Confession of Murder เป็นภาพยนตร์แอคชั่นทริลเลอร์ ตำรวจจับผู้ร้ายที่มีบทแปลกแตกต่างจากเคยดูๆกัน พลอตเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เคยเกือบๆจะถูกคลี่คลายได้ แต่พลาดมือไปจนทำให้นายตำรวจเจ้าของคดีเจ็บปวดฝังใจ และกลับกลายเป็นว่า วันหนึ่ง ฆาตกรก็ออกมาเขียนหนังสืออัตชีวประวัติตัวเอง เล่าเรื่องคดีฆาตกรรมที่ตัวเองทำ อืมม..ช่างกล้าหยามท้าทายกันเกินไปละ
ตำรวจสายสืบ ชเวฮยอนกู (รับบทโดย จองแจยอง) มุ่งมั่นไล่ล่าฆาตกรที่ก่อคดีฆ่าหญิงสาวตลอด 5 ปีไว้มากมายถึง 10 ศพ วันหนึ่งที่เขาได้มีโอกาสได้ประชิดตัวคนร้ายซึ่งปิดมาสก์หน้าไว้ การปะทะสู้กันทำให้เขาถูกกรีดหน้าเป็นแผลลึก ส่วนคนร้ายถูกเขายิงเข้าที่ไหล่ก่อนจะหลุดมือหลบหนีไปได้อย่างน่าเสียดาย
15 ปีผ่านไป คดีทั้งสิบหมดอายุความตามกฎหมาย แต่นักสืบชเวยังจมปลักอยู่กับความเจ็บปวด ความผิดพลาดวันนั้นกลายเป็นรอยด่างพร้อยในใจ ที่ร้าวลึกกว่าแผลเป็นบนใบหน้า
สองปีหลังจากอายุความคดีหมดลง มีงานใหญ่เปิดตัวหนังสือ ‘I am a Murderer’ หรือ ‘ผมนี่แหละ ฆาตกร’ ต่อสาธารณชนและสื่อมวลชน ซึ่งนักเขียนหนังสือเล่มนี้คือ อีดูซอก (รับบทโดย พัคชีฮู) ผู้ซึ่งกล่าวอ้างด้วยความชิลๆเท่ๆ ท้าทายสังคมว่า เขาคือฆาตกรคนนั้น เนื้อหาในหนังสือเขียนมาจากคดีจริงทั้งสิบของเขาเอง พร้อมๆกับพิสูจน์ตัวตนด้วยฟิล์มเอ็กซเรย์แผลกระสุนที่ไหล่ซึ่งถูกนักสืบชเวยิงก่อนจะหลบเงียบหายไปจากสังคม และยังเปิดไหล่โชวฺสื่อมวลชนให้ได้เห็นกันจะๆว่าตัวจริงเสียงจริง นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมนักสืบชเวถึงสถานีตำรวจ เพื่อการยืนยันตัวตนอีกเสียง ซึ่งนักสืบชเวก็ปฏิเสธไม่ออกเช่นกัน ต่อด้วยการเป็นคนจริงแมนจริง คือ การพาสื่อมวลชนไปร่วมเป็นสักขีพยานชมเขาแสดงความสำนึกผิดและขอขมาถึงบ้านของครอบครัวเหยื่อ แม้จะโดนทำร้ายกลับก็ก้มหน้าแสดงความรับผิดอย่างจริงใจ
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในสังคม คือ หนังสือขายดีถล่มทลาย สี่แสนเล่มหมดใน 3 วัน เกิดแฟนคลับมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กสาวที่ตื่นเต้นหลงเสน่ห์หน้าตาอันหล่อเหลาของอีดูซอก และยังมองว่ามีความกล้าทำกล้ารับ เป็นความแมนๆที่น่าทึ่งน่าชื่นชมไปซะงั้น โอว.. บทตรงนี้ ช่างจิกกัดอะไรมากมายนะ สังคมฉาบฉาย บิวท์กระแสได้ง่ายๆ ตามสไตล์บันเทิงคนดัง โดยเฉพาะเยาวชนที่คลั่งภาพลักษณ์ผิวๆโดยขาดวิจารณญาณลงลึก หรือแม้แต่สื่อเอง บางครั้งก็หลงกระแสจนลืมหน้าที่แท้จริงของตนไปบ้าง กระทบกระเทียบกลเม็ดที่เหล่าเซเลปคนดังนิยมใช้ ทำผิด-แสดงท่าทีสำนึกผิด-สักพักก็กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้
อีดูซอก กลายเป็นเซเลปคนใหม่ในสังคม ไปไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดล้อม มีแฟนคลับมาคอยต้อนรับ ชูป้ายเชียร์ให้กำลังใจตลอด สามารถใช้ชีวิตหรูหราเป็นส่วนตัว เช่น เหมาสระว่ายน้ำโรงแรมเพื่อว่ายน้ำ โอว..ประชดกันจริงจัง
แต่สำหรับญาติพี่น้องของเหยื่อ ย่อมไม่มีใครคิดเช่นนั้นแน่ มีการรวมตัวกันของคนกลุ่มหนึ่งที่อยากชำระความแค้นส่วนตัว นำโดย ฮันจีซู (รับบทโดย คิมยองเอ) ผู้ซึ่งต้องการเค้นคำตอบจากอีดูซอกให้ได้ก่อนว่า ลูกสาวของตนที่หายไป ตกเป็นเหยื่อรายที่ 11 ของเขาหรือไม่ ถ้าใช่ศพถูกซ่อนอยู่ที่ใด พวกเขาจึงวางแผนช่วยกันแอบลักพาตัวอีดูซอกมากักขังไว้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร นักสืบชเวก็วางแผนเข้าไปชิงตัวกลับมาได้ อีดูซอกพลิกประเด็นให้ข่าวว่าการลักพาตัวนี้ว่าเป็นเพียงการกระทำของแฟนคลับ ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด โอย..ใจกว้าง แมนอีกแล้ว
การประชาสัมพันธ์อีดูซอกและหนังสือของเขาก็คืบหน้าเล่นใหญ่ขึ้นไปอีก ถึงขั้นเปิดอภิปรายออกรายการทีวีร่วมกับทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และ สื่อมวลชน รวมทั้งนักสืบชเวก็ถูกเชิญไปด้วย และยังสร้างกระแสต่ออีกด้วยว่า อีดูซอก จะบริจาคเงินจากรายได้ทั้งหมดกับครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากกอดีตการกระทำของเขาเป็นการชดเชยความผิด เรียกว่าต้องดังสนั่นให้ทั่วเมือง
ในที่สุด ก็มีสายจากผู้ชมทางบ้าน คือ นายเจ (รับบทโดย จองแฮคยอน) ผู้ลึกลับ โทรมากล่าวอ้างว่าเขาต่างหากที่เป็นฆาตกรตัวจริง ไม่ใช่อีดูซอก ทางรายการจึงต้องขอเชิญนายเจมาร่วมรายการ เปิดเผยหน้ากันพิสูจน์ประจันข้อเท็จจริงต่อหน้ามวลชนว่าใครกันแน่คือ ฆาตกรตัวจริง
ผู้เขียนจึงขอเชิญผู้ชมทุกท่านไปร่วมพิสูจน์พร้อมๆกับผู้ชมในห้องส่งของเรื่องต่อได้เลยค่ะ แต่อย่าลืมว่าเป้าหมายแท้จริงที่เป็นบทสรุปแท้จริงของเรื่อง คือ ต่อให้รู้ว่าใครสักคนเป็นฆาตกรตัวจริง แล้วจะทำอะไรได้ในเมื่ออายุความของคดีจบไปแล้ว ซึ่งมันต้องมีสักวิธีที่จะจัดการคนชั่วนี้ได้สิ ถ้าอยากเชียร์ต้องไว้ใจนักสืบชเวกันเถอะ
ส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนชอบหนังเรื่องนี้ที่มีความช่างคิดพลอตได้แหวกแนวดี แตกต่างคาดไม่ถึง ชอบความจิกกัด ประชดเสียดสี แม้ว่าฉากเหล่านั้นอาจเล่ามาแบบเว่อร์ๆไปหน่อย แต่ในอีกมุมก็ไม่ชอบที่มันทำให้หนังขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะช่วงฉากไล่ล่า ตอนทีมนักสืบชเวติดตามรถฉุกเฉินปลอมเพื่อชิงตัวอีดูซอกกลับมา ความที่เป็นฉากใหญ่ไฮไลท์ของเรื่อง เป็นแอคชั่นที่เมามันส์มาก แต่ดันแทรกบทตลกเว่อร์ๆ บทหน้าสิ่วหน้าขวานจึงขาดน้ำหนักไปเยอะเลย กลายเป็นความไม่ลงตัวกลมกลืนของโทนหนัง เสียดายความขลังความทริลเลอร์ที่ถูกสั่นคลอนด้วยฉากตลกที่เกินงาม แต่ถ้าไม่คิดมากเรื่องนี้ รวมๆในส่วนอื่นๆก็จัดว่าเป็นหนังที่ดูสนุกใช้ได้ ตื่นเต้นเพลินๆ ทั้งบทแอคชั่นหลายๆฉาก บทดราม่า บทพลิกหักมุมเซอร์ไพรส์ ก็มีมาเสิร์ฟครบนะ ดาราก็เต็มที่สมบทบาท จองแจยองนี่ชื่อชั้นการันตีคุณภาพอยู่แล้ว ส่วนพัคชีฮู ก็มีงานภาพยนตร์ค่อนข้างน้อย ใครเป็นแฟนเขาก็ควรติดตามชมหละ
เกร็ดที่น่าสนใจ :
เรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นโดยอิงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องจริงที่ชื่อว่า คดีฮวาซอง เพราะเกิดขึ้นที่เมืองฮวาซองในช่วงวันที่ 15 กันยายน ปี 1986 ถึง 3 เมษายน 1991 เป็นคดีดังสะเทือนขวัญคดีแรกๆของประเทศที่ยังอยู่ในความทรงจำสะเทือนใจของผู้คนจวบจนปัจจุบัน เหยื่อที่มีอายุหลากหลายตั้งแต่ 14-71 ปี ทั้งหมดถูกรัดคอตายด้วยชิ้นส่วนเสื้อผ้าของเหยื่อเอง จากหลักฐานทางนิติเวชชี้ได้เพียงว่าคนร้ายอยู่ในวัย 20+ สูงประมาณ 165-170 ซม. เลือดกรุ๊ปบี แม้ทางการจะทุ่มเทระดมความพยายามทั้งกำลังเจ้าหน้าที่มากมาย การสอบปากคำผู้ต้องสงสัยมากถึงหลักหมื่นคน แต่ก็ไม่สามารถปิดคดีได้ จนกระทั่งอายุความหมด ฆาตกรจึงลอยนวลไป เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญให้กฎหมายเกาหลียืดขยายอายุความจากเดิม 15 ปี เป็น 25 ปี เพื่อสามารถจัดการภัยสังคมให้ได้เต็มที่ขึ้น
คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง ถูกหยิบมาอ้างอิงใช้ในงานละครและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น Memories of Murder (2003) , Gap Dong (2014) , Signal (2016) , Tunnel (2017) และ Criminal Minds (2017)
Trailer :
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
