มาติดตามดูทางเลือกการตัดสินใจของพ่อแม่สองครอบครัวที่ต่างทรรศนะต่างสามัญสำนึก
ต้องเผชิญปัญหาอันน่าตกใจเมื่อลูกๆวัยใสของพวกเขาร่วมก่ออาชญากรรมด้วยกัน
A Normal Family เป็นภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนวนิยายดัชท์เรื่องดัง The Dinner ซึ่งเคยถูกนำไปผลิตภาพยนตร์มาแล้วหลายสัญชาติ สำหรับเวอร์ชันเกาหลีได้ผู้กำกับฮอจินโฮ เจ้าของผลงานดังๆเช่น Forbidden Dream (2019), The Last Princess (2016), April Snow (2005), One Fine Spring Day (2001), Christmas in August (1998) เรื่องนี้ได้รับเชิญไปฉายเปิดตัวที่ งาน Toronto International Film Festival ปีนี้ด้วย เนื้อหาหลักจะผสมผสานหหลาย genre คือ ดรามา ครอบครัว อาชญากรรม ระทึกขวัญ ชวนสงสัย ชวนเชียร์แม้จะเป็นการกระทำผิด
การฉายภาพครอบครัวธรรมดาๆที่พบได้ทั่วไป 2 ครอบครัวซึ่งเป็นพี่น้องกัน ครอบครัวของพี่ชายคือ ยังแชวาน (รับบทโดย ซอลคยองกู) และครอบครัวของน้องชาย คือ ยังแชคยู (รับบทโดย จางดงกอน) ที่สะท้อนทัศนคติต่อคุณค่าชีวิตและศีลธรรมจรรยา ผ่านสถานการณ์คดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นต่อหน้าในฐานะการเป็นบุคคลที่สาม และเช็คซ้ำอีกรอบในอีกฐานะ คือเป็นพ่อแม่ของคนที่กระทำผิด โดยผู้ชมจะได้สำรวจจิตของพวกเขาผ่านบทสนทนาและการแสดงออกทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ในการพบปะร่วมมื้ออาหารเย็นของพวกเขา ตามชื่อเรื่องดั้งเดิม ซึ่งมีทั้งหมด 3 ครั้ง เปรียบเสมือนสามองก์ของหนังที่ค่อยๆดำเนินไปและพลิกผันคาดเดาไม่ถูกเอาซะเลย
ยังแชวาน เป็นทนายความที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ มีฐานะความเป็นอยู่ดี เพราะเขาทำงานเพื่อเงิน อยู่กินกับภรรยาใหม่ที่อายุน้อยกว่ามาก คือ จีซู (รับบทโดย ซูฮยอน หรือ คลอเดียคิม) ลูกของพวกเขายังเป็นเด็กอ่อน ส่วนลูกสาววัยรุ่นกับภรรยาคนแรก คือ ยังฮเยยุน (รับบทโดย ฮงเยจี) ก็อาศัยอยู่ด้วยกัน
ยังแชคยู เป็นหมอเด็กประจำโรงพยาบาล ผู้มีจรรยาแพทย์สูง ยึดมั่นหลักการ คำนึงถึงชีวิตคนไข้มากกว่าเงินทอง จึงไม่คิดเปิดคลีนิคหาเงิน ฐานะทางบ้านของเขาจึงไม่ได้อู้ฟู่แบบพี่ชาย ภรรยาของเขาคือ ยอนคยอง (รับบทโดย คิมฮีแอ) ซึ่งชอบทำงานจิตอาสาในองค์กรสากลเหมือนๆกัน พวกเขาจึงรับหน้าที่ผู้ดูแลแม่ทีมีอาการสมองเสื่อม ทั้งคู่มีลูกชาย คือ ยังชีโฮ (รับบทโดย คิมจองชอล) เด็กเก็บตัวและมีปัญหาถูกรังแกในโรงเรียนเสมอ ชีโฮอายุอ่อนกว่าฮเยยุนหน่อยนึง ความที่เธอเรียนดีจึงมักมาติวหนังสือให้เขา ได้ตังค่าติว และสนิทกันพอควร
กิจวัตรร่วมมื้อเย็นกันครั้งแรกในร้านอาหารหรู บทสนทนาจะสะท้อนเชิงจิตวิทยาของ 4 ตัวละคร ปูภาพปฏิสัมพันธ์ ค่านิยมการใช้ชีวิต การเสนอทางเลือกใหม่เพื่อดูแลแม่ที่เจ็บป่วยให้ดีขึ้น รวมถึงการพาดพิงถึงคดีรถชนที่เป็นข่าวก่ออาชญากรรมดัง มีคนตายและเจ็บหนัก ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายเศรษฐีที่จ้างแชวานเป็นทนาย ในขณะที่เด็กผู้หญิงคู่กรณีซึ่งเจ็บหนักปางตายเป็นคนไข้ของหมอแชคยู
