ช่วงนี้แฟนคลับทั้งสายซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลี คงจะได้เห็นหน้าค่าตา อีเจฮุน (Lee Je-hoon) มากเป็นพิเศษ เพราะเขากำลังมีผลงานทั้งซีรีส์ Taxi Driver ทางช่อง SBS ที่แม้จะเพิ่งเริ่มเรื่อง แต่ก็ได้รับการพูดถึงว่าสนุกถึงใจ จนส่งให้เรตติ้งก็พุ่งแรงแซงเรื่องอื่นที่ออกอากาศพร้อมกันไปไกล เท่านั้นยังไม่พอ อีเจฮุนยังกำลังรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Collecters เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราเมื่อวันที่ 22 เมษายนนี้อีกด้วย
ไม่ว่าจะบทคนขับแท็กซี่สายโหด ในซีรีส์ Taxi Driver หรือนักฉกสมบัติมือฉมังในภาพยนตร์ Collecters หนุ่มมากฝีมือวัย 38 ปี (นับแบบเกาหลี) นามว่า อีเจฮุน คนนี้ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างไร้ที่ติ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คอลัมน์ SPOTLIGHT วันนี้จะพาทุกท่านไปย้อนดูกันว่า ประสบการณ์ 14 ปีในเส้นทางสายการแสดงของชายคนนี้ผ่านอะไรมาบ้าง รับประกันว่า จะต้องมีเรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยไม่มากก็น้อย (แน่นอน!)
อีเจฮุน เกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1984 ก่อนหน้าที่เขาจะผันมาเดินในเส้นทางบันเทิงเต็มตัว อีเจฮุนเป็นนักเรียนระดับหัวกะทิที่เคยเป็นนักศึกษาวิศวกรรม สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechonology) ณ Korea University ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอันดับต้นของเกาหลี ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเบนเข็มทิศชีวิตเข้าสู่การเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นนักแสดงเต็มตัว ด้วยการเข้าเรียนที่ Korea National University of Arts ซึ่งศิษย์ที่จบจากสถาบันเดียวกันนี้ ได้แก่ อีซอนกยุน, พัคโซดัม, คิมโกอึน, บยอนโยฮัน, คิมดงอุค, ฮันเยริ, พัคจองมิน และอีกมากมาย
ในปี 2007 ขณะที่ อีเจฮุน อายุ 22 ปี เขาปรากฏตัวในฐานะนักแสดงครั้งแรกในผลงานภาพยนตร์อินดี้ They Live By Night (2007) และในปีเดียวกัน นักแสดงน้องใหม่อีเจฮุนก็ได้ขยับขึ้นมารับบทตัวประกอบในภาพยนตร์สั้นที่ได้ดาราระดับท็อปอย่าง ชาซึงวอน และ ยูแฮจิน มาร่วมแสดงในเรื่อง Small Town Rivals (2007)
