หากใครที่ได้ชมซีรีส์โรแมนติกฟีลกู้ด สุดเพลิดเพลินใจ เรื่อง ‘Run On’ จากช่อง JTBC ซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักและชีวิตของหนุ่มนักวิ่งทีมชาติ ที่โคจรมาพบกับนักแปลฟรีแลนซ์สาว นำแสดงโดย อิมชีวาน – ชินเซคยอง ร่วมด้วย ซูยอง SNSD และ คังแทโอ อาจจะตกหลุมรักการเล่าเรื่องและบทพูดในซีรีส์เหมือนกันใช่ไหมคะ?
โดยนอกจากเส้นเรื่องปัญหาชีวิต และความรักของคนหนุ่มสาว 2 คู่ที่ดูได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้คงถูกใจคอหนังหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน เพราะซีรีส์เรื่องนี้ยังเล่าถึงแวดวงการทำงานของแต่ละตัวละครหลัก ซึ่งรวมไปถึงแวดวงภาพยนตร์ที่ตัวละคร โอมีจู ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากเธอรับทำงานแปลซับไตเติลให้กับภาพยนตร์ต่างประเทศหลากหลายเรื่องด้วยกัน และด้วยความเป็นเนิร์ดหนังตัวแม่ของ โอมีจู ก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้มีการพูดถึงภาพยนตร์อยู่บ่อย ๆ จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ของ ‘Run On’ ที่มักจะมีฉากพาดพิง รวมไปถึงฉาก parody หรือล้อเลียนภาพยนตร์ดัง ทั้งของเกาหลีเอง และต่างประเทศร่วมด้วย บทความนี้จึงจะพาผู้อ่านทุกท่านไปส่องกันว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องไหนกันบ้างน้า ที่ซ่อนอยู่ในแต่ละฉากของซีรีส์เรื่อง ‘Run On’ นี้ ถ้าอยากรู้แล้ว ตามไปดูข้างล่างเลย~
The Merciless (2017)
ประเดิมกันด้วยฉากที่ คีซอนกยอม ได้พบปะกับ โอมีจู อย่างเป็นทางการครั้งแรก จากการที่ทั้งคู่เดินชนกันจนข้าวของในมือของนักแปลสาวหล่นลงมากระจัดกระจาย ซึ่งรวมไปถึงปืนไฟแซ็กของเธอ โดยในตอนนั้นเองแฟนเก่าของ โอมีจู ก็ได้เข้ามาฉุดกระชาก พยายามลากให้เธอกลับไปที่ร้านอาหาร คีซอนกยอม ที่ดูสถานการณ์อยู่นั้นเองจึงใช้ปืนกระบอกนั้นปกป้องเธอ โดยเขาได้ถามกับ โอมีจู ขณะชี้ปลายกระบอกปืนไปที่แฟนเก่าของเธอว่า “อันนี้ของจริงหรอครับ” ซึ่งเป็นบทพูดที่ อิมชีวาน เกิดปิ๊งไอเดียและต่อเติมบทเอาเอง โดยเป็นบทพูดที่ล้อกับการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง The Merciless ที่ อิมชีวาน แสดงนำในปี 2017
Psycho (1960)
หากสังเกตภายบ้านพักของ โอมีจู ในซีรีส์แล้ว จะเห็นได้ว่าเธอมีความชื่นชอบหลงใหลในภาพยนตร์อย่างมาก แถมยังคงความเป็นเนิร์ดหนังตัวแม่ ด้วยการเก็บสะสมโปสเตอร์หนังต่าง ๆ แปะไว้มากมายรอบบ้าน ซึ่งรวมไปถึงโปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่อง Psycho ผลงานชื่อดังกระฉ่อนโลกของ Alfred Hitchcock ในปี 1960 ที่ตัวซีรีส์ได้ฉายภาพให้เห็นว่าเธอได้แปะโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไว้บนประตูห้องน้ำ ในตอนที่เธอพยายามความหาผ้าเช็ดตัว ซึ่งเป็นการอ้างอิงกับฉากดังของภาพยนตร์ Psycho นั่นก็คือฉากหญิงสาวถูกถูกฆาตกรรมในห้องน้ำอย่างโหดเหี้ยม ที่นับว่าเป็นฉากในตำนานของวงการภาพยนตร์เลยทีเดียว เนื่องด้วยเทคนิคการถ่ายทำแบบ montage ที่นับว่าก้าวล้ำในสมัยนั้น ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่พลาดที่จะหยิบจับฉากดังดังกล่าวมาสอดแทรกเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ในเรื่องด้วย
Slam Dunk (1994)
งานอนิเมะ เขาก็ไม่พลาดเช่นเดียวกัน ในช่วงต้นของเรื่องนี้ ฉากที่ ซอแทอุง น้องชายไอดอลที่รักพี่สาวอย่าง ซอดันอา กว่าสิ่งอื่นใด ได้มาเจอกับ อียองฮวา เด็กหนุ่มนักศึกษาสาขาศิลปะแสนธรรมดา แต่กลับดูเหมือนจะเข้ามามีบทบาทพัวพันกับชีวิตพี่สาวสุดที่รักของเขาอย่างน่าสงสัย งานนี้การพบปะกันของชายหนุ่มทั้ง 2 คน จึงเริ่มต้นด้วยการทักทายกัน ผ่านการปะทะฝีปากและคารม ซึ่งในฉากนี้ได้มีการพาดพิงถึงชื่อของตัวละครจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นเรื่อง Slam Dunk ท่ีสร้างมาจากการ์ตูนดังในชื่อเดียวกัน โดยชื่อ ซอแทอุง และ คังแบคโฮ นั้นเป็นชื่อเวอร์ชั่นภาษาเกาหลีของ 2 ตัวละครหลัก ใน Slam Dunk นั่นเอง
The Godfather (1972)
ใครจะไปคิดว่าซีรีส์เกาหลีหวาน ๆ โรแมนติก ฟีลกู้ดแบบนี้ จะทำฉากล้อเลียนภาพยนตร์มาเฟียสุดคลาสสิกในตำนานอย่าง The Godfather ผลงานฝีมือการกำกับของ Francis Ford Coppola ที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1972 ออกมาได้เหมือนกัน โดยในช่วงกลางเรื่องที่ โอมีจู และ เมย์ เพื่อนร่วมบ้านของเธอได้เดินทางไปออกกองตามแบบวิถีชีวิตของคนทำหนังในแถบชนบทอยู่หลายวันหลายคืน ทำให้พวกเธอต้องแชร์ห้องนอนในโรงแรมแสนซอมซ่อร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็นำมาสู่ประสบการณ์ที่ทำให้ โอมีจู ต้องกรีดร้องออกมา เมื่อเพื่อนร่วมเตียงของเธออย่าง เมย์ นอนหลับในท่าทางกลับหัวกลับหาง แถมยังลืมตาเหมือนจ้องมองบางอย่างอยู่ ซึ่งฉากนี้เป็นฉากที่ล้อเลียนตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง The Godfather ที่ตื่นมาแล้วพบกับซากหัวม้าอาบเลือดสุดสยอง ซึ่งหากใครที่ได้ดูเปรียบเทียบซีนนี้จาก Run on กับ The Godfather แล้ว จะต้องบอกว่าทำออกมาได้เป๊ะสุด ๆ เลยล่ะ!
