ความสุขของอาจัสชิ คือ แสงส่องทางชีวิตฉัน ความสุขของเธอ คือ กำลังใจให้ชีวิตผม
My Mister หรือ My Ahjussi เป็นงานเรียลเมโลดรามาเพื่อกำลังใจชีวิตของผู้คนยุคนี้ เล่าเรื่องราวการใช้ชีวิต การดิ้นรนเพื่องาน ความรัก ครอบครัว และการอยู่รอด ในสังคมเล็กๆของคนกลุ่มหนึ่งที่มาเกี่ยวพันกัน เส้นทางที่ค่อยๆเดินผ่านพ้นอุปสรรคความทุกข์ยากนั้น ให้ทั้งบทเรียนและความฟิลกู้ด ด้วยความหมายดีๆที่แทรกแฝงไว้ตลอดเรื่อง การถ่ายทอดอารมณ์อย่างละเอียดอ่อน ซึมซาบจับใจ ผ่านตัวละครที่สมจริง มีที่มาสมเหตุสมผล ชวนติดตาม อรรถรสเนื้อหามาแบบครบกลมกล่อม มีเสน่ห์ลงตัวอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเศร้าเคล้าสุขที่ปล่อยมาได้อย่างกลมกลืนดีมาก
ผสมผสานด้วยงาน Cinematography ที่สื่อความได้งดงามและมีคุณภาพระดับงานภาพยนตร์ ถือว่าเป็นความสำเร็จที่เป็นมาสเตอร์พีซระดับรางวัลอีกครั้งของ ผู้กำกับคิมวอนซอก ซึ่งเคยฝากผลงานดีๆไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Signal (2016), Misaeng (2014), Sungkyunkwan Scandal (2010) และ นักเขียนบทพัคแฮยอง กับการพัฒนาความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้น จากงานเดิม Another Oh Hae Young ซึ่งหลายๆคนเคยชื่นชอบมาแล้ว นอกจากนี้ ทั้งตัวละคร บท การกำกับ และนักแสดง ต่างทยอยกันรับรางวัลใหญ่ๆจากหลายๆเวทีอย่างน่ายินดียิ่ง
หมายเหตุ : อาจัสชิ เป็นภาษาเกาหลี ใช้เรียกผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนซึ่งไม่สนิท เป็นคำสุภาพ ใช้ได้ทั้งในความหมายว่า ‘คุณ’ หรือ ‘คุณลุง’
บนโลกใบใหญ่ไร้แสงส่องทางของสาวน้อยวัยยี่สิบผู้รันทด
เศษเสี้ยวความหวังของชีวิตคือการดิ้นรนให้รอดได้ไปวันๆ
…………
บนโลกสงัดใบเล็กๆของหนุ่มใหญ่วัยล่วงสี่สิบ
ที่กลายเป็นศูนย์กลางความหวังของแม่ พี่ชาย น้องชาย
เมื่องานและชีวิตไม่เรียบง่ายสมความพยายาม จึงกลายเป็นโลกหนักอึ้งเต็มสองบ่า
…………
สองคนต่างวัย ต่างวิถี มีเพียงสิ่งเดียวที่ตรงกัน คือ การมีชีวิตอมทุกข์
เมื่อทั้งสองต้องตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมของงาน อันมีผลต่ออนาคตชีวิต
ทำให้เกิดโอกาสได้รู้จักตัวตนและเข้าใจชีวิตของกันและกันมากขึ้น
ในความทุกข์ยากที่พวกเขาต้องก้าวย่างผ่านมันไป
คือกำลังใจที่ต่างหยิบยื่นให้กันโดยไม่รู้ตัว
อีจีอัน (รับบทโดย ไอยู) เด็กสาววัย 21 ปี ที่เฉลียวฉลาดว่องไว แต่มีภูมิหลังชีวิตที่ด้อยโอกาส ถูกเจ้าหนี้เงินกู้ อีกวังอิล (รับบทโดย จางกียง) ตามจิกทวงเงินด้วยการลงมือลงไม้แบบโหดๆ สะสมความแค้นมาจากที่เคยกระทำร้ายต่อกันในอดีต โลกของเธอจึงคือความเลวร้ายที่ต้องอยู่ให้รอดด้วยตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาสมเพช แม้ว่าจะต้องผจญความรันทดข้นแค้นแค่ไหน แม้แต่ยายที่ทุพพลภาพซ้ำซ้อน ทั้งใบ้ หูหนวก และเดินไม่ได้ ยังต้องถูกแอบย้ายหนีจากบ้านพักฟื้นผู้สูงอายุ เพราะเธอค้างจ่ายค่าดูแล รายได้จากงานประจำและพาร์ทไทม์ที่ทำก็ไม่เพียงพอ