แม้จะได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ทั้งขนาดสั้นและยาวในอีกหลายต่อหลายเรื่อง แต่น้องใหม่ อีเจฮุน ก็ยังคงรับบทเป็นตัวประกอบ เพื่อนพระเอก ตัวร้ายเล็ก ๆ ที่ปรากฏตัวให้แฟน ๆ ภาพยนตร์เห็นแวบเดียวอยู่หลายปี ระหว่างนั้นการแสดงของหนุ่มหน้าใสคนนี้เตะตาหลายคนเข้าให้ ผ่านผลงานหนังสั้นเรื่อง Just Friends ? (2009) ที่ อีเจฮุน ร่วมกับ ยอนอูจิน ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์รักของชาย 2 คน ที่อ้างแม่ว่าเป็น ‘แค่เพื่อนกัน’ ซึ่งนักแสดงทั้งสองคนถ่ายทอดบทรักโรแมนติกออกมาได้อย่างดีต่อใจและครบรส ตั้งแต่รักกุ๊กกิ๊ก ตลอดจนถึง ดราม่า ภายในเวลาสั้น ๆ เพียง 30 นาที (ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกว่าไม่พอ 555)
จนในที่สุด ปี 2011 จากน้องใหม่หน้าคุ้น อีเจฮุนก็ได้ขยับสถานะในวงการบันเทิงมาสู่การเป็นนักแสดงหลักเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่อง The Front Line (2011) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้งให้เขาได้รับความนิยมจากแฟน ๆ มากขึ้นและมีงานเรื่องอื่น ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง
เชื่อว่าปี 2011 น่าจะเป็นปีทองปีหนึ่งในชีวิตของ อีเจฮุน เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากประสบความสำเร็จหลังจากพยายามมาพักใหญ่จากผลงานเรื่องก่อนหน้าแล้ว ในปีเดียวกันนี้ เขายังมีผลงานเรื่อง Bleak Night ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่กวาดรางวัลจากเวทีระดับประเทศ และหนึ่งในรางวัลมากมายที่ทีมผู้สร้างได้รับนั้น คือรางวัล Best New Actor โดยฝีมือและทักษะการแสดงอันเฉียบคมไร้ข้อกังขาของ อีเจฮุน ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เขากวาดรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากหลายเวทีไปครอง รวมถึงงานใหญ่อย่าง 32rd Blue Dragon Film Awards และ 48th Grand Bell Awards ก็เช่นกัน
ความฮอตฮิตติดลมบนของ อีเจฮุน ดูเหมือนจะยังไม่หยุดนิ่ง เพราะต่อมาในปี 2012 เขาก็ได้มีผลงานแจ้งเกิดต่อเนื่อง ซึ่งคราวนี้ ถือเป็นผลงานภาพยนตร์ในตำนานที่ตราตรึงผู้ชมทั้งในเกาหลีและอีกหลายประเทศทั่วโลก แถมยังส่งให้เขากลายเป็นพระเอกในดวงใจของใครหลายคน กับภาพยนตร์เรื่อง Architecture 101 หรือ รักแรกในความทรงจำ (2012) โดยในเรื่องนี้เขาขึ้นแท่นรับบทนำร่วมกับ แบซูจี สมัยที่เธอยังเป็นไอดอลแห่งวง Miss A และเดบิวต์จอเงินเรื่องแรก ซึ่งผลงานนี้นี่แหละที่เป็นผลงานดังเลื่องชื่อ ที่ทำให้ ซูจี ได้ฉายาว่า ‘รักแรกแห่งชาติ’
ตัดมาที่ฟากซีรีส์ แม้ผลงานส่วนใหญ่ของนักแสดงมือรางวัลคนนี้จะเน้นหนักไปที่จอเงินมากกว่าจอแก้ว แต่เขาก็แบ่งเวลามาฝากผลงานให้แฟนๆ รับชมบ้าง ซึ่งทุกครั้งที่อีเจฮุนปรากฏตัวผ่านซีรีส์ ผลงานเรื่องนั้นมักได้รับการตอบรับที่ดีมากเสมอ โดยผลงานซีรีส์เดบิวต์ของอีเจฮุนเดบิวต์คือ Three Sisters (SBS,2010) ต่อมาบทบาทของเขา เป็นที่จับตามากยิ่งขึ้นด้วยการรับบทนำ ร่วมกับ ยูอาอิน และ ชินเซคยอง ในซีรีส์ Fashion King (SBS,2012) และฝากผลงานภาพยนตร์ไว้ถึง 3 เรื่องได้แก่ Ghost Sweepers (2012) , An Ethics Lesson (2012) และ My Paparotti (2013) ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ากรมรับใช้ชาติในช่วงปลายปี 2012
หลังจากที่ปลดประจำการออกมาในปี 2014 อีเจฮุน ได้คัมแบคผ่านผลงานซีรีส์ย้อนยุค Secret Door (SBS,2014) ซึ่งในครั้งนี้เขาได้มีโอกาสประชันฝีมือการแสดงร่วมกับนักแสดงชั้นครู อย่าง ฮันซอกกยู ในบทขององค์ชายรัชทายาทซาโด
และในปี 2016 อีเจฮุน ก็สร้างความประทับใจผ่านการแสดง ในผลงานซีรีส์ที่ทำให้เรายกทั้งหัวใจให้เป็นแฟนคลับของเขา นั่นคือซีรีส์สืบสวนนัมเบอร์วันตลอดกาลอย่าง Signal (tvN,2016) โดยในเรื่องนี้ เขารับบทเป็นสายสืบพัคแฮรยองแห่งโลกปัจจุบัน ที่ร่วมกันกับ อีแจฮัน นักสืบจากในอดีต ไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ปิดไม่ลง ผ่านการติดต่อกันด้วยวิทยุสื่อสาร ซีรีส์เรื่องดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมด้วยเรื่องราวที่เข้มข้น และฝีมือการแสดงคุณภาพของเหล่านักแสดงนำ ทำเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศไว้สูงสุดถึง 12.544% แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังคงครองใจแฟน ๆ สายสืบสวนสอบสวนจนถึงปัจจุบัน
ในปีเดียวกันนี้ อีเจฮุน ไม่ได้มีแค่ซีรีส์ แต่เขายังฝากผลงานภาพยนตร์ไว้อีกเรื่อง นั่นคือ Phantom Detective (2016) สวมบทบาทนักสืบในองค์กรลับ ผ่านการเล่าเรื่องใน mood & tone ที่แตกต่างไปจากบทบาทในซีรีส์ Signal ที่เขาแสดงก่อนหน้า
ฟังลิสต์รายนามผลงานของอีเจฮุน จะเห็นว่าเขาคนนี้นิยมรับบทหนัก ๆ เขาเลยขยับมารับบทหนุ่มคลั่งรักให้แฟน ๆ ชื่นใจกับผลงานซีรีส์แนวแฟนตาซีโรแมนซ์ Tomorrow, With You (tvN,2017) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่มาพร้อมกับการเดินทางข้ามเวลา
และแล้ว ปี 2017 ก็เป็นอีกปีที่หนุ่มคนนี้มีงานให้รับชมแน่นอีกครั้ง โดยเขายังได้ท้าทายบทบาทที่ไม่คุ้นเคย ผ่านภาพยนตร์ 2 เรื่อง โดยสวมบทบาท พัคยอล นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช ในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยญี่ปุ่น ในภาพยนตร์ชีวประวัติบุคคลในประวัติศาสตร์ Anarchist from Colony (2017) และ บทบาท พนักงานรัฐที่ต้องสอนภาษาอังกฤษให้คุณยาย ในภาพยนตร์น้ำดี I Can Speak (2017)
ต่อมา ในปี 2018 อีเจฮุน ก็ได้มาพร้อมบทบาทที่น่าสนใจ ในการเป็นพนักงานภาคพื้นดินประจำสนามบินอินชอน ในซีรีส์ Where Stars Land (SBS,2018) ร่วมกับ แชซูบิน ซึ่งบอกเลยว่านอกจากจะได้เห็นภาพลักษณ์อันแสนเพอร์เฟกต์ของเขาแล้ว ตัวละครนี้ยังมีเรื่องราวความลึกลับบางอย่างที่น่าค้นหาในเรื่องด้วยนะ!
มาถึงปี 2020 จำได้ว่าระหว่างที่ดูซีรีส์ Hot Stove League (SBS,2020) มีฉากหนึ่งที่เราเผลอกรี๊ดออกมาด้วยความช็อกปนดีใจ (มาก) เพราะในซีรีส์บริหารทีมกีฬาสุดเข้มข้นนี้ ได้มี อีเจฮุน มาปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในช่วงท้ายของเรื่องด้วย และกระซิบให้ฟังว่า การมาของเขาไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ คิดแล้วก็ยังประทับใจไม่หาย > <
เห็นใน Hot Stove League อาจจะยังไม่สมใจพอ อีเจฮุน ได้มีผลงานต่อในบทบาท คนคุกที่หวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผ่านผลงานภาพยนตร์ Time to Hunt (2020) เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 ก็เลยมีการเปลี่ยนแผน เป็นการนำภาพยนตร์เรื่องนี้เผยแพร่ผ่านระบบสตรีมมิ่ง Netflix แทน
ใช่แล้วค่ะ ในที่สุดก็มาถึง ปี 2021 ดูเหมือนว่าปีนี้จะมีคนที่รักอีเจฮุนมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะหลายคนอาจจะโดนตกด้วยใบหน้าหล่อใสวัย 38 ปีของเขากันในซีรีส์ Taxi Driver (SBS,2021) ที่มาในมาดคนขับรถแท็กซี่สายโหด ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่แค่ส่งให้ถึงที่หมาย แต่ยังมีบริการแก้แค้นให้เหยื่อเป็นของแถมด้วย แม้ว่าจะออนแอร์มาได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่ว่าซีรีส์กลับทำเรตติ้งสูงถึง 15.6% ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในตอนที่เหลือเรื่องราวจะเข้มข้น และทำเรตติ้งสูงแค่ไหนก็ต้องมารอลุ้นไปด้วยกันนะ~
จากที่หลายคนอ่านประวัติและส่องผลงานของนักแสดงหนุ่มคนนี้ คงพอจะรู้จักอีเจฮุนสไตล์กันแล้ว ว่าพี่เขาไม่ได้มาแค่เพียงผลงานเดียว แต่ว่าเขายังเพิ่งเผยการแสดงอันน่าประทับใจ ในบทบาท โจซังกู อาของกือรู ใน Move to Heaven (2021) ออริจินัลซีรีส์ของ Netflix ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ “รับทำความสะอาดและจัดการข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย” เพื่อจะถ่ายทอดข้อความของผู้ที่จากไปและการก้าวข้ามผ่านของผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกด้วย
นอกจากนี้ งานภาพยนตร์ของเขาก็ยังมีล่าสุด ใน Collecters (2021) ที่เล่าเรื่องราวการวางแผนจารกรรมมหาสมบัติกลางกรุงโซลร่วมกับ ชินฮเยซอน ตอนนี้กำลังเข้าฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ในไทยอยู่ด้วย
และไม่เพียงแค่ด้านการแสดง นักแสดงมากความสามารถคนนี้ ยังฝากผลงานไว้หลากหลาย ทั้งการร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการวาไรตี้ Running Man ในหลายตอน หรือแม้แต่ในรายการ Traveler (2019) วาไรตี้เชิงท่องเที่ยวไร้สคริปต์ที่ให้สมาชิกวางแผนการเดินทางด้วยตัวเองทุกขั้นตอน โดยอีเจฮุนเข้าร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการหลักในซีซั่นแรก ซึ่งได้ รยูจุนยอล มาเป็นเพื่อนร่วมทาง เสริมความกลมกล่อมให้ทริปเดินทางไปยังฮาวานา เมืองหลวงของประเทศคิวบา ทั้งสนุกสนานและตราตรึงใจผู้ชมจนได้มีภาคต่อ
หรือจะในมุมนักแสดงมิวสิกวิดีโอ อีเจฮุน ก็มีผลงานให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง และล้วนเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม ทั้งเพลง Home ของศิลปิน 브라운 아이드 소울 (BROWN EYED SOUL) ในปี 2015 หรือจะ ผลงาน MV ล่าสุด อย่าง With You โดย Crush ในปี 2019
นับตั้งแต่เดบิวต์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อีเจฮุน นับเป็นนักแสดงที่มีผลงานภาพยนตร์หรือซีรีส์ออกมาได้รับชมกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย แถมการปรากฏตัวของเขาในแต่ละครั้งยังมาพร้อมการรับบทบาทที่หลากหลาย ทลายภาพจำเก่าและพร้อมสร้างความแปลกใหม่ให้แฟนคลับได้ตื่นเต้นกับทุก ๆ ผลงานของเขาอยู่เสมอ…ช่างเป็น 14 ปีในวงการบันเทิงที่ทรงคุณค่าและน่าชื่นชมจริง ๆ ค่ะ สำหรับใครที่อยากติดตามนักแสดงหนุ่มคนนี้ สามารถไปกดฟอล Official Instagram ของเขาได้ที่ IG : leejehoon_official
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