Strongest Deliveryman
เรื่องราวความรักและหนทางแห่งความสำเร็จของ ชเวคังซู (รับบทโดย โกคยองพโย) ชายหนุ่มแสนดีที่ไม่มีครอบครัว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานจัดส่งอาหารโดยจะเปลี่ยนที่ทำงานทุก ๆ 2 เดือน มีความใฝ่ฝันที่อยากจะสร้างธุรกิจศูนย์กลางพนักงานจัดส่งอาหารเพื่อซัพพอร์ตให้กับภัตตาคารต่าง ๆ ร้านอาหารจีนของ เชฟจางดงซู และสาวใหญ่สุดสวย ซุนแอ เป็นที่ทำงานที่สุดท้ายของเขาและเป็นที่ที่ทำให้ได้เจอและตกหลุมรัก อีดันอา (รับบทโดย แชซูบิน) สาวสวยสุดสตรองเก่งกาจเรื่องการต่อสู้ที่ทำงานเป็นพนักงานจัดส่งอาหารให้ร้านนี้มา 5 ปีแล้ว กำลังพยายามเก็บเงินให้ครบ 100 ล้านวอนเพื่อย้ายไปอยู่ต่างประเทศให้เร็วที่สุดเพราะมีความทรงจำที่ไม่ดีกับครอบครัว รวมถึงยังได้เจอกับ อีจียุน (รับบทโดย โกวอนฮี) คุณหนูจากครอบครัวเศรษฐีที่หลงรัก ชเวคังซู เพราะเคยช่วยชีวิตเธอไว้ และ โอจินคยู (รับบทโดย คิมโจฮุน) หนุ่มบ้านรวยผู้ไม่เคยทำงาน วัน ๆ ใช้แต่เงิน พ่อไม่เหลียวแล สร้างแต่ปัญหาจนวันหนึ่งตัดสินใจฆ่าตัวตายและ อีดันอา มาช่วยไว้เลยตกหลุมรักเธอเข้าอีกคน จากคนละจุดหมาย จากคนละเรื่องราว จากคนละความฝัน แล้วทุกอย่างจะจบแบบแฮปปี้มั๊ยนะ ต้องลองติดตามกันค่ะ ^^
ซีรีส์รอมคอมเรื่องใหม่ของช่อง KBS2 กับการพลิกบทบาทมาเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกของ โกคยองพโย โดยใช้ทรงผมหยิกหยอยมาเป็นจุดขายเฉพาะตัว ที่ต้องยอมรับในจุดหนึ่งว่าทรงผมนี้ขัดใจผู้ชมหลาย ๆ คน จากการแอบสอบถามมา (ทรงผมนี้จะหายไปแล้วกลับมาหล่อเหมือนเดิมหลังจากตอนที่ 10 นะคะ อิอิ) แต่หลังจากที่ได้รับชมแล้ว ขอแจงตรงนี้เลยว่า สนุก ตลก ฮา และเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี การดำเนินเรื่องราวทำได้กระชับน่าติดตาม ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป แม้แต่ซีนที่คิดว่าไม่มีความสำคัญก็ทำให้ตลกและเพลิดเพลินได้จนไม่คิดจะกดข้ามใด ๆ ซีนที่ตลกคือตลกจริง ๆ ซีนที่ซึ้งคือน้ำตาซึมเบา ๆ ซีนที่สวีทก็บิดหมอนจนเบี้ยวกันไป ด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่เครียดหรือดราม่ามากจนเกินไป จึงถือเป็นอีกเรื่องที่ไม่มีพิษมีภัย สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งยังแฝงข้อคิดดี ๆ ไว้อีกมากมาย
ในส่วนของการแสดง ฝีมือของนักแสดงชุดนี้อยู่ในระดับที่เรียกว่ามืออาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกตัวละครมีส่วนทำให้ความสนุกของเรื่องนี้มีมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับตัวหลัก ๆ แล้ว โกคยองพโย เก่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้เป็นพระเอกแล้ว (ดีใจด้วยนะคะ อปป้า คริคริ =D) แชซูบิน บทสาวห้าวที่เก่งเรื่องพะบู๊พ่วงมากับใบหน้าน่ารักสวยหวานมาก ๆ เหมือนเดิม บทนี้เธอทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเธอห้าวจริง ๆ โกวอนฮี เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่รู้จักเธอและเธอเล่นได้ดีตลกน่ารักและสดใส ในส่วนบทของพระรอง คิมซุนโฮ เพิ่งเดบิวต์ผลงานการแสดงเรื่องแรกคือ Chief Kim (เป็นสมาชิกรุ่นน้องหนึ่งในทีมของพระเอกนางเอกที่คาแรคเตอร์จะเอ๋อ ๆ หน่อย) ซึ่งถ้านับเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่สองก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีมาก มากจนนึกว่าเป็นดารามานานแล้ว ความฮาแบบธรรมชาติ ๆ กับการแสดงที่เหมือนไม่ได้แสดงแบบนี้ ต่อยอดได้แน่นอนค่ะ
ข้อคิดดี ๆ จากตัวละคร ชเวคังซู
- การที่เคยเป็นพนักงานส่งอาหารมานานและหลายที่ ทำให้พบเจอกับปัญหาและสไตล์การทำงานที่หลากหลาย จึงสามารถนำมาแก้ไขได้ตอนที่เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง
- ไม่เคยหยุดที่จะศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และจดบันทึกทุกอย่างไว้จนกว่าจะถึงวันที่จะเริ่มปฏิบัติการจริง
- ความเป็นคนดี ความคิดบวก และความไม่นิ่งเฉยต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นจุดที่ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของศีลธรรมได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจเงินเหมือนองค์กรอื่น ๆ
- สิ่งที่สำคัญที่สุด ความไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะล้มแล้วล้มอีก เพราะจุดมุ่งหมายมีไว้พุ่งชน ทำให้ ชเวคังซู ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
เกล็ดความรู้กับการจัดส่งอาหารในเกาหลีใต้
การบริการจัดส่งอาหารโดยใช้พนักงานเดลิเวอรี่ในเกาหลีใต้นั้นจะจัดส่งโดยบรรจุใส่จานชามแก้วแบบเดียวกับภาชนะที่ใช้ตอนลูกค้ามาทานที่ร้าน แล้วแร็ปพลาสติใสไว้ หลังจากนั้นจะวางใส่กล่องที่จะไปตั้งไว้ที่ด้านหลังมอเตอร์ไซค์อีกที ทั้งนี้เพราะคนที่โน่นให้ความสำคัญเรื่องความสดของอาหารที่ทำเสร็จใหม่ ๆ ค่อนข้างมาก การใส่ในภาชนะแบบนี้เป็นการกักเก็บความอุ่นและความอร่อยได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากลูกค้าทานเสร็จ พนักงานจัดส่งอาหารคนเดิมจะรับผิดชอบในการกลับมาเก็บจานชามเหล่านั้นกลับไปส่งที่ร้านอาหารตามเดิม ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบทั้งส่งและนำกลับในหนึ่งออเดอร์ สำหรับประเทศไทย ถ้าอยากเอาวิธีนี้ไปลองใช้ก็น่าจะพอได้อยู่เหมือนกัน การทานอาหารจากชามแก้วน่าจะได้ความเนียนมากกว่าการแกะถุงเทใส่ชาม และช่วยประหยัดทรัพยากรโลกในเรื่องของการลดการใช้ถุงพลาสติกได้อีกทางด้วยค่ะ
หากลองเปรียบเทียบตัวละครหลัก 2 ตัว เริ่มที่นางเอก อีดาอิน สาวที่ออกมาต่อสู้ชีวิตเองเพราะไม่พอใจครอบครัวที่สร้างภาระหนี้สินให้เธอรับผิดชอบจนอยากหนีไปอยู่ต่างประเทศและไม่ยอมช่วยเหลือครอบครัวในทางใดเลย ในทางกลับกัน ชเวคังซู มีพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งจนเสียชีวิตและแม่ที่หนีไปตั้งแต่ตอนพ่อไม่สบาย มีแต่เพื่อน ๆ ที่เป็นครอบครัว ทำให้คิดขึ้นมาได้อย่างหนึ่งว่า ความเป็นครอบครัว มีพ่อแม่พี่น้อง ไม่ว่าจะรักหรือเกลียดกันก็ตาม ก็ยังดีกว่าอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบไม่มีใคร จงรักและทำดีต่อกันซะตั้งแต่ตอนที่ยังไม่สายนะคะ …
ขอทิ้งท้ายไว้โดยกล่าวถึงในซีนหนึ่งที่มันแทงใจดำจี๊ด ๆ ในตอนที่มีคุณแม่กำลังเดินจูงลูกชายผ่าน อีดาอิน ในขณะที่เธอกำลังไปส่งอาหาร แล้วคุณแม่คนนั้นก็หันไปบอกลูกชายว่า “ถ้าลูกไม่ตั้งใจเรียน อีกหน่อยต้องทำงานแบบพี่คนนี้นะ” ถ้าอยากหาเงินได้เยอะ ๆ และได้ทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ ต้องตั้งใจเรียน ก็ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าอยากเป็นคนดีด้วย ต้องไม่ดูถูกมนุษย์ด้วยกันเอง ทุกอาชีพถ้าสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่มีอาชีพไหนด้อยไปกว่ากันแน่นอน ขอแค่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ
ธุรกิจการจัดส่งอาหารจะพัฒนาและประสบความสำเร็จไปได้แค่ไหน ความรักของพ่อหนุ่มหัวหยิกกับสาวบู๊หน้าหวานจะจบลงอย่างไร แล้วมันสนุกและตลกอย่างที่รีวิวจริงหรือไม่ อย่ามัวรอช้าค่ะ คุณต้องลองพิสูจน์เองได้ใน….