อีจีอันเป็นพนักงานชั่วคราวในบริษัทวิศวกรรมก่อสร้าง ที่ทำหน้าที่ธุรการจิปาถะ จัดเก็บใบเสร็จ คัดแยกจดหมาย เดินเอกสาร ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างกระด้างเย็นชา เห็นแก่ตัว ไร้มนุษยสัมพันธ์ ส่วนงานพาร์ทไทม์ในครัวของร้านอาหาร ช่วยให้เธอได้ประทังชีวิตจากเศษอาหารเหลือทิ้งที่แอบเทกลับบ้านมากินพร้อมกาแฟสำเร็จรูปมื้อละสองซองที่ฉวยลักจากออฟฟิศเป็นประจำ
พัคดงฮุน (รับบทโดย อีซอนคยูน) หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสี่ เขาทำงานเป็นผู้จัดการทีมตรวจสอบงานโครงสร้างในบริษัทเดียวกัน เพิ่งถูกย้ายลดตำแหน่งมาจากแผนกวิศวกรรมวางแผน ซึ่งศักดิ์ศรีงานดีกว่า เพราะปัญหาการเมืองในบริษัท ทั้งๆที่เขาเป็นคนดี คนตรง ขยันซื่อสัตย์ พูดน้อย งานดี ภรรยาของเขา คังยุนฮี (รับบทโดย อีจีอา) เป็นทนายความเก่ง มีความก้าวหน้าในงาน ลูกชายวัยประถมคนเดียวกำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ความสัมพันธ์เขากับภรรยาก็จืดชืด เพราะเธอเบื่อหน่ายความอมทุกข์เก็บงำไว้คนเดียวของเขา ความคิดที่สวนทางกัน ทัศนะการมุ่งความสำเร็จในงานที่ต่างกัน รวมถึงการที่เขาใช้เวลากับพี่น้อง ให้ความสำคัญกับครอบครัวของตัวเองมากจนดูเหมือนเธอถูกละเลย
พัคดงฮุนเป็นลูกชายคนกลางของแม่ที่มีลูกชาย 3 คน พี่ชายคือ พัคซังฮุน (รับบทโดย พัคโฮซัน) วัยจะห้าสิบแล้ว เคยอยู่บริษัทใหญ่โต แต่ดันตกงานในวัยที่ชีวิตควรจะมั่นคง ภรรยากำลังขอหย่า ลูกสาวแต่งงานก็ได้เงินช่วยเหลือจากพัคโดฮุน ตัวเองเป็นเสาหลักให้แม่และเมียไม่ได้ บวกจิตใจอ่อนไหว คิดมาก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า แต่ก็ใช้ความซื่อใสเปิดเผย จริงใจ และอารมณ์ขันกลบเกลื่อนความเครียดและปัญหาชีวิตไปได้บ้าง ส่วนน้องชายคือพัคกีฮุน (รับบทโดย ซงแซบยอก) อดีตผู้กำกับหนังที่ไม่ยอมโอนอ่อนใคร เพราะความหัวร้อน ปากร้ายกว่าใจ อารมณ์นำหน้าสติ ทำให้ชีวิตล้มเหลว ตกงานเช่นกัน
และแล้ววันหนึ่ง วิบากชีวิตของพัคดงฮุนเริ่มสาหัสขึ้นอีกเมื่อเขาตกเป็นเบี้ยของเกมการเมืองระดับบริหาร โดยบังเอิญให้เป็นแพะรับเงินสินบนจัดฉากแทนหัวหน้าเดิมของตนซึ่งมีชื่อคล้ายกัน งานนี้เป็นกับดักจากฝ่ายตรงข้ามคือลิ่วล้อของซีอีโอปัจจุบัน โดจุนยอง (รับบทโดย คิมยองมิน)
เพราะอีจีอันต้องเอาชีวิตรอด เธอจึงแอบขโมยซองเงินหวังไปปลดหนี้ แต่เปลี่ยนใจนำกลับมาทิ้งคืนไว้ในถังขยะ เพื่อเลี่ยงการถูกจับได้ ตกงาน
เพราะเงินถูกทิ้ง เสมือนปฏิเสธเงิน พัคดงฮุนจึงพ้นข้อกล่าวหา ความลับที่อีจีอันช่วยปกปิดให้นี้ กลายเป็นพันธะสัญญาเลี้ยงข้าวดีๆให้เธอเดือนละมื้อ ปฏิสัมพันธ์แรกของอาจัสชิและสาวน้อยจึงเริ่มต้น ณ จุดนี้ อย่างกระอักกระอ่วน
เพราะอีจีอันพบความลับของซีอีโอโดจุนยอง ที่ลักลอบเป็นชู้กับ คังยุนฮี ภรรยาของพัคดงฮุน เธอจึงสบช่องได้แบล็คเมล์เงิน 20 ล้าน แต่ไม่ขอเปล่า เธอจะช่วยรับจ๊อบเขี่ยทั้ง ผอ.พัคดงอุน และ ผจก.พัคดงฮุนให้หลุดจากบริษัทด้วย
เพราะแผนสืบความลับด้วยโปรแกรมดักฟัง ทำให้อีจีอันได้ติดตามชีวิตทุกบทสนทนาทั้งผ่านโทรศัพท์หรือเสียงใดๆก็ตามที่เกิดข้างๆโทรศัพท์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้ค่อยซึมซับการรู้จัก ‘อาจัสชิ’ ในอีกมิติที่จะละลายความกระด้างในใจเธอ
จากชายคนที่เธอไม่เคยเข้าใจมาก่อนว่า คนอายุปูนนี้ ครอบครัวพร้อม งานมี เงินเดือนดี แล้วไยถึงต้องอมทุกข์มากมาย กลายเป็น ‘อาจัสชิ’ คนดีที่เปี่ยมด้วยความปรารถนาดีไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง พร้อมจะเสียสละแบกทุกข์เพื่อคนที่รัก ความดีที่แผ่กระจายออกมาให้คนข้างเคียง จึงโดนเข้ากับอีจีอันอย่างจัง
จากชายที่เป็นเป้าหมายให้เธอมุ่งทำร้าย กลายเป็นชายที่เธออยากทุ่มเทปกป้องให้เขามีความสุข ให้คุ้มกับคำว่า ‘เธอเป็นคนดี’ อาจัสชิเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ย้ำคำนี้กับเธอหลายครา
เรื่องราวชีวิต และการคลี่คลายปัญหารอบด้านของทั้งสองจะดำเนินไปอย่างไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะพัฒนาไปจบที่ใด ความสุขของเขาและความสุขของเธอจะออกมาในรูปแบบใด ความค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการเดินเรื่องที่ลื่นไหลในจังหวะที่สละสลวย ไดอาล็อคคมๆดีงาม บทที่จะรีดอารมณ์ได้สุดๆทั้ง น้ำตา และรอยยิ้ม หรือถึงขั้นยิ้มทั้งน้ำตา ฉากงามๆที่กินใจ เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเชียร์ให้ทุกคนได้ติดตามไปสัมผัสด้วยตัวเองจึงจะเก็บได้ทุกเม็ดจริงๆ มันมากมายเล่าไม่หมดจริงๆเลยค่ะ
ความสนุกหลากรสที่มีเสน่ห์ชวนติดตาม ยังพบได้จากอีกหลายๆมุมเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ตัวอย่างเช่น
ความเป็นสามลุง สามพี่น้องตระกูลพัคที่ได้ความเป็นธรรมชาติ บางจังหวะก็อบอุ่น น่ารัก บางจังหวะก็ได้อารมณ์ขันแบบตลกร้าย เช่นลุงใหญ่ปากตรงกับใจมาก โพล่งมาเป็นท่อตรงแบบไม่ต้องผ่านสมอง 555 เช่น พูดได้เต็มปากว่าห่วงแม่ตายไม่มีใครมางานศพ หรือช่วงเวลาที่ลุงใหญ่และลุงเล็กร่วมกันเปิดบริการรับทำความสะอาดด้วยกันก็มีมุมให้ขำๆน่ารักเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทลุงใหญ่ที่เข้าทางกับพัคโฮซันมาก จนผู้เขียนรู้สึกได้เลยว่าลุงใหญ่ คือนักแสดงจอมขโมยซีนของเรื่องนี้เลยแหละ ได้ใจในความน่ารัก น่าเอ็นดูมาก
ชเวยูรา (รับบทโดย นารา) ดาราสาวที่ถูกแคสในหนังของลุงเล็กที่เฟลกันไป ได้กลับมาเจอกันโดยบังเอิญในช่วงลุงเล็กมีอาชีพตกอับรับทำความสะอาดที่ตึกอพาร์ทเม้นท์เธอ ประหนึ่งเธอได้พกระเบิดมาอยู่ข้างตัวลุงเล็ก เพราะเธอกระหน่ำขอบคุณลุงเล็กที่เขาเฟลได้ขนาดนี้ ปล่อยเธอหลงเข้าใจผิดว่าหนังเจ๊งเพราะเธอแสดงไม่ดี จากการที่เธอถูกลุงเล็กดุด่า พาเสียเซลฟ์จนทุกวันนี้ ช่างโล่งใจที่ปัญหาคือลุงเล็ก ไม่ใช่เธอ 555 ช่างเป็นตลกร้ายที่ทำเอาลุงเล็กเงิบไปเลย เรื่องนี้นาราแสดงได้ดี เข้าถึงบทเซ้าซี้ ปล่อยระเบิดได้น่ารัก ชวนลุ้นเชียร์ความสัมพันธ์คู่ลุงเล็ก-ยูรา หนุ่มปากร้ายจอมซึนกับสาวสวยจอมวอแว น่ารักมากค่ะ