ในคืนนั้นเองที่ฮเยยุนและชีโฮออกไปเที่ยวกันและรุมทำร้ายชายจรจัดไร้ทางสู้คนหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัส ภาพลางๆของพวกเขาในกล้องวงจรปิดของถนนกำลังตกเป็นข่าว ทำให้มื้ออาหารถัดมาอีกสองครั้งของพ่อๆแม่ๆที่มักยืนความคิดคนละฟากเริ่มถกเถียง ฉายมุมมองต่อคุณค่าชีวิตและศีลธรรมจรรยาพลิกเปลี่ยนไปเกินคาด ทวีความรุนแรงสะเทือนอารมณ์มากขึ้น เพราะน้ำหนักของความเป็น ‘พ่อแม่’ ที่คาดไม่ถึง
เป็นหนังที่เดินเรื่องเหมือนเรียบง่าย สมกับชื่อ Normal แต่เนื้อหามีความลุ่มลึก หยิบประเด็นที่หลากหลายและหนักอึ้งซึ่งอาจพบเจอได้ในชีวิตจริงของสังคมวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมนุษย์วัตถุนิยม vs อุดมคตินิยม การตัดสินคุณค่าของจิตใจ ความเป็นมนุษย์ ตัวตนจริง vs ตัวตนที่จริงยิ่งกว่าซึ่งอยู่ภายในจิตลึกๆ ความรุนแรงเกินปกติ vs การแค่ระบายอารมณ์ในชีวิตประจำวัน การกระทำผิดหรือทำร้ายสิ่งเล็กๆ vs ความผิดซึ่งเป็นอาชญากรรม อาจมีความเฉียดใกล้กัน ด้วยตัวแปรบางอย่างที่ทำให้หลุดข้ามเส้นได้ การตัดสินอะไรสักอย่างจึงมิอาจคิดผิวเผินหรือมองฉาบฉวย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นสำคัญที่ว่าความผิดของลูกคนอื่น vs ความผิดของลูกเรา จะถูกปฏิบัติแตกต่างกันไหม
พลังของหนังที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่กดดันความรู้สึก พาเราตึงเครียดไปกับการลุ้นความเป็นไป และการตัดสินใจของพวกเขา ตะลึงกับศีลธรรมที่บิดเบี้ยวของผู้สวมบทบาทเป็นพ่อเป็นแม่ ชวนย้อนคิดว่าถ้าเป็นเราเอง จะตัดสินใจอย่างไร และแน่นอนว่าการหักมุมหลายตลบ จบมื้ออาหารครั้งสุดท้ายอย่างคาดไม่ถึง ทำเอาช็อคจุกอก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ชวนขบคิดต่อว่า เพราะนี่คือวิถีธาตุแท้ของครอบครัวธรรมดาๆ ใช่แล้วหรือไม่ ผู้ใดที่เป็นพ่อแม่คน จะตัดสินใจอย่างไรกับเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ ‘ดี‘ หรือทำให้ ‘ถูกต้อง‘ คืออะไร น่าคิดนะ
นอกเหนือจากบทที่หนักแน่นแล้ว ทีมนักแสดงหลักพ่อแม่ทั้งสองคู่ ถ่ายทอดบทได้อย่างหนักแน่นสมจริง เรียกว่าเล่นน้อยได้มาก เล่นนิ่งแต่ทรงพลัง ตรึงอารมณ์สุดๆ รวมถึงการซาวน์ดนตรีประกอบที่ดูเรียบง่ายแต่ทรงพลังคุณภาพเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจไม่ใช่งานสำหรับสายแมสทั่วไป แต่น่าจะโดนใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ และผู้ชมที่นิยมงานเรียลลิสติคแนวจิตนัวร์ๆ ไม่น่าพลาดค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน