คู่มือสู่ชีวิตชาวหมอในยามวัยเยาว์ที่เป็นเพียง ‘แพทย์ประจำบ้านปีหนึ่ง’
ก้าวแรกของบทฝึกโหดเป็นหมอจริง แต่ถูกคาดหวังให้เป็นที่พึ่งพารับผิดชอบได้
เป็นช่วงรอยต่อของการเรียนรู้เติบโตที่ยากลำบากชวนท้อแท้
แต่ก็ชวนลุ้นเอาใจช่วยด้วยชื่อเรื่องที่จั่วไว้ว่า ‘สักวัน..ฉันจะเป็นแพทย์ประจำบ้านที่เก่งๆฉลาดๆให้ได้’
(언젠가는 슬기로울 전공의생활)
รีวิว ณ อีพี 2/12 อ่านเรื่องย่อและข้อมูลเบื้องต้นที่นี่
Resident Playbook เป็นงาน spin-off ของ Hospital Playlist ที่จะเล่าอีกเรื่องราวสนุกสมจริง เป็นช่วงเวลาการเป็นก้าวแรกของหมอ ช่วงแห่งการเรียนรู้ฝึกฝนเข้มข้นพร้อมภาระหนักหน่วงเกินวัย ท้องเรื่องได้ย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลยุลเจสาขาจงโน (ซึ่งสถานที่ถ่ายทำจริงคือ โรงพยาบาลยงอินเซเวอร์แรนซ์) แม้ว่าเรื่องนี้ผู้กำกับชินวอนโฮและนักเขียนอีอูจองจะไม่ได้ลงมือกำกับเขียนบทเอง แต่ก็เป็นครีเอเตอร์ดูแลงาน จึงได้โทน vibe และลีลากินใจฟิลกู้ดคงเอกลักษณ์แน่นอนค่ะ
คำถามแรกสุดสำหรับบางคนคือ ต้องดู Hospital Playlist ซึ่งมี 2 ซีซันมาก่อนไหม ขอตอบว่าไม่จำเป็นค่ะ เรื่องราวแยกจากกันโดยสิ้นเชิง แค่ว่าจะมีนักแสดงหลักๆจากเรื่องนั้นทยอยมาเข้าฉากรับเชิญ (โจจองซอก ยูยอนซอก จองคยองโฮ คิมแดมยอง จอนมีโด อันอึนจิน คิมจุนฮัน) ถ้ารู้ที่มาที่ไปของพวกเขา ก็จะอินบทสั้นๆนั้นได้ดีขึ้น แต่ว่าถ้าได้รับการยืนยันว่า Hospital Playlist นั้นสนุกจริง แล้วจะยอมปล่อยพลาดไปเฉยๆหรือคะ
และอันดับถัดมา สำหรับผู้ที่สงสัยว่าแพทย์ประจำบ้านคืออะไร หลังผ่านการเป็นนักเรียนแพทย์ 6 ปี อินเทิร์นอีก 1 ปี จะเข้าสู่การเลือกเฉพาะทางที่จะต้องเรียนด้วยการฝึกจริงเต็มขั้นในหน้าที่ของ ‘แพทย์ประจำบ้าน (Resident)’ ซึ่งจะใช้เวลาตรงนี้ 4 ปีเต็ม แทบจะกินนอนฝังตัวอยู่ในโรงพยาบาล ต่างจากสมัยเป็นอินเทิร์นที่แค่เดินตามอาจารย์หมอสอนไป ทีมตัวเอกของเราทั้ง 4 คือผู้ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตของแพทย์ประจำบ้านปีแรก ในแผนกสูตินรีเวช
จึงเป็นบทที่ตั้งต้นได้อย่างมีนัยชาญฉลาดดี จับ match สถานะของแพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกแท้จริงของหมอ กับทารกน้อยที่ได้รับการทำคลอดเข้าสู่โลกใบใหม่เช่นกัน
‘คนเราไม่ได้เกิดมาฉลาดทันทีได้กับการทำอะไรเป็นครั้งแรก’ เหล่าแพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งในเรื่องจึงเหมือนเด็กที่ยังไม่เก่ง ไหวพริบไม่พอ เพราะอ่อนประสบการณ์ ไม่ละเอียดรอบคอบ ขาดๆล้นๆ หรืออาจจะตำราแน่นแต่ปฏิบัติไม่ได้ เพราะบางเรื่องก็ไม่มีสอนในตำรา ต้องเรียนรู้เอาจากชีวิตจริงหรือสัมผัสด้วยใจไม่ใช่สมอง พวกเขาจึงมักถูกอาจารย์หมอ หรือหมอประสานงานแผนกอื่น หรือรุ่นพี่แพทย์ประจำบ้านปีสูงๆขึ้นไป ซึ่งเข้มงวดดุเอาบ่อยๆ จากการทำผิดบ้าง ไม่ได้ดั่งใจ สร้างความเสียหายบ้าง (ยังไม่นับรวมเคสเจอคนนิสัยไม่ดีก่อเหตุให้ด้วยนะ) ทั้งๆที่ก็ทำงานแสนหนักไม่ได้พัก ไม่ได้กินไม่ได้นอน ปาดเหงื่อปาดน้ำตาจนท้อแท้ อยากเทอาชีพนี้ หันหลังหนีไปจากโรงพยาบาลซะเดี๋ยวนั้นเลย (ชีวิตจริงก็เป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสสุดของคนเรียนแพทย์แหละ)
