ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1980 ณ เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ กำลังทหารบุกเข้าปราบปรามนักศึกษา ประชาชนที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารนายพล จอนดูฮวานอย่างราบคาบ ผู้คนล้มตายอย่างน่าอนาถใจ ไม่มีใครขัดขวางการบุกสลายการชุมนุมนี้ได้ เพราะจะถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏทันที หลายชีวิตถูกสังเวยเพียงเพื่อแค่ต้องการให้ประชาชนสยบต่ออำนาจรัฐประหาร หลังประธานาธิบดีพัคจองฮี ถูกลอบสังหารโดยหัวหน้าสำนักข่าวกรองเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 1979 กระทั่งนายพล จอนดูฮวาน และนายพลโน แทอู เข้ายึดอำนาจจนทำให้ประชาชนชาวกวางจูและที่อื่น ๆ ไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยไว้ที่ปลายกระบอกปืน
‘May 18’ เล่าเรื่องราวของ คังมินอู (รับบทโดย คิมซังคยอง) ชายคนขับแท็กซี่ประจำเมืองกวางจูที่อาศัยอยู่กับน้องชาย คังจินอู (รับบทโดย อีจุนกิ) เพียงลำพัง เขากำลังตามจีบพยาบาลสาว พัคชินแอ (รับบทโดย อีโยวอน) ลูกสาวของอดีตนายพลใหญ่ พัคฮึงซู (รับบทโดย อันซังกิ) ที่ออกจากตำแหน่งมาใช้ชีวิตอยู่แบบเรียบง่ายทำอาชีพเถ้าแก่อู่รถแท็กซี่ที่มินอูสังกัดอยู่ โดยมีน้องชายตัวแสบคอยเป็นพ่อสื่อให้เสมอ ๆ ทุกครั้งที่จะนัดเจอชินแอเขามักจะไหว้วานให้จินอูเป็นธุระจัดการตลอดเวลา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นหนังรักโรแมนติกธรรมดา ๆ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม มินอู จินอู และชินแอ นัดพบกันเพื่อที่จะไปชมภาพยนตร์ที่อยู่ในตัวเมืองกวางจู ในระหว่างที่ทั้งสามเดินทางมายังจุดนัดพบ สัญญาณประหลาด ๆ แห่งหายนะก็เริ่มก่อตัว ทั่วทั้งถนนเต็มไปด้วยภาพทหารถือกระบองไล่ฟาดประชาชน ถึงกระนั้นทั้งสามคนก็ยังเข้าไปชมภาพยนตร์ตามที่ตกลงกันไว้เหมือนเดิม ไม่นานนักทหารนายหนึ่งก็ไล่ตีประชาชนจะเลยเถิดเข้ามาถึงในโรงฉายภาพยนตร์ ตามด้วยแก๊สน้ำตาที่เริ่มคละคลุ้งเข้ามา จนผู้คนที่มาชมภาพยนตร์รวมไปถึงทั้งสามคนต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากนั้นเรื่องราวการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพจึงเริ่มต้นขึ้น และถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อันน่าสลดใจที่สุดเรื่องหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้
การเล่าเรื่องของ ‘May 18’ จะดำเนินไปตามวันที่และเหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยมีสี่นักแสดงนำเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งหมด หากใครที่ไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงก็ยังสามารถรับชมได้อย่างไม่ติดขัด เนื่องจากในเรื่องได้เล่าไว้แบบครบถ้วนพอสมควรแล้ว บทภาพยนตร์ถูกเขียนอย่างปราณีตและทรงคุณค่า มีประโยคกระแทกใจแทรกขึ้นมาอยู่หลายประโยค เช่น “รู้ไหม อะไรที่มีอำนาจมากกว่าปืน ก็ประชาชนยังไงล่ะ” ข้อความเหล่านี้ทำให้ภาพยนตร์สมบูรณ์ขึ้นอย่างไร้ที่ติ อย่างไรก็ตามถึงแม้หนังจะเล่าเรื่องอิงประวัติศาสตร์ แต่ตัวละครในเรื่องล้วนสมมติขึ้นบนสถานการณ์จริง ดังนั้นหนังจึงขาดความสมจริงในจุดนี้ไป
แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ตีแผ่เหตุการณ์นองเลือดในกวางจู ภาพที่เกิดขึ้นในหนังอาจจะมีความรุนแรงตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงมากเลยทีเดียว มีภาพทหารทำร้ายผู้หญิง คนแก่ คนพิการ ตลอดการเล่าเรื่อง รวมไปถึงสถานการณ์เลือดสาดก็มีมาใช้เห็นเป็นพัก ๆ ฉะนั้นแล้วผู้ชมก็ต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งพอสมควร บรรยากาศของเรื่องจากเริ่มแรกที่สดใสจะค่อย ๆ ตัดเข้าสู่โหมดหดหู่อย่างรวดเร็ว นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับทำได้ดีในเรื่องของการไต่ระดับไปอย่างพอดี ไม่ได้ตัดฉับจนอารมณ์ของคนดูขาดหายไป ถึงแม้เนื้อเรื่องสลดและเศร้าใจมาก แต่ ‘May 18’ ก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำกับผู้ชมมากจนเกินทน ท่ามกลางสงครามกลางเมืองระหว่างทหารและประชาชน ความสัมพันธ์ของมินอูและชินแอก็ยังดำเนินต่อไป มีการใส่ฉากจีบกันในค่ายกำลังป้องกันตนเอง รวมไปถึงมีนักแสดงสมทบที่คอยสร้างสีสันตบมุขตลกเป็นระยะ ๆ จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าหนังจะเครียดเกินไปจนดูไม่ไหว
ส่วนของโปรดักชั่น ‘May 18’ ทำได้ดีในเรื่องของงานภาพและองค์ประกอบศิลป์ ทุกอย่างที่อยู่ในภาพสมจริงไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้านักแสดง อุปกรณ์ประกอบฉาก สถานที่ ที่ถอดแบบมาจากทศวรรษที่ 80 อย่างละเอียด หลาย ๆ ฉากสื่อสารด้านภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ชมดูแล้วรู้สึกฮึกเหิมและอยากเอาใจช่วยประชาชนชาวกวางจูที่ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการทหารด้วยเลือดเนื้อ สะท้อนถึงสภาพสังคมในช่วงนั้นออกมาได้ดี
กล่าวโดยสรุปคือตลอดระยะเวลา 118 นาทีของหนัง เราจะพบกับอารมณ์ทุกรสใน ‘May 18’ ไม่ว่าจะเป็นสุข เศร้า แอคชั่น ดราม่า หรือแม้กระทั่งฮึกเหิม ทุกอย่างสะท้อนภาพความสูญเสียของประชาชนและนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่ยอมให้อำนาจประชาธิปไตยตกอยู่ภายใต้รองเท้าบูททหาร ค่อนข้างน่าสนใจว่าผู้กำกับสามารถเล่าเรื่องประวัติศาสตร์อย่างรวบรัดได้ในเวลาเพียงเท่านี้ อีกทั้งยังมีประเด็นความสัมพันธ์ของตัวละครอีก แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง รวมไปถึงถ่ายทอดความเลวร้ายของระบอบเผด็จการออกมาได้อย่างน่าชื่นชม เป็นหนังอีกเรื่องที่คนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์แต่ไม่อยากอ่านหนังสือจะมาดูเพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้น ในช่วงท้ายบีบคั้นอารมณ์ของผู้ชมได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ฉากปิดเรื่องค่อนข้างสะเทือนอารมณ์ อีกทั้งเต็มไปด้วยความหมายแฝงมากมาย ‘May 18’ จึงเป็นภาพยนตร์คุณภาพอีกเรื่องที่ควรจะหามาชมกัน เพื่อรำลึกถึงปุถุชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและไม่ยอมอ่อนข้อให้ระบอบเผด็จการทหาร
สามารถรับชมซับไทยแบบถูกลิขสิทธ์ของภาพยนตร์ May 18 ได้ที่ VIU <คลิ๊ก>
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries >> อย่าลืมไปกด Subscribe กันน้า
source (1)