ซีรีส์แนวกฎหมายแห่งปีที่ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ตอนแรก ที่เหล่าตัวละครรัวศัพท์กฎหมายแบบไฟลุก จนอาจทำหลายคนอ่านซับกันแทบไม่ทัน แต่ส่วนใหญ่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามัน! ดี! มาก! ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึงซีรีส์ Law School ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนกฎหมาย ที่เปิดมาตอนแรกก็มีปมคดีอาจารย์เสียชีวิตอย่างปริศนา ให้ติดตามลุ้นการต่อจิ๊กซอว์ปะติดปะต่อหาความจริงซึ่งต้องไม่พลาดดูเลยนะ
ถ้าใครได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ คงจะเห็น รูปปั้นของหญิงสาวที่ถูกปิดตา ในมือถือตาชั่งและมืออีกข้างถือดาบ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในโรงเรียนกฎหมาย ในบทความ FOCUS นี้ Korseries ขอพาทุกคนมารู้จักรูปปั้นที่ถูกฉายให้เห็นกันบ่อย ๆ ในเรื่องว่า เธอเป็นใคร มีที่มาที่ไปอย่างไรเกี่ยวข้องกับกฎหมายและความยุติธรรมอย่างไร และซีรีส์ต้องการจะสื่ออะไรให้เรารู้จากการพยายามจัดให้รูปปั้นนี้กลายเป็นพื้นหลังในทุกบทสนทนาของตัวละครหรือไม่ และแน่นอนทุกอย่างล้วนมีคำตอบในบทความนี้ค่ะ ไปอ่านกันเลยย
“เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกที่อคติเธอจึงปิดตาตัวเองเอาไว้ เพื่อทำให้โลกนี้เป็นโลกที่กฎหมายในทุกชนชั้นไม่ว่าจะรวยหรือจนก็มีความเท่าเทียมกันเธอจึงถือดาบเอาไว้ ถ้าหากมีคนทำผิดกฎหมายต่อให้เป็นประธานาธิบดีหรือใครก็ตามเราจะเอาเขาขึ้นมาอยู่บนตาชั่งและทำให้เขาได้รับโทษทางกฎหมายอย่างยุติธรรม”
– ซอพยองจู –
ตัวตนของรูปปั้นหญิงสาวคนนี้ คือ ‘เทพีเธมิส (Themis)’ เทพีในกลุ่มไททันยุคเรืองอำนาจ 1 ใน 12 เทพรุ่นแรกก่อนที่จะถูกล้มล้างอำนาจโดยเทพโอลิมปัส พระนางเป็นเทพีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี โดยก่อนที่ซุสจะแต่งงานกับเฮร่า พระนางได้ควบตำแหน่งภรรยาและที่ปรึกษาคนสนิทข้างกายของซุสในการปกครองเหล่าทวยเทพทั้งหลาย คอยตักเตือนเมื่อมีเทพทำผิดกฎ คอยทัดทานการตัดสินของซุสที่ไม่เป็นธรรมและเกินกว่าเหตุ ทำให้พระนางกลายเป็นบุคลาธิษฐานของกฎทั้งหลายที่จำเป็นสำหรับสังคมที่มีระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นกฎธรรมชาติ กฎหมาย ประเพณี จารีต หรือแม้แต่กฎสวรรค์ ไปโดยปริยาย
พระนางเป็นเทพองค์แรกที่ชี้นำมนุษย์ให้ตระหนักถึงกฎ ความถูกต้อง และจริยธรรม ผ่านเสียงสวรรค์ และยังเป็นเทพีแห่งการพยากรณ์ผู้สร้างวิหารแห่งเดลฟี ที่ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ก่อนที่จะมอบวิหารให้แก่เทพอะพอลโลในภายหลังอีกด้วย คำตัดสินของเทพีเธมิสเมื่อถูกตัดสินเด็ดขาดแล้วจะได้เทพีเนเมซิส เทพีแห่งการล้างแค้นและการลงโทษผู้กระทำผิด และเทพีไดคี เทพีแห่งความเที่ยงธรรม นำผลการตัดสินของพระนางไปขยายผลต่อ
เทพีเธมิสมีอีกชื่อนึงที่ชาวโรมันเรียกกันว่า เทพีจัสติเทีย (Justitia) หรือ เทพีแห่งความยุติธรรม (Lady Justice) ที่เหล่านักกฎหมายยกย่องให้พระนางเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม ที่ทรงไว้ซึ่งสัญลักษณ์ 3 ประการด้วยกัน คือ
