ข้อความลับช่วยชีวิตหญิงไทยกลุ่มหนึ่งไว้ได้ หลังจากที่เธอถูกบังคับให้ค้าบริการทางเพศ ในประเทศเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เว็บไซต์ allkpop ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงจากการรายงานของ JTBC News ว่า ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม มีหญิงไทยคนหนึ่ง ได้เดินเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ต ที่เมืองปูซาน ในเวลาประมาณ 4.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเธอได้ยื่นข้อความลับให้กับแคชเชียร์คิม วัย 27 ปี
ในข้อความลับ มีทั้ง ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และ ภาษาไทย โดยหญิงไทยคนนี้อ้างว่า เธอถูกขังไว้ที่ชั้น 4 ของตึก ซึ่งได้ถูกบังคับให้ทำงานอย่างผิดกฎหมาย
แคชเชียร์ที่ได้รับข้อความลับจากหญิงไทยคนนี้ ได้ถามเธอว่า “คุณอยากจะให้โทร 112 (บริการฉุกเฉิน)ใช่ไหม?” หญิงไทยที่มาพร้อมกับชายจำนวนมากที่ตามประกบตัวเธอไว้ในขณะนั้น ได้ปฏิเสธ แต่แคชเชียร์ใช้กลอุบายแกล้งทำเป็นขอเบอร์โทรศัพท์จากเธอ โดยอ้างว่าใช้ในการสะสมคะแนน
หลังจากที่หญิงสาวคนนี้ออกจากร้านไป แคชเชียร์คนดังกล่าวได้ติดต่อตำรวจ เวลา 8.30 น. ด้านตำรวจจึงเริ่มต้นทำการสืบสวนตึกบริเวณรอบๆซุปเปอร์มาเก็ต แต่ต้องประสบกับความยากลำบากในการสืบสวน เนื่องจากในโน้ตลับไม่ได้มีเขียนรายละเอียดใดๆไว้เลย
อย่างไรก็ตาม เบอร์โทรศัพท์ในโน้ตลับสามารถที่จะช่วยในการสืบค้น และเชื่อมโยงไปยังเบอร์โทรศัพท์ของ นายอี วัย 38 ปี ซึ่งเคยเปิดธุรกิจค้าบริการทางเพศ ที่มีชื่อว่า “Kiss Room”
ประจวบเหมาะกับ เพื่อนของหญิงไทยคนนี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Facebook ซึ่งสามารถช่วยในการทำการสืบสวนได้ ในโพสต์ประกอบด้วยรูปของโน้ตลับ และ บอกว่าเพื่อนของเธอถูกขังและถูกบังคับให้ค้าประเวณีในปูซาน
ด้วยหลักฐานดังกล่าว ตำรวจได้เร่งเข้าไปสืบค้นในตึกที่คาดว่าหญิงไทยถูกขังไว้อยู่ และบุกเข้าจับกุมนายอี และ ชายอีก 4 คน โดยในตึกนั้นมีหญิงไทย จำนวน 5 คน ที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี
ด้านตำรวจได้เผยว่า นายอี วัย 38 ปี ได้นำตัวหญิงไทย 5 คนมาขายบริการ หลังจากการแนะนำของนายคิม วัย 40 ปี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้ขังหญิงไทย 5 คน ไว้ในตึกตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึง พฤษภาคม และทำธุรกิจสถานบริการทางเพศ โดยนายอี เผยว่า เขาได้รับเงินจำนวน 100,000 วอน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 บาท) ต่อการขายบริการ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม หญิงไทยไม่ได้รับค่าจ้างใดๆในเดือนแรก และ ได้รับเงินเพียง 40,000 วอน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,200 บาท) ในเดือนที่สอง ต่อการขายบริการ 1 ครั้ง
ตำรวจยังได้ติดตามพบ 53 คนที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าประเวณี ซึ่งการสืบสวนพบว่า ยังมีชายอีกกว่า 300 คนที่ต้องสงสัยว่าเคยมาใช้บริการสถานบริการทางเพศแห่งนี้
source : 1 , JTBC news