“ถนน 2 สาย 2 โชคชะตา” ในบทวิเคราะห์ EP5-6 เราได้ทำความเข้าใจถึงทางแยกของโลกคู่ขนานกันไปบ้างแล้ว และได้เห็นว่าผลที่ตามมาของทางแยก หรือการตัดสินใจที่แตกต่างกันนั้น ส่งผลต่อโลกคู่ขนานได้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ซอคยอง ที่ต้องใช้ชีวิตในวัยรุ่นมาอย่างยากลำบาก หรือ คิมจินอู ในโลกคู่ขนาน B ที่ไม่มี “โดวอน” คอยอยู่เตือนสติ ทำให้เขาพลั้งมือทำร้ายคนอื่นจนอาการสาหัส ชีวิตพลิกผันจากตำรวจสายสืบ กลายเป็นโจรอีกด้วย และต่อไปนี้คือภาพรวมของ EP.7-8 ของซีรีส์ที่ว่าด้วยโลกคู่ขนานเรื่องนี้ครับ
บทความก่อนหน้า : RECAP | สรุปภาพรวมซีรีส์ Train EP.5-6 ทางแยกแห่งชะตากรรมของโลกคู่ขนาน
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง*
สามารถรับชมซับไทยถูกลิขสิทธิ์ซีรีส์ Train ได้ที่ VIU <คลิก>
ความตายของ “โจยองรัน”
ต่อเนื่องจาก EP5-6 หลังจาก จินอู หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบุกเข้ามาที่บ้านของ โจยองรัน แล้ว เขาได้พบว่า เธอได้กลายเป็นศพตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้ามาในบ้าน ซึ่งตรงกับจังหวะที่ทีมสืบสวนของ โดวอน ตามรอย จินอู เข้ามาระงับเหตุในบ้านพอดี ความเชื่อมโยงในคดีนี้ จึงไปตกอยู่ที่ ซอคยอง เพราะศพของผู้หญิงในห้องนี้ คือ แม่เลี้ยงของเธอที่สร้างบาดแผลในใจไว้ให้ตั้งแต่เด็ก มีเพียง โดวอน เท่านั้นที่อ่านเกมออกว่า นี่คือฝีมือของฆาตกต่อเนื่องเมื่อ 18 ปี ก่อน เขาจึงต้องพยายามให้ จินอู ร่วมมือในคดีนี้ให้ได้ จุดนี้ทำให้เราได้เห็นฉากปะทะกันระหว่าง โดวอน กับ จินอู และเป็นที่มาของคำพูดปิดท้ายที่เป็นจุดพลิกผันของ ว่า “…จะอยู่ในโลกไหน โลกที่ฆ่าคนตาย หรือโลกที่ได้ช่วยชีวิตคน…”
“อีซองอุค” จากโลกคู่ขนาน B
เราได้รู้กันมาตั้งแต่ EP1-2 ของ TRAIN แล้วนะครับ ว่า อีซองอุค หลังจากเกิดอุบัติเหตุหัวชนกับเสาโทรศัพท์ สมองของเขาก็ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้การแสดงออกของเขามีพฤติกรรมคล้ายกับเด็ก แม้จะเห็นขบวนรถไฟ ก็ไม่สามารถให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดีได้ มีเพียงคำพูดเดิมซ้ำๆ ที่โดวอน ได้รับตอนบุกเข้าไป คือ “ฉันฆ่าเองๆ”จุดนี้ซีรีส์ได้คลี่คลายให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้ว อีซองอุค ในโลกคู่ขนาน B นั่นแหละ ที่เป็นผู้มีส่วนร่วมในการหายตัวไปของเหยื่อแต่ละคน แต่เขาก็ยังไม่ใช่คนที่ลงมือฆ่า โจยองรัน เพราะบาดแผลที่เกิดจากการป้องกันตัวของ ซอคยอง ในวัยเด็ก ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็น ต้องใช้มือซ้ายในการทำสิ่งต่างๆมาตลอด แต่ข้อมูลจากนิติเวชบอกว่า คนร้ายถนัดขวา คำถามที่ตามมาสำหรับทีมสืบสวนทุกคนคือ แล้วใครกันล่ะที่เป็นฆาตกรตัวจริง? ในเมื่ออีซองอุค ถูกตัดความเป็นไปได้ออกไปแล้ว และการจะสอบปากจากเขาก็อยากขึ้นไปอีก เพราะอุบัติเหตุที่เกิดกับ อีซองอุค โลกคู่ขนาน B ระหว่างถูกจับกุม ทำให้เขามีสภาพไม่ต่างจาก อีซองอุค ในโลกคู่ขนาน A เลย
“ซอกมินจุน” ผู้อยู่เบื้องหลัง
ย้อนกลับไปในคืนฆาตกรรม ของซีรีส์เรื่อง TRAIN วันที่ ซอแจซอล ถูกโยนความผิดให้เป็นแพะรับบาปในความผิดที่เขาไม่ได้ก่อ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของ ซอคยอง และ โดวอน ทุกข์ทรมานมาตั้งแต่นั้น จุดที่โดวอน สงสัยมาตลอด คือ ฆาตกรที่ก่อคดีขึ้นในปัจจุบันนี้ คือ ฆาตกรคนเดียวกับที่ลงฆ่าพ่อของซอคยอง เมื่อ 18 ปีที่แล้ว และเพื่อจะตอบคำถามให้ได้ว่าใคร คือ คนร้ายตัวจริง เราจึงได้เห็นความทรงจำจากของ 3 ตัวละคร ได้แก่ โดวอน แจซอล และซองอุค สำหรับซองอุค เขาเหมือนคนที่ตกกระไดพลอยโจน เพราะเลือกจะเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุฆาตกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับโดวอน ในคืนเกิดที่เขาช่วยชีวิตพ่อไว้ เขาสันนิษฐานว่าคนร้ายไม่ได้มีเพียงคนเดียว และรถคันที่จะชนพ่อของเขานั่นแหละที่น่าสงสัยที่สุด และคนสุดท้ายที่สำคัญต่อรูปคดีมากที่สุด คือ ซอแจซอล พ่อของโดวอน และเพื่อจะให้ได้ความทรงจำนี้มา และซอคยองรู้แล้วว่า พ่อของ โดวอน เป็นผู้บริสุทธิ์ เธอจึงได้ไปขอคำปรึกษาจาก ซอกมินจุน จิตแพทย์ประจำตัวของเธอ เพื่อให้เขาช่วยดึงความทรงจำของซอแจซอลในวันนั้นออกมา แต่ความจริงที่น่าตกใจ ก็เผยตัวอีกครั้ง เพราะกลับกลายเป็นว่าคนร้ายตัวจริง คือ “ซอกมินจุน” คนที่อยู่ใกล้ตัว ซอคยอง มากที่สุดนั่นเอง (ข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับตัวละครนี้ คือ เขามีอาการของโรคฮันติงตัน ซึ่งโรคนี้จะส่งผลให้ สมองของผู้ป่วยสูญเสียความทรงจำ และส่งผลให้การทำงานของร่างกายผิดปกติ)
ฉันนี่แหละคือ “โชคชะตา”
หากเรามองภาพรวมของ TRAIN ตั้งแต่ EP1-8 สิ่งหนึ่งที่เราเห็นชัดเจน คือ ชาตากรรมของคนจากโลกคู่ขนานนั้น แม้รายละเอียกจะต่างกัน แต่ตอนจบค่อนข้างคล้ายกัน เพราะโดวอน ไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอในโลกนี้ ทำให้เธอต้องเผชิญกับชะตากรรมอันเลวร้าย แม้ว่าโดวอน จะช่วยพ่อของเขาได้ แต่พ่อของเขาก็ต้องติดคุกรับโทษเป็นระยะเวลานาน ส่วนตัวเขาเองก็ถูกมองในฐานะลูกชายของ “ฆาตกร” มาตลอดชีวิต ไม่ตายก็เหมือตาย เขาจึงกลายเป็น โดวอน ที่เหลวแหลก และในที่สุดก็หันไปพึ่งพายาเสพติด สมกับที่ โดวอน จากโลกคู่ขนาน A บอกกับร่างแฝดตอนที่เขากลับมาทวงที่ของตัวเองในโลกนี้คืนว่า “นายเป็นฉันในเวอร์ชันที่แย่ที่สุด” คำพูดนี้ค่อนข้างทรงพลัง เพราะมันทำให้ โดวอน ที่กำลังตัดสินใจจะเล่นยา หยุดยั้งความคิดของตัวเอง และกลับมามุ่งมั่นที่จะตามหา “ฆาตกร” ตัวจริงอีกครั้ง แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่น่าติดตามมากในสัปดาห์หน้าก็มาถึง เมื่อโดวอนจากโลกคู่ขนาน A พบว่า ซอแจซอล พ่อขอเขา และโดวอน โลกคู่ขนาน B ที่ถูกรถชนอยู่กลางถนน ตรงนี้คือเหตุการณ์ที่ซีรีส์ตั้งใจให้ไปซ้อนทับกับตอนที่ โดวอน เคยเห็นพ่อตายมาแล้วครั้งหนึ่งในโลกของตัวเอง และภาพตรงหน้าทำให้ โดวอน พูดหัวใจสำคัญของ EP นี้ออกมา นั่นคือ “ฉันไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโชคชะตา แต่โชคชะตาเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันคือ โชคชะตา!!” ตรงนี้น่าสนใจว่า ในสัปดาห์หน้า โดวอน จะรับมือกับฆาตกรตัวจริงได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ยังก็ไม่รู้ว่า “คนๆนั้น” อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด และพยานที่จะชี้ตัวคนร้ายได้อย่าง อีซองอุค ผู้สมรู้ร่วมคิดในที่เกิดเหตุ ซอแจซอล ที่จำหน้าของคนร้ายได้แล้ว และโดวอน จากโลกคู่ขนาน B ที่พบรายชื่อในใบจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วย ต่างก็อยู่ในสภาพที่สุ่มเสี่ยงจะเสียชีวิตไม่ต่างกัน
สามารถรับชมซับไทยถูกลิขสิทธิ์ซีรีส์ Train ได้ที่ VIU <คลิก>
บทความที่เกี่ยวข้อง
RECAP | สรุปภาพรวมซีรีส์ Train EP.1-2 จุดเริ่มต้นปมปริศนาที่มาพร้อมพล็อตโลกคู่ขนาน
RECAP | สรุปภาพรวมซีรีส์ Train EP.3-4 เมื่อคนเป็นกลับตายและคนตายกลับเป็น
RECAP | สรุปภาพรวมซีรีส์ Train EP.5-6 ทางแยกแห่งชะตากรรมของโลกคู่ขนาน
ติดตาม RECAP และบทวิเคราะห์เรื่อง TRAIN ได้ทุกสัปดาห์ที่ Korseries หรือถ้าหากใครอยากอ่านRECAP และบทวิเคราะห์แบบเจาะลึกเฉพาะตอนสามารถติดตามนักเขียนได้ที่แฟนเพจ Nottchakun
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries