รีวิวซีรีส์ : Devilish Joy
ซีรีส์ที่ตอนได้ชมตัวอย่างก็บอกในใจว่าจะไม่พลาดแน่นอน เพราะน่าจะเป็นแนวหวานละมุนชุ่มชื่นหัวใจ แต่หลังจากที่ได้ท่องไปในเรื่องราวของพระนางแล้วก็มีประเด็นให้ได้ติดตามและบีบหัวใจมากกว่าที่คาดการณ์ไว้อยู่เยอะพอสมควร ซึ่งจุดนี้มีผลทำให้เป็นละครที่ไม่ใช่แนวโรแมนติกจ๋าแต่มีผสมความเมโลดราม่าไปในช่วงหลังจนทำให้มีความเข้มข้นของเรื่องราวและเป็นละครอีกเรื่องที่สนุกจนหยุดไม่ได้
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ กงมาซอง (รับบทโดย ชเวจินฮยอก) ชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังจะเป็นผู้สืบทอดกิจการโรงพยาบาลซอนอูและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาท วันหนึ่งเขาได้พบกับ จูกีบึม (รับบทโดย ซงฮายุน) ไอดอลนักแสดงนักร้องสาวที่กำลังโด่งดัง โดยเธอพลัดหลงกับทีมงานในขณะที่ทำงานอยู่ที่ประเทศจีนและได้รับการช่วยเหลือจาก กงมาซอง จนทั้งคู่ต่างรู้สึกดีต่อกันในครั้งแรกที่ได้เจอกัน หลังจากนั้นไม่นาน โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลก เมื่อ กงมาซอง ที่กำลังจะเดินทางไปหาตามที่ได้นัดไว้กับ จูกีบึม แต่กลับประสบอุบัติเหตุจนเป็นโรค Cinderella Amnesia ที่ทุกเช้าวันใหม่ที่ตื่นนอนขึ้นมาเขาจะหลงลืมความทรงจำของเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวาน ด้าน จูกีบึม หลังจากที่รอเก้ออยู่นาน เธอกลับโดนมอมยาและเมื่อตื่นมาก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมโดยไม่รู้ตัว เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี ทั้งสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขา ที่จำเธอไม่ได้ และ เธอ ที่กลายเป็นหญิงสาวธรรมดาและมีแอนตี้แฟนคลับอยู่กว่า 1 ล้านคน โชคชะตาจึงนำพาความรักที่เหมือนจะไม่มีทางลงเอยกันได้ …. ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง
เรื่องราวของละครเรื่องนี้ไม่ใช่แนวหวานกุ๊กกิ๊กเหมือนอย่างที่คาดไว้ในใจตอนแรก กับการตามหาความทรงจำและคอยลุ้นติดตามถึงประเด็นต่างๆในชีวิตของทั้ง กงมาซอง และ จูกีบึม ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยความที่มันคือละครก็มีความบังเอิญเกิดขึ้นมากและบ่อยจนบางจุดมันก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลและไม่สมจริงบ้าง หรือ ภาพโทนสีของละครที่ส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่ในช่วงแรกที่ได้เห็น รวมถึง ซงฮายุน ที่ยังแสดงซีนนักร้องมืออาชีพได้ไม่เนียนมากซักเท่าไหร่ ก็อาจจะทำให้ตัดคะแนนความสนุกไปบ้าง
แต่นอกเหนือจากประเด็นเหล่านี้ ทั้งทีมนักแสดงทุกคน รวมถึง วิธีการและเรื่องราวทั้งหมดที่มีความเข้มข้นน่าติดตามมากต่างจากละครความรักหลายๆเรื่องที่อาจจะแผ่วในจุดนี้ และที่ชอบที่สุดคือความเคมีที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีของพระนางไม่ว่าจะเป็น ชเวจินฮยอก ที่พกเอารอยยิ้มกระชากใจมาเรียกคะแนนความสงสารจากผู้ชมพร้อมกับการแสดงที่ดีมีค่าต่อการรับชมเหมือนเคย และ ซงฮายุน ที่ถึงแม้ซีนนักร้องไม่ค่อยเนียนแต่การแสดงยังถือว่ามืออาชีพมากและเธอสวยใสหน้าเด้งมากจริงๆ ทุกฉากที่ทั้งสองได้แสดงด้วยกัน มันคือความดีงามและรักกันได้อย่างเป็นธรรมชาติมากจริงๆ จนทำให้ผู้ชมอินไปตามๆกัน
″ อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง จงภูมิใจกับสิ่งที่มีอยู่ นั่นคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ″
จูกีบึม กล่าวไว้ในตอนที่9
ตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในความเห็นส่วนตัวคือ กงมาซอง ชายหนุ่มที่แลดูสมบูรณ์แบบในสายตาคนภายนอก แต่กลับเป็นโรคร้ายจนทำให้การดำเนินชีวิตไม่ราบรื่นเหมือนคนทั่วไป เงินทองที่มีมากมายล้นมือกลับไม่สามารถช่วยให้เขามีความสุขได้เลย ซ้ำยังโดนญาติพี่น้องที่ดูแลกันมาเหมือนครอบครัวหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กงมาซอง ก็ยังทำเป็นละเลยที่จะรับรู้ความจริงเหล่านั้น ผิดกับนางเอก จูกีบึม ชีวิตที่ดูเหมือนจะโชคร้าย ได้เป็นดาราชื่อดังแต่กลับโดนใส่ร้ายในคดีฆาตกรรม แต่ครอบครัวแสนยากจนของเธอซึ่งประกอบไปด้วย พ่อ, น้องชาย และน้องสาว ที่วันๆเอาแต่เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง กลับมาเป็นยาชูกำลังในการดำเนินชีวิตในด้านบวกของเธอได้เป็นอย่างดี
บทสรุปความรักของ กงมาซอง และ จูกีบึม ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งได้เลย ด้วยโรคร้ายของ กงมาซอง ที่เหมือนจะแย่ลงทุกวันๆ ด้วยชีวิตที่แสนจะลำบากของ จูกีบึม ทำให้เกิดช่องว่างในความสัมพันธ์กับ กงมาซอง มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเรื่องของความละโมบอันไม่สิ้นสุดของเหล่าญาติพี่น้องในตระกูลร่ำรวยของ กงมาซอง เองด้วยก็ตาม และยังมีประเด็นของคดีฆาตกรรมที่ จูกีบึม ถูกใส่ร้ายอีกว่าใครกันแน่คือฆาตกรตัวจริงและใส่ร้ายเธอทำไม เป็นซีรีส์ที่สนุกไปกับการติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ว่าจะลงเอยในแบบไหน กับละครความรักที่ไม่ควรพลาดอีกเรื่องของปีนี้ … Devilish Joy
สามารถอ่านเรื่องย่อและรายละเอียดตัวละครได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรื่องย่อซีรีส์ : Devilish Joy (2018)
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Photo Credit (1)