เรื่องราวของพวกเขาแต่ละคน ซึ่งต่างบุคลิก ต่างที่มา ทว่าแต่ละปัญหาที่พวกเขาเจอในสองอีพีแรก มีทั้งที่ชวนสงสารเห็นอกเห็นใจยามเกิดเรื่อง แต่ก็เอ็นดูฟิลกู้ดยามคลี่คลายได้ น่าติดตามดูกระบวนการค่อยๆขจัดความขัดแย้งในใจ ไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ปรับตัวรับมือกับสารพัดสถานการณ์ยุ่งยาก ทั้งงานและคน (บุคลากรและคนไข้) อุปสรรคและปัญหาที่ผ่านพ้นจะค่อยๆสร้างการเติบโต หล่อหลอมความเป็นหมอที่สมบูรณ์ขึ้น และการร่วมฟิลตกทุกข์ได้ยากเหมือนกันก็จะสานมิตรภาพพวกเขาให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับงานอื่นๆของ ผกก.ชินวอนโฮ ที่มักเปิดบทนำให้นักแสดงเบอร์รอง และนำนักแสดงหน้าใหม่ฝีมือดีมาให้ชมกันเรื่องนี้ก็มี ฮันเยจี เดบิวต์ซิงๆเลยในบทของคิมซาบี ที่แม้จะไม่ใช่คิมซาบีแบบที่ ผกก.มองไว้แต่แรก แต่ก็ทำให้คิมซาบีคนนี้ดูถูกอกถูกใจได้เลย หรือชินชีอา ในบทของพโยนัมคยอง ก็เป็นการเดบิวต์งานละคร ที่มั่นใจในพลังฝีมือได้ไม่แพ้งานหนังของเธอเลย ส่วนโกยุนจองนั้น ไม่ได้ใช้แค่ความสวยจับใจผู้ชม แต่สามารถส่งอารมณ์ดรามาผ่านสีหน้าเรียบเฉยได้อย่างมีเสน่ห์ธรรมชาติและได้ impact สุดๆ และสำหรับคังยูซอกที่ ผกก.ซื้อเพราะทำให้นึกถึงอันแจฮงสมัยแคสติ้ง Reply 1988 ก็เป็นบทที่เขาสร้างสีสันสลับมู้ดได้ดี นอกจากนี้ยังมี จองจุนวอน ซึ่งรับบทนำเป็นคูโดวานนั้น เป็นนักแสดงที่ถูกใจผกก.มาเนิ่นนานแล้ว เพิ่งได้โอกาสแมทช์เจอตัวละครที่เข้ากัน เขาจะมาในบทของหมอที่ mature แล้ว สไตล์ให้ฟิลสบายๆผ่อนคลาย แต่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่กล้าร้ายแกล้งคนเด็กกว่าอย่างนึกสนุก (ผลพลอยได้เป็นความฟินหน่อยๆด้วย555)
โดยรวมจึงกล่าวได้ว่า เราจะได้ชม 3 เนื้อหาใหญ่ๆอย่างสนุกสนานผ่านเรื่องนี้ คือ อาชีพหมอที่ถ่ายทอดชีวิตวุ่นวาย เหล่าคนไข้คุณแม่ๆตั้งครรภ์ที่มารับบริการพร้อมกับปัญหาหลากหลาย และการสะท้อนชีวิตดิ้นรนของเยาวชนที่เกิดในยุคทศวรรษ 1990
เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศสองอีพีแรก : 3.680% และ 3.986%
อัปเดตปิดท้ายหลังจบเรื่อง 12 ตอน (ผู้เขียนจะกลับมาประเมินเล่าสู่กันฟังอีกครั้งนะคะ) ……..
รับชม Trailer ซีรีส์ Resident Playbook
แฟน ๆ คอซีรีส์ สามารถดู Resident Playbook แบบมีซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
‘โกยุนจอง’ นำทีมแพทย์ฝึกหัดพบบททดสอบชีวิตใน Resident Playbook ซีรีส์สปินออฟจาก Hospital Playlist
