excuse Me เพื่อนค่ายในตอนนั้นด้วย โอ๊ยยย เป็นผู้ชายที่สุดยอดของความสามารถจริงๆ ไม่มีอะไรที่ควักดงยอนทำไม่ได้แล้วไหม ?!!
ยอมรับเลยว่า ควักดงยอนนักแสดงหนุ่มวัย 24 ปี คนนี้เป็นบุคคลที่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ งานน้อย งานมาก งานยาก งานง่ายก็เอาอยู่ในทุก ๆ บทบาท ขยันทำงานแถมยังหล่อสุดๆไปอี๊กกกก อะไรจะครบเครื่องครบรสขนาดนี้คะคุณ!! เรื่องหน้าขอบทพระเอกปัง ๆ ให้ดงยอนหน่อยนะค้า น้องเขามาแน่!
สามารถติดตามหนุ่มควักดงยอนได้ที่ช่องทาง Instagram ส่วนตัว @kwakdongyeon0 ได้เลย🥰🥰
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
View this post on Instagram
View this post on Instagram
View this post on Instagram
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 เรื่องที่จะทำให้คุณดูซีรีส์ Vincenzo สนุกกว่าเดิม
ฉากเล่นฮอกกี้ในซีรีส์ Vincenzo ทำนึกถึงอดีตของ ‘ซงจุงกิ’ ที่เคยเป็นนักกีฬาสเก็ตน้ำแข็งมาก่อน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
Source (1)