บาร์เหล้าเล็กๆของเจ๊จองฮี (รับบทโดย โอนารา) อบอุ่นน่ารักมากทั้งนิสัยเจ้าของและมิตรภาพของเหล่าลูกค้าขาประจำที่มารวมกันเมื่อไหร่ก็ต่างจากการรวมญาติ เมาๆเม้าท์ๆ สุขได้ฉลอง ทุกข์ได้ปลดปล่อย สิ้นสุดค่ำคืน คือกลับบ้านด้วยความสุขเล็กๆแต่มีพลังยิ่งใหญ่เต็มหัวใจ ยามบาร์คนเศร้าเคล้าสุขว่างเปล่า ลูกค้าพกความสุขจากลาไป ชีวิตเจ้าของบาร์กลับเศร้ายิ่งกว่า เรื่องของเธอชวนอึ้ง หน่วงใจอยู่ทีเดียว ให้ชวนเอาใจช่วยว่าเธอจะก้าวผ่านความยากลำบากนั้นไปอย่างไร เพราะมันเป็นการต่อสู้ทางใจระหว่างทางโลกและทางละโลก เข้าขั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันเลยเชียว
ความสัมพันธ์ที่น่ารักของเหล่าลุงๆเพื่อนพ้องน้องพี่ เป็นชาวก๊วนเล็กๆ แต่มากพลัง เพราะพวกเขาเติบโตมาในละแวกบ้านเดียวกัน เรียนมาในโรงเรียนเดียวกัน เล่นบอลกันเป็นกิจวัตร ผ่านทุกข์ร่วมสุขเคียงข้างกันเสมอ ไม่เคยมีทิ้งกันเลย เป็นมิตรภาพที่น่าชื่นชมจริงๆ
สำหรับเรื่องราวความรักในเรื่องนี้ แม้ไม่เสิร์ฟโรมานซ์มาตรฐานอย่างที่หวังกัน แต่ผู้เขียนกลับมองเห็นความรักที่มีพลังยิ่งใหญ่ ที่อิ่มสุขอิ่มใจมากมาย เกินกว่าความรักอื่นๆที่เห็นมา เชื่อว่าผู้ชมจะประทับใจเช่นกัน
สาระข้อคิดชีวิต คือมีให้คิดตามเยอะอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมุมความสัมพันธ์ของครอบครัว สามีภรรยา แม่ลูก ยายหลาน พี่น้อง มิตรภาพเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ชีวิตงาน ความรัก เก็บเกี่ยวกันไปได้เรื่อยๆตลอดทาง คุ้มค่ามากเรื่องนี้
นอกเหนือจากบทที่ดีเยี่ยม และมีเสน่ห์ชวนติดตามแล้ว เหล่านักแสดงก็ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างเข้มข้น เรียกได้ว่าเล่นดีหมดทุกคน คาแรคเตอร์เข้ากับบทอย่างเหมาะสม เกลี่ยบทเสริมบทกันได้ลงตัวดีมาก โดยเฉพาะ อีซอนคยูนที่สวมอาจัสชิคนดีที่แบกโลกหนักอึ้ง พาเราเชื่อว่าเขาเป็นคนๆนั้นจริงๆ ไอยู ซึ่งถูกจับจ้องเป็นพิเศษในฐานะไอดอล เธอสอบผ่านได้อย่างไม่มีข้อติใดๆเลย เรียกได้ว่าเธอมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จสวยงาม และจางกียงที่พลิกบทบาทได้ชนิดสลัดคราบหนุ่มดอกไม้แสนดีจากเรื่องก่อนหน้าไปโดยสิ้นเชิง
ขอทิ้งท้ายด้วยเพลงประกอบละครที่ไพเราะทุกเพลง แต่เลือกมา 3 เพลงเป็นตัวอย่างละกันนะ
Ost. Adult เพลงเดินเรื่องหลักที่ฟังได้ไม่มีเบื่อเลย
Ost. Dear Moon เมื่อยายอยากได้เห็นแสงจันทร์สักครั้ง เลือกหยิบเวอร์ชันที่ไอยูร้องเองเลยมาฝาก
https://www.youtube.com/watch?v=mIZCKFb_7zo
Ost. That Man อันนี้เป็นโทนสนุกมันส์ๆ ช่วงชีวิตดี๊ด๊าของสามลุง
Trailer :