I Can Do It… You Can Do It… We Can Do It…
พลัง ‘เราทำได้’ ของสาวๆพนักงานหางแถว กับปฏิบัติการฮีโร่สาวไส้องค์กร
Samjin Company English Class เป็นภาพยนตร์เด่นอีกเรื่องของปี 2020 สามารถทำรายได้ติดอันดับ 4 ของปี เป็นงานแนวคอมมาดี้ดรามาและการทำงานออฟฟิศ ที่สอดแทรกปมปัญหาธุรกิจให้ชวนสืบชวนติดตาม มีลุ้นมีเชียร์เล็กๆ บนเนื้อหาสาระสะท้อนสังคมจริง หลากหลายประเด็น จับมัดรวมผูกพลอตได้ลงตัว และถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกสนาน
ท้องเรื่องเป็นยุคปี 1995 เป็นช่วงที่เกาหลีกำลังเติบโตมากในธุรกิจอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิคส์ เป็นช่วงที่กระแสโลกาภิวัฒน์มีอิทธิพลต่อการพัฒนาธุรกิจด้วย บริษัทต่างๆจึงเริ่มปรับเปลี่ยนองค์กรของตนให้เป็นสากล เป็นคอร์ปอเรชัน บริหารแบบมืออาชีพ ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวที่จัดการโดยเจ้าของเองคนเดียว และส่งทอดตำแหน่งให้ลูกแบบรุ่นสู่รุ่น เช่นเดียวกับ บริษัทซัมจินอิเล็กโทรนิคส์ในเรื่องนี้ ที่เป็นบริษัทใหญ่และดีที่สุดในเกาหลี ก็ได้ว่าจ้าง บิลลี่พัค (รับบทโดย เดวิด แมคอินนิส) นักบริหารมืออาชีพระดับอินเตอร์มานั่งตำแหน่งซีอีโอ เพื่อเปลี่ยนองค์กรให้ได้ภาพ Global Samjin
สามสาวตัวเอกของเรื่อง คือ อีจายอง จองยูนา ชิมโบรัม เป็นพนักงานหญิงที่วุฒิการศึกษาแค่ระดับมัธยม ทำงานกับองค์กรนี้มานานหลายๆปี ไม่มีสิทธิ์เลื่อนขั้นไปไหน เพราะพวกเธอทำหน้าที่เป็นเพียงเบ๊จิปาถะ ชงกาแฟ เสิร์ฟอาหาร ซื้อบุหรี่ ขัดรองเท้า เก็บขยะ จัดเอกสาร รับโทรศัพท์ เดินเอกสาร… องค์กรมีพนักงานหญิงแบบนี้กระจายรับใช้อยู่ในทุกแผนกเพื่ออำนวยความสะดวก เพราะค่าจ้างถูก ชุดเครื่องแบบที่พวกเธอสวมก็เหมือนตีตราแยกแยะให้พวกเธอเป็นพนักงานอีกชนชั้น ดูๆไปก็แม่บ้านกลายๆนี่แหละ เป็นตลกร้ายเสียดสีความเป็น ‘เวิร์คกิ้งวูแมน’ ที่พวกเธอใฝ่หา แต่ต่อให้เป็นผู้หญิงที่มีวุฒิสูง ตำแหน่งดีกว่านี้ ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำทางเพศ ถูกเลือกปฏิบัติอยู่ดี เช่นถ้าแต่งงานแล้วมีท้อง ก็จะถูกบีบออกจากงาน
แต่อันที่จริงแล้ว ทั้งสามสาวมีศักยภาพที่ดีเกินงาน นั่นคือ อีจายอง (รับบทโดย โกอาซอง) เป็นคนขยัน มีความกระตือรือร้นสูง มีน้ำใจ service mind ดีเยี่ยม รักความถูกต้องจนอาจดูเป็นคนจุ้นจ้านไปบ้าง เธอประจำอยู่แผนกบริหารการผลิตทีมสาม จองยูนา (รับบทโดย อีซม) ประจำอยู่แผนกการตลาด เธอเป็นคนฉลาด รอบรู้ทันข่าวทันโลก คิดวิเคราะห์เก่ง แต่รักตัวเอง ไม่ยอมคน จึงอาจดูเป็นคนแรง ปากคอเราะร้ายหน่อย ส่วนชิมโบรัม (รับบทโดย พัคฮเยซู) ประจำอยู่แผนกบัญชีการเงิน เธอเป็นจีเนียสด้านคำนวณ ดีกรีเด็กคณิตศาสตร์โอลิมปิค แต่เธอกลับได้ทำหน้าที่แค่บันทึกใบเสร็จค่าใช้จ่าย petty cash ลงระบบ เธอมีลุคของเด็กน้อยเนิร์ดๆใสแบ๊วเล็กๆ
และเมื่อโอกาสมาถึง บริษัทเปิดคลาสสอนภาษาอังกฤษให้พนักงานวุฒิมัธยมทั้งหลายได้เรียนเป็นเวลาสามเดือน แล้ววัดผลด้วยคะแนนสอบโทอิคเกิน 600 จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ในคลาสเรียนอังกฤษ อีจายอง จึงกลายเป็น โดโรธี จองยูนา เป็น มิเชล ชิมโบรัม เป็น ซิลเวีย ของติวเตอร์ฝรั่งไป
ในวันที่ อีจายอง ต้องไปขนย้ายข้าวของของเอ็มดีโอ ลูกชายประธานจากโรงงานเข้ามาที่ออฟฟิศนี้ ในบรรดาข้าวของก็มีโหลปลาทองหนึ่งตัว ที่เธอจะเอาไปปล่อยลงแม่น้ำ แต่เธอกลับพบปลาลอยคอตายอยู่จำนวนมาก และเห็นน้ำเสียดำผิดปกติที่ทะลักพรวดจากท่อน้ำทิ้งของโรงงานข้างลำธารอ๊กจู ซึ่งก็เป็นโรงงานผลิตแผงวงจรพิมพ์ (printed circuit board)
เมื่อกลับมาทำรายงานให้ผู้ช่วยผู้จัดการช่วยเสนอผู้จัดการฮง ทำให้เกิดการออกไปตรวจสอบเก็บตัวอย่างน้ำมาวัดค่าสารเคมี และทำการเยี่ยมเยียนแจ้งชาวบ้านละแวกนั้นว่าเป็นเพียงการรั่วไหลเล็กน้อย พร้อมนำสัญญาประนีประนอมยอมความไปให้ชาวบ้านเซ็นต์
แต่เอาจริง อีจายองก็ยังแคลงใจ จึงรวมหัวกับเพื่อนสนิททั้งสองฟุดฟิดตามกลิ่นตุๆนี้ แอบไล่สืบเรื่องสารเคมีนี้ จนพบว่า แท้จริงมันมีปริมาณมากกว่าที่แจ้งไว้ และใบรายงานผลแล็ปก็เป็นของปลอม ประเด็นจึงเข้าสู่หัวใจที่ว่าใครปลอมแปลงมัน เพราะมันเป็นอันตรายต่อชาวบ้านถึงตายได้ และจะจัดการแก้ไขเรื่องราวนี้อย่างไร
ปฏิบัติการสืบสาวของพวกเธอก็มีภาษาอังกฤษเป็นทั้งตัวช่วยและอุปสรรค ปมที่พวกเธอค่อยๆสาวไปเรื่อยๆ ก็พบความพลิกไปพลิกมา ชวนสงสัยไปหลายๆคน และเกี่ยวพันไปถึงเรื่องที่บานปลายใหญ่โตกว่านั้น ในขณะที่ภารกิจนี้ก็ทำให้พวกเธอตกที่นั่งลำบาก เดิมพันด้วยอาชีพการงาน พวกเธอจะทำมันสำเร็จหรือไม่ อย่างไร จะได้อยู่สอบโทอิคผ่านเกณฑ์ ได้เลื่อนตำแหน่งไหม ต้องไปติดตามชมกันค่ะ
ความเป็นไปได้จริงของปัญหาองค์กรธุรกิจ ฮุบกิจการ เทคผลประโยชน์ หมกเม็ดทุจริต ปล่อยผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้สังคม เป็นภาพปมใหญ่ของเรื่อง ที่ร้อยแซมด้วยประเด็นเหลื่อมล้ำทางเพศ การเลือกปฏิบัติ โอกาสของความก้าวหน้าการงาน ประเด็นคนตัวเล็กกับผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นมุมของชาวบ้านตาสีตาสากับนายทุน หรือลูกจ้างตำแหน่งเล็กๆกับผู้บริหารระดับสูง ล้วนเป็น fact ใกล้ตัวที่เห็นกันได้บ่อยๆ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โครงเรื่องนี้แน่น คล้อยตามได้ง่าย
การฮึดสู้ไม่ถอย ดึงดันสืบสาวไส้จนสุดทางของสามสาว กลายเป็นภาพของฮีโร่ที่ได้ใจผู้ชม ฮึกเหิมชวนเชียร์ดี ทั้งความเป็นผู้หญิง ความรู้ และตำแหน่งที่ต่ำต้อย และการรวมพลังมด ชวนให้นึกถึง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ หรือ เดวิดกับโกไลแอธ อะไรเทือกนั้น หรือในมุม parody ขำๆของโปสเตอร์ที่สาวๆเดินเรียงหน้า ที่ชวนให้นึกถึงโปสเตอร์หนัง Nameless Gangster : Rules of the Time (2012) เรียกว่าเล่นใหญ่ล้อระดับมาเฟียกันเลย
คาแรคเตอร์เฉพาะตัวของทั้งสามสาวบทนำก็เป็นเสน่ห์สำคัญของเรื่อง น่ารักชวนอมยิ้มตลอด ด้วยฝีมือการแสดงของ โกอาซอง อีซม และ พัคฮเยซู ที่เนียนลงตัวมาก และอีกคนที่ขโมยซีนได้ดี คือตัวละคร ซงโซรา ลุคจิ๊กกี๋ติดบุหรี่ ออกซีนมาทีไรได้เรื่องได้ใจทุกที 555
เหล่านักแสดงสมทบเรื่องนี้คับคั่งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ประธานโอ (พัคกึนฮยอง) เอ็มดีโอแทยอง (แพคฮยอนจิน) ผู้ช่วยผู้จัดการชเวดงซู (โชฮยอนชอล) ผู้จัดการฮงซูชอล (อีซองอุค) หัวหน้าฮันกีชาง (คิมวอนแฮ) หัวหน้าบงฮยอนชอล (คิมจงซู) หัวหน้าบันอึนคยอน (แบแฮซอน) คุณคิม (อีบงรยอน) ซงโซรา (อีจูยอง) ทุกคนแคสมาได้เข้ากับบทดี บางคนแอร์ไทม์ไทม์ไม่เยอะ แต่ได้รสได้ชาติค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นหนังแนว Woman Empowerment ที่สนุกดูเพลินแล้ว ยังได้ความรู้ธุรกิจและความรู้ภาษาอังกฤษเป็นของแถมติดไม้ติดมือไปด้วย คุ้มค่าดีค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความและงานรีวิวอื่นๆของ WARUMANU ได้ที่ https://www.facebook.com/MoviesAllDay.SeriesAllNight