The Graduate (1967)
ในตอนที่ โอมีจู ยืนรอ คีซอนกยอม บริเวณประตูบ้าน เพื่อออกไปวิ่งพร้อมกัน ด้วยท่าทางการพาดขาสุดเก๋นั้น เป็นอีกหนึ่งฉากล้อเลียนภาพยนตร์คลาสสิกสุดอมตะเรื่อง The Graduate ที่ออกฉายในปี 1967 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากสวมถุงน่องสุดยั่วยวนของ คุณนายโรบินสัน เป็กฉากจำสุด iconic แถมยังเป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ภาพยนตร์ The Graduate เรื่องนี้ด้วย
Casablanca (1942)
ด้วยความที่เป็นคอหนังตัวแม่ ทำให้แม้แต่ในความคิดของ โอมีจู จึงมักจะจินตภาพเรื่องราวและคนต่าง ๆ ในชีวิตของเธอ เป็นตัวละครในภาพยนตร์ โดยครั้งหนึ่งเธอเคยจินตนาการภาพของตัวเธอเอง และ คีซอนกยอม เป็น Rick Blaine และ Ilsa Lund จากภาพยนตร์สุดคลาสสิก เจ้าของรางวัลภาพยนตร์ยอดยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม จากเวทีประกาศสรางวัลออสการ์ อย่างเรื่อง Casablanca ภาพยนตร์เก่าที่เล่าเรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวท่ามกลางเหตุการณ์สงครามอันดุเดือดอีกด้วย
E.T. the Extra-Terrestrial (1982)
ในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่ โอมีจู เพียงตัวละครเดียวเท่านั้นที่เป็นคอหนังตัวยง แต่ยังมี อียองฮวา หนุ่มนักศึกษาปีสี่ที่ก็แอบเป็นสายเนิร์ดหนังเบา ๆ เช่นเดียวกัน โดยในฉากที่ คีซอนกยอม และ อียองฮวา ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต อียองฮวา ก็ได้แนะนำให้ คีซอนกยอม รู้จักกับวิธีการส่งความรู้สึกโดยใช้นิ้วชี้ชนกัน แบบเดียวกันกับที่ปรากฏในภาพยนตร์อมตะในความทรงจำตลอดกาลอย่าง E.T. the Extra-Terrestrial หรือ อี.ที. เพื่อนรัก ผลงานชิ้นโบว์แดงของ Steven Spielberg ที่เล่าเรื่องราวความผูกพันของเด็กหนุ่มแสนโดดเดี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่ถูกเรียกว่า ‘อีที’ อีกด้วย
2001: A Space Odyssey (1968)
หากใครที่ไม่รู้มามาก่อน อาจจะเกิดความสงสัยตอนดูฉากนี้ทีแรกว่า ทำไมซีรีส์ถึงเน้นให้ดูซีนที่ พี่เมย์ โยนกระดูกจังน้า? แต่ถ้าได้รู้เหตุผลต่อไปนี้แล้วคงจะร้อง “อ๋อ” เพราะฉากโยนกระดูกนี้ เป็นฉากที่ล้อเลียนกับภาพยนตร์ไซไฟแนวอวกาศเรื่อง 2001: A Space Odyssey ของ Stanley Kubrick ที่นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีเทคนิคการสร้างสุดล้ำในยุคสมัยนั้น ทั้งงานภาพ เทคนิคการใช้ CG รวมไปถึงกับการตัดต่อฉากโยนกระดูกของเจ้าลิงจ๋อ ที่ถูกตัดฉับไปเป็นยานอวกาศซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระดูกแท่งนั้น ก็นับว่าล้ำสมัยสุด ๆ ในปี 1968 ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย จึงกลายเป็นฉากดังของวงการภาพยนตร์ที่ซีรีส์เรื่องนี้หยิบมาพาดพิงถึงด้วย
Kill Bill: Vol. 2 (2004)
แม้จะเป็นเพียงฉากสั้น ๆ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงคอยเก็บรายละเอียดทุกเม็ด เพราะในตอนที่ตัวละคร โอมีจู และ เมย์ ได้ไปออกกองแถบชนบท ซึ่งเป็นกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศซึ่งร่วมงานกับทางเกาหลี จึงทำให้ โอมีจู ต้องไปเป็นล่ามแปลภาษาให้กับทีมงานในกองถ่าย ซึ่งเมื่อพวกเธอได้เดินทางไปถึงสถานที่ถ่ายทำ ก็พบกับตัวเอกของหนังเรื่องดังกล่าวกำลังแสดงฉากฝึกต่อยเสาไม้ ซึ่งเป็นฉากที่ล้อเลียนกับภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill: Vol. 2 ที่ตัวละครเอกพยายามฝึกฝนทักษะการต่อสู้ด้วยการต่อยแผ่นไม้ โดยนอกจากนั้นแล้ว บนสเลทที่ปรากฏในซีรีส์เรื่อง Run On ได้เขียนไว้ว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถูกกำกับโดย Quentin Park ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill: Vol. 2 นี้ เป็นผลงานการกำกับของ Quentin Tarantino นั่นเอง เรียกได้ว่าเก็บทุกเม็ดจริง ๆ!
