จบไปแล้วกับงาน Korean Brand & Entertainment Expo 2019 (KBEE 2019) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 – 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ Royal Paragon Hall ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งได้มีการประกาศให้ได้ทราบโดยทั่วกันว่า ทางหน่วยงานได้ตัดสินใจเลือก นักแสดงสาว ซงจีฮโย และ ศิลปินวง WINNER เป็นทูตกิตติมศักดิ์ของงานในครั้งนี้ ทำให้แฟนๆในประเทศไทยต่างให้ความสนใจมาร่วมงานเป็นอย่างมาก และมีผู้มาร่วมงานมากกว่า 22,000 คน ภายในช่วงการจัดงาน 2 วัน
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จัก ซงจีฮโย กันดีผ่านผลงานรายการวาไรตี้ชื่อดัง “Running Man” ผลงานการแสดงทั้งในซีรีส์และภาพยนตร์มากมาย รวมไปถึงรายการบิวตี้ของเธอ “Song Ji Hyo’s Beautiful Life” ซึ่งส่งให้เธอได้รับเลือกให้เป็นทูตกิตติมศักดิ์เป็นครั้งที่ 4 สำหรับงานนี้
และนับเป็นโอกาสดีที่ Korseries ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ซงจีฮโย ถึงความรู้สึกในการมาประเทศไทยในครั้งนี้ และ ซงจีฮโย ยังได้ตอบคำถามมากมาย เกี่ยวกับการทำงานในรายการ Running Man งานแสดง รวมไปถึง ชีวิตส่วนตัวของเธอ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของเธอกันได้เลย~
ช่วยเล่าความประทับใจทริปที่ประเทศไทยหน่อยได้ไหม ?
ฉันประทับใจทุกครั้งที่มาประเทศไทยค่ะ เมื่อวานฉันได้ไปที่ซุปเปอร์มาเก็ต น้องของฉันชอบทานก๋วยเตี๋ยวแห้ง ฉันเลยซื้อมา นอกจากก๋วยเตี๋ยวก็ได้ซื้ออีกหลายอย่างเลยค่ะ แล้วทีมงานก็ซื้ออาหาร Local ของทีนี่ให้ฉันทานด้วยค่ะ
มาไทยทั้งหมดกี่ครั้งแล้ว ?
ทุกครั้งที่มาไทย ฉันก็คิดว่าจะทำอะไรดี จะทานอะไรดีนะ ฉันมาประเทศไทยหลายครั้งมากจริงๆค่ะ น่าจะมากกว่า 10 ครั้งแล้ว ตอนมาเที่ยวครั้งแรกฉันมากับเพื่อนผู้หญิงที่ภูเก็ตค่ะ แล้วฉันก็จำได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ความทรงจำในการมาเที่ยวที่นี่คือดีมากค่ะ
มาไทยบ่อยขนาดนี้มีภาษาไทยที่พูดได้ไหม?
“สวัสดีค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ได้แค่นี้เลยค่ะ ฉันอยากพูดคำว่าขอโทษมาตลอดแต่ว่าจำไม่ได้สักที “ขอโทษค่ะ” ตอนนี้พูดได้แล้ว ฉันคิดว่าถ้าพูดขอโทษกับขอบคุณได้ สองอย่างนี้ก็น่าจะอยู่รอดค่ะ
มาไทยครั้งนี้ คุณมาในฐานะทูตงาน KBEE 2019 ได้รับเลือกให้เป็นทูตของงานรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
ฉันทราบมาว่านี่ถือเป็นปีที่ 9 นับตั้งแต่ที่ KBEE จัดขึ้นครั้งแรก ซึ่งฉันก็ดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ รู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบในการเป็นทูต และก็คิดว่าต้องตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ
คุณซงจีฮโยเป็นนักแสดงที่สวยมาก ไม่ทราบว่าพอจะมีเคล็ดลับอะไรในการดูแลตัวเองบ้างไหม ?
ฉันว่าฉันไม่ค่อยมีเคล็ดลับอะไรค่ะ ฉันคิดว่าการที่ป้องกันการแก่ที่ดีที่สุดก็คือ การไม่กลัวการแก่ และ ยอมรับมันให้ได้ค่ะ
มีเวลาได้ออกกำลังกายบ้างไหม ?