▶ ตาชั่งในมือซ้าย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมและเที่ยงธรรมในการใช้กฎหมาย เหมือนกับตาชั่งที่บอกว่าสิ่งใดหนักเบากว่ากันได้อย่างซื่อตรงเสมอ เป็นการเปรียบเทียบเข้ากับตอนที่ต้องชั่งน้ำหนักของหลักฐานเพื่อนำมาพิจารณาตัดสินอย่างตรงไปตรงมา
เป็นสัญลักษณ์ที่ได้อิทธิพลมาจาก เทพีมาอัต (Maat) ของอียิปต์ ตราชั่งในมือซ้ายเปรียบได้กับตราชั่งที่เทพีมาอัตใช้ชั่งขนนกกับหัวใจของผู้ตาย โดยตราชั่งนี้จะเป็นที่บันทึกความดีความชั่วทั้งหมดของเจ้าของหัวใจที่กระทำไปเมื่อครั้งยังมีชีวิต หากหัวใจเบากว่าขนนกวิญญาณของเขาจะถูกส่งขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าหากหัวใจหนักกว่าขนนก วิญญาณจะถูกส่งลงสู่นรก แต่ถ้าน้ำหนักระหว่างขนนกกับหัวใจเท่ากัน เขาผู้นั้นจะต้องไปเกิดใหม่
▶ ดาบในมือขวา เป็นการแสดงถึงอำนาจของในการบังคับใช้กฎหมายของผู้ใช้กฎหมาย ที่จะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส เหมือนดาบที่ไม่ได้อยู่ในฝัก และดาบเล่มนี้จะเป็นดาบที่มีความคมทั้งสองด้านเสมอแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจลงโทษผู้กระทำผิดและปกป้องผู้บริสุทธิ์ไปพร้อมๆกันในดาบเล่มนี้ และดาบจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าตาชั่งเสมอ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการลงโทษโดยดาบจะมาทีหลังการพิจารณาของตาชั่งเสมอ
สัญลักษณ์นี้เป็นสัญลักษณ์ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกับเทพตรีมูรติในศาสนาฮินดู ที่กำหนดให้พระพรหมเป็นผู้สร้างโลก พระวิษณุเป็นผู้รักษา และพระศิวะเป็นผู้ทำลายล้าง เพราะดาบนี้จะถูกใช้โดยเทพีแห่งโชคชะตาทั้ง 3 โคลทาโธ, แลซิซิส และแอตโทรพอส หรือที่เรียกรวมกันว่าเฟท (Fates) ธิดาของธีมีสและซุส โดยลูกคนเล็กจะนั่งปั่นฝ้ายแห่งการเริ่มต้นของชีวิต เพื่อส่งต่อให้ลูกคนกลางเอาฝ้ายมาฟั่นเป็นเชือกผูกพันให้ชีวิตมั่นคงดำรงอยู่ และจะส่งต่อให้ลูกสาวคนโตตัดเชือกทิ้งเพื่อทำลายชีวิตให้สั้นลง โดยลูกสาวคนโจจะหยิบดาบที่ถืออยู่ในมือของธีมีสนั่นเองมาตัด
▶ ผ้าปิดตา ในระยะแรก Lady Justice ไม่ได้มีผ้าปิดตานี้ เพิ่งมามีในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยฮันส์ แก็ง ผู้สร้างประติมากรรมรูปจัสติเซียที่มีผ้าปิดตาเป็นชิ้นแรกของโลกที่กรุงเบิร์น ผ้าปิดตานี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมของผู้ใช้กฎหมายที่จะไม่ปล่อยให้ปัจจัยภายนอกอย่าง อคติ เงินทอง ชื่อเสียง อิทธิพล มามีส่วนเกี่ยวข้องชี้นำการตัดสินความผิดถูก
*ต่อไปนี้จะเป็นบทวิเคราะห์ที่มีการกล่าวถึงเนื้อหาภายในเรื่อง*