Temptation of Wolves (2004)
ลำดับต่อมา ซีนกางร่มนี้ คิดว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีคงคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือฉากหนึ่งที่ดังที่สุด และถูกนำมา parody อยู่บ่อยครั้งที่สุดตามซีรีส์เกาหลี และรายการวาไรตี้ต่าง ๆ กับฉากกางร่มท่ามกลางสายฝนสุดตราตรึงของ คังดงวอน จากภาพยนตร์เรื่อง Temptation of Wolves ที่แสดงออกมาได้อย่างน่าจดจำ และเสน่ห์ของเขาก็สามารถตรึงใจผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด จนกลายเป็นฉากในตำนานอีกฉากหนึ่งในบรรดาภาพยนตร์เกาหลีใต้ ซึ่ง Run On ก็ได้นำฉากนี้มาสอดแทรกในการเล่าเรื่องมโนภาพของ อียองฮวา เช่นเดียวกัน
A Moment to Remember (2004)
มโนภาพของ โอมีจู ยังคงทำงานอีกครั้ง เมื่อเธอพยายามจินตนาการความเป็นไปได้ต่าง ๆ หากเธอสารภาพรักกับ คีซอนกยอม ไป โดยความคิดของเธอนั้นได้ถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะ parody กับฉากโซจูฉากดังของภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าของเกาหลีใต้เรื่อง A Moment to Remember ซึ่งนำแสดงโดย จองอูซอง และ ซนเยจิน โดยฉากดังกล่าวในภาพยนตร์ ตัวละคร ชเวชอลซู ที่นำแสดงโดย จองอูซอง ได้สารภาพความรู้สึกของเขาด้วยวิธีที่น่าจดจำด้วยการรินโซูจูให้กับหญิงสาว พร้อมกับเอ่ยว่า “หากเธอดื่มนี่ ก็ถือว่าเราคบกัน” โดยในซีรีส์ Run On ได้ parody ให้ โอมีจู เป็นตัวละคร ชเวซอลซู และ คีซอนกยอม เป็น คิมซูจิน แทน เป็นสีนสันอีกอย่างหนึ่งที่โดนใจผู้ชมสายคอหนังในเกาหลีอย่างมาก
A Bittersweet Life (2005)
ไม่เพียงแต่เท่านั้น มโนภาพของ โอมีจู ยังคงดำเนินต่อไป โดยคราวนี้ เธอได้จินตนาการฉากสารภาพรักของเธอเป็นภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง A Bittersweet Life โดย คีซอนกยอม นั้นได้แสดงออกถึงอารมณ์คุกกรุ่นอัดแน่นไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเสียใจ พร้อมกับพูดว่า “คุณทำแบบนี้กับผมทำไม บอกผมมาสิ” ซึ่งล้อเลียนกับการแสดงซีนอารมณ์ของนักแสดงชั้นนำอย่าง อีบยองฮอน ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นเอง
Train Man: Densha Otoko (2005)