ฉันออกกำลังกายทุกวันจันทร์ที่รายการ “Running Man” ค่ะ ช่วงอายุ 20 ฉันมีแรงเยอะก็เลยมีแรงได้ออกกำลังกายบ่อย แต่ตอนนี้การพักผ่อนน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันค่ะ
ในรายการ “Running Man” คุณอยู่ท่ามกลางสมาชิกที่เป็นผู้ชายหลายคน ในขณะที่ในรายการ “Pajama Friends” มีแต่เพื่อนๆสมาชิกที่เป็นผู้หญิง การทำงานของทั้งสองรายการนี้แตกต่างกันบ้างไหม ?
เป็นคำถามที่ยากเหมือนกันนะคะ ฉันไม่ค่อยได้นึกถึงจุดประสงค์ในการทำรายการ แต่จะสนใจว่าได้ร่วมงานกับใครบ้าง ฉันไม่คิดว่าตัวรายการท้ังสองต่างกันยังไง เพราะฉันเชื่อใจในทีมงานของทั้งสองรายการค่ะ
ในรายการ Running Man จะชอบมีพาร์ทที่ต้องเสี่ยงดวง คุณคิดว่าฉันมีดวงบ้างหรือเปล่า
ฉันคิดว่าฉันพอจะมีดวงอยู่นะคะ ตอนนอกกล้องจะไม่ค่อยมีดวง แต่พอถ่ายจริงชอบมีดวงค่ะ (หัวเราะ)
วงการบันเทิงเกาหลีตอนนี้ไม่ได้โด่งดังแค่ในเอเชียแล้ว แต่ยังแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก รู้สึกอย่างไรกับการเป็นหนึ่งในคนดังในวงการบันเทิงเกาหลี ?
ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจค่ะ ฉันคิดว่าฉันควรที่จะตั้งใจทำงานให้ได้มากกว่านี้ มันน่าจะเป็นผลดีต่อวัฒนธรรมเกาหลีได้ค่ะ
เวลาคุณจะเลือกรับงานสักชิ้นหนึ่ง มีหลักในการตัดสินใจเลือกรับงานหรือไม่ อย่างไรบ้าง ?
ฉันไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์ในการเลือกรับงานเท่าไหร่ค่ะ แต่ว่าหลักๆก็คือจะพยายามเลือกทำอะไรที่เป็นแนวใหม่ๆ เพราะว่าฉันไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆเดิมค่ะ แล้วฉันจะรู้สึกดีตอนที่ทำนสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อนด้วยค่ะ
จะมีผลงานหรืออะไรให้แฟนๆได้ติดตามต่อจากนี้บ้าง ?
ตอนนี้ฉันเพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จไปเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ว่ายังไม่แน่ใจว่าจะได้ฉายปีนี้หรือปีหน้านะคะ ผลงานนี้เป็นแนวที่ฉันไม่ค่อยแสดงมาก่อนด้วยค่ะ บอกเลยว่าเป็นหนังที่น่ากลัวค่ะ
มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆชาวไทยไหม ?
รายการ “Running Man” ได้เคยมาถ่ายที่ไทยเมื่อ 8 ปีที่แล้วในตอนนั้นรายการไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่หลังจากมาถ่ายทำที่นี่ รายการก็เริ่มบูมขึ้น เราก็ได้คุยกันในทีมว่าเป็นเพราะว่าพวกเราได้รับขวัญกำลังใจที่ดีจากแฟนๆชาวไทย ทุกครั้งที่ฉันมาไทยแล้วกลับไป ฉันรู้สึกประทับใจในนิสัยของคนไทยที่ดูเป็นคนจริงใจมากเลยค่ะ
หลังจบการสัมภาษณ์สิ่งแรกที่นักแสดงสาวคนนี้ทำ คือ การโค้งขอบคุณ ก่อนที่จะเดินไปหยิบขวดน้ำมาให้นักข่าวด้วยตัวเอง แล้วพูดเป็นภาษาเกาหลีว่า ‘ไว้พบกันอีกในคราวหน้านะคะ’ การสัมภาษณ์ครั้งนี้จบลงด้วยความประทับใจ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เราได้พบและพูดคุยกับ ซงจีฮโย แต่บอกได้เลยว่าสัมผัสได้ถึงความจิตใจดี ร่าเริง และเป็นกันเองของเธอเช่นเดียวกันกับที่เห็นในโทรทัศน์จริงๆ