ภาพโปสเตอร์ด้านบนเป็นภาพโปสเตอร์สำหรับใช้แชร์ลงใน ig story จาก Netflix ความผิดปกติในภาพโปสเตอร์ด้านบนคืออะไร ? มีใครได้สังเกตกันไหมว่า Lady Justice ในภาพนี้ไม่มี ‘ผ้าปิดตา’ เป็นภาพโปสเตอร์เดียวจากที่ปล่อยมาทั้งหมดที่รูปปั้นไม่มีผ้าปิดตา ซึ่งผ้าปิดตามันเป็นสัญลักษณ์ที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้กฎหมาย จะไม่โอนอ่อนไปกับสิ่งเร้าภายนอกหากมองไม่เห็นอคติก็จะไม่เกิด หากมองไม่เห็นทุกคนย่อมเท่ากันหมด และการใช้กฎหมายก็จะถูกใช้ได้อย่างเป็นธรรมที่สุด แต่การที่รูปปั้นนี้ไม่มีผ้าปิดตา เป็นการบอกเป็นนัยว่าผู้ใช้กฎหมายภายในเรื่องนี้อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะปิดตาไปได้ตลอด
นอกจากนี้เมื่อไหร่ที่ตัวละครต่างมาเผชิญหน้ากันหน้ารูปปั้น ตัวละครนั้นมักจะเป็นตัวละครที่กำลังพยายามสุดความสามารถในการหา ‘ความจริงและความยุติธรรม’ จากอีกฝ่ายเสมอ ยกตัวอย่างในฉากที่อาจารย์ยังจงฮุนคุยกับซลบีเรื่องการไม่เอาซลบีมาเป็นพยานและพูดถึงการคัดลอกวิทยานิพนธ์ ใน Ep.7 การจับภาพตราชั่งในฉากนี้เหมือนกำลังจะสื่อว่าซลบีกำลังเอาความจริงที่เธอต้องบอก ชั่งวัดกับความเสียหายที่เธอต้องได้รับหลังจากการพูดความจริงทั้งหมดออกไปแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะปฎิเสธ และหันหลังให้กับความจริงที่ว่าเธอคัดลอกมันมาจริงๆ และหันหลังที่จะช่วยคืนความยุติธรรมให้กับอาจารย์ยังจงฮุนจากการยืนยันได้ว่ามีซองน้ำตาลอยู่ในที่เกิดเหตุจริงๆ แต่ที่มันหายไปเป็นเพราะเธอนั้นหยิบออกไปเอง
และสังเกตเห็นกันไหมว่าตราชั่งในแต่ละฉากมีความลาดเอียงที่ไม่เท่ากัน !! อยู่ที่บทสนทนาในตอนนั้นเป็นใครกำลังพูดกับใครอยู่ บางฉากตราชั่งก็เท่ากัน บางฉากก็เอียงจนเห็นได้ชัดเจน อย่างในฉากการพูดคุยกันของอาจารย์ยังจงฮุนและอัยการซอพยองจูใน Ep.1 ยิ่งเห็นชัดเลยว่าตราชั่งเอียงหนักมากก เป็นฉากที่กำลังจะบอกเราว่าตราชั่งของอัยการซอพยองจูในฐานะผู้ใช้กฎหมายมันเต็มไปด้วยตราบาปที่มาจากการใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองในการช่วยเหลืออาชญากรเพื่อปกปิดความผิดที่ตัวเองก่อ รับสินบนจากเพื่อนทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่สมควรทำ และยังเพิกเฉยต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปในอดีตอีกด้วย ตราบาปเหล่านั้นมันทำให้ตราชั่งที่ควรจะต้องเที่ยงตรงและโปร่งใส เอนเอียงและแปดเปื้อน
นอกจากนี้ในทุกฉากที่ตัวละครยืนสนทนากันอยู่หน้ารูปปั้น บทสนทนาเหล่านั้นที่คนดูได้รับรู้จากปากของคน 2 คนคนดูจะต้องนำเอาคำพูดที่ได้ยินขึ้นไปวางชั่งบนตราชั่งทั้ง 2 ข้างเพื่อที่จะได้ตัดสินความจริงโดยปราศจากอคติและความลำเอียง เราสามารถเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อคำพูดของตัวละครตัวไหนก็ได้อยู่ที่เราตัดสินใจเอง จากการชั่งตวงในสิ่งที่ได้รู้มาก่อนหน้านั้น
กลับมาดูกันที่ภาพ Intro เปิดเรื่องกันบ้าง รูปปั้นที่กำลังค่อยๆแหลกสลาย ดาบบิ่นที่แตกไปพร้อมๆกับตราชั่งที่เอียงจนแทบล้ม เป็นภาพบ่งบอกสถานการณ์ภายในเรื่องได้อย่างแยบคาย เพราะเหล่าผู้ใช้กฎหมายภายในเรื่องได้นำเอาตราบาปและความอับอายมาสู่ตราชั่งจนภาพจำของผู้ใช้กฎหมายผู้เที่ยงธรรมได้แหลกสลายไปเกือบหมดแล้ว โดยตราบาปนั้นค่อยๆถูกเผยให้เห็นผ่านเหตุการณ์การเสียชีวิตของซอพยองจูที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