โอมีจู ยังไม่หยุดมโนเพียงแต่เท่านั้นค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน เพราะเธอยังคงจินตนาการความเป็นไปได้ หากเธอสารภาพรักกับ คีซอนกยอม เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Train Man:Densha Otoko ที่มีตัวละครหลักเป็นหนุ่มเนิร์ด ที่มักจะสร้างกระทู้ลงบอร์ดออนไลน์เพื่อขอแนวทางการจีบสาวจากชาวเน็ตอยู่เสมอ โดยในซีรีส์เรื่อง Run On ก็ได้หยิบคาแรคเตอร์หนุ่มเนิร์ดนี้มาใส่ในตัวละครของ คีซอนกยอม ในมโนภาพของ โอมีจู อีกด้วยเช่นเดียวกัน
High Kick Through The Roof (2009)
นอกจากจะสร้างสรรค์ฉาก parody ภาพยนตร์ดังมามากมายแล้ว Run On ยังคงเพิ่มเติมสีสันและสร้างความสนุกสนานในการรับชมด้วยฉากล้อเลียนซีรีส์ที่ต้องทำให้ผู้ชมร้องว้าวกับไอเดียในการสอดแทรกฉากต่าง ๆ เข้ามา โดยเฉพาะฉากที่ คีซอนกยอม และ โอมีจู พูดคุยกันในรถที่ปรากฏในตอนที่ 4 ของซีรีส์ Run On ที่ถ้าใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีตัวยงคงดูแล้วอาจจะนึกถึงซิตคอมเรื่องดัง High Kick Through The Roof ที่ ชินเซคยอง ร่วมแสดงในปี 2009 โดยฉากดังกล่าวได้ทำเป็น parody กับฉากจบในรถอันโด่งดังของซิตคอมเรื่อง High Kick Through The Roof ที่ตัวละครได้พูดถึงเรื่องราวโลกหลังความตายนั่นเอง
Hello Francesa (2005)
ปิดท้ายด้วยฉาก parody ล่าสุดที่ปรากฏในซีรีส์เรื่อง Run On ตอนที่ 13 กับการล้อเลียนบทพูดสุดกวน “นี่เธอเป็นบ้าเหรอ?” – “ก็นิดนึง” จากซิตคอมเรื่อง Hello Francesa จากช่อง MBC จากช่อง MBC ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวแวมไพร์ ซึ่งแฝงตัวอาศัยอยู่ในหมู่มนุษย์ โดยซีรีส์เรื่องดังกล่าวมีทั้งหมด 3 ซีซั่นที่ออกอากาศในปี 2005-2006
เป็นยังไงกันบ้าง? เรียกได้ว่าสอดแทรกฉาก parody มาอย่างมากมายอัดแน่นตลอดทั้งเรื่อง แถมหลาย ๆ ฉากยังใส่มาได้แนบเนียนกับเนื้อเรื่องสุด ๆ จนดูครั้งแรกอาจจะนึกไม่ออกว่านี่ก็เป็นฉาก parody นี่นา คงต้องมาจับตารอลุ้นในช่วง 2 ตอนสุดท้ายแล้วว่าจะยังมีอะไรให้เรามาได้สังเกตสนุก ๆ ว่าพูดถึงภาพยนตร์เรื่องไหนกันอีก โดยแฟน ๆ สามารถรอติดตามซีรีส์เรื่อง Run On ได้ในวันพุธ-พฤหัสบดี ทางช่อง JTBC และ Netflix
บทความที่เกี่ยวข้อง
คิมซอนโฮ คอนเฟิร์มมาเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ Run On
มาดูปฏิกิริยาของ อิมชีวาน ระหว่างไลฟ์ IG เมื่อมีแฟน ๆ บอกว่าเขาหน้าคล้ายกับ วินวิน NCT127/WayV
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries