ซงจุงกิ กับการพลิกบทบาทใหม่ครั้งแรกที่ต้องชมให้ได้
ฮงซาบินและคิมฮยองซอ น้องใหม่ที่มาพร้อมฝีมืออันน่าทึ่ง
ร่วมกันถ่ายทอดนรกของ ‘คนจนตรอก’ ในโลกสุดโฉดและสุดอันตราย
Hopeless เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญในสไตล์นีโอนัวร์ หรือก็คือหนังสะท้อนเนื้อหาด้านมืด ในเรื่องราวของศีลธรรมคลุมเครือ อาชญากรรมความรุนแรง ที่ก่อความวิตก ขัดแย้ง สับสน ที่สื่อขยายความดาร์คด้วยงานในโทนแสงสีที่มืดทึมหม่นหมอง หน่วงอารมณ์ Hopeless เป็นผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่ที่ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี จากผู้ชมสายแมส ด้วยว่าได้ซงจุงกิมาสมทบในบทสำคัญ และจากการได้รับเชิญเข้าร่วมสายประกวดรอง (Un Certain Regard) ของเทศกาลหนังเมืองคานส์ด้วย
ชื่อดั้งเดิมของเรื่องนี้ คือ Hwaran แปลว่าภาษาดัทช์ มีที่มาจากความฝันเล็กๆแต่หนักแน่นของตัวละครเอก ที่อยากหลุดพ้นบ้านเกิดเส็งเคร็งเมืองอันมืดมน ไปมีชีวิตใหม่ที่เมืองสีสันสดใสอย่างเนเธอร์แลนด์ เขาก็คือ คิมยอนกยู (รับบทโดย ฮงซาบิน) เด็กหนุ่มวัย 17 ที่อยู่กับแม่โมคยอง (รับบทโดย พัคโบคยอง) และพ่อเลี้ยงคิมจองด็อก (รับบทโดย ยูซองจู) ซึ่งพ่วงลูกติดมาด้วย คือ คิมฮายัน (รับบทโดย คิมฮยองซอ หรือบีบี) วัยไล่เลี่ยกัน
ชีวิตยอนกยูมืดหม่นทุกข์ทน ก็เพราะว่าบ้านยากจน เมืองนี้ก็เต็มไปด้วยอาชญากรรม ไร้ความชอบธรรมและอนาคต และที่แย่สุดคือเขามักถูกพ่อเลี้ยงขี้เมาขาดสติ ทำร้ายรุนแรงเสมอ โดยที่แม่เองก็ไม่กล้าช่วยเพราะโดนเหมือนกัน มีเพียงฮายันที่ใจกล้าช่วยป้องให้ทุกครั้งที่เธออยู่ด้วย เพราะเธอชอบพี่ชายและอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์
ยอนกยู อดออมเงินทีละเล็กทีละน้อยจากรายได้งานพาร์ทไทม์เดลิเวอร์รี่ให้กับเถ้าแก่ร้านอาหารจีน (รับบทโดย จองมันชิก) โดยวาดหวังว่าวันหนึ่งจะได้พาแม่ไปอยู่เนเธอร์แลนด์ด้วยกัน
ในคราวที่เขาเกิดเหตุต่อยตีในโรงเรียน ด้วยว่าฮายันถูกนักเรียนชายเมาท์เสียๆหายๆ แต่เขาต้องลงเอยด้วยการเป็นฝ่ายผิด ถูกเรียกค่าทำขวัญเป็นเงินก้อนโต และคล้อยหลังยังถูกคู่อริพาพวกมารุมอัดยับ แถมกลับบ้านก็ยังโดนพ่อเลี้ยงทุบตีซ้ำอีก หาว่าเป็นเด็กไม่รักดี
เขาจึงขอเบิกเงินล่วงหน้าจากเถ้าแก่ แต่ไม่สำเร็จ ในความซวยทั้งหลาย ก็โชคดีที่แก๊งของ ชีกอน (รับบทโดย ซงจุงกิ) ที่กินอาหารอยู่ในร้านได้ยินเข้า ชีกอนเลยให้สมุนมือขวาซึงมู (รับบทโดย จองแจควัง) เอาเงินมาให้ยอนกยู แบบเต็มใจให้เปล่า โดยสั่งห้ามมิให้ติดต่อมา ยอนกยูจึงเคลียร์ปัญหาที่โรงเรียนได้ แต่กลับโดนพ่อเลี้ยงซ้อมหนัก หาว่าลักขโมยเงินมา จนเกิดอุบัติเหตุเข้าที่ใบหน้าบาดเจ็บสาหัส และสภาพบาดแผลที่ดูเป็นอันธพาลหน้าบากทำให้เถ้าแก่เลิกจ้างเขา
เมื่ออับจนหนทางหาเงิน เขาจึงจำต้องพาหน้าบากนั้น บากหน้าไปขอทำงานกับชีกอน ชีกอนที่เปลี่ยนใจรับเขาไว้เป็นเด็กลูกมือให้ซึงมูฝึกหัดและใช้สอย ที่นี่เป็นบริษัทเงินกู้ ที่มีงานผิดกฎหมายพ่วงมาคือ การลักขโมยรถมอเตอร์ไซค์ มาย้อมแมวขาย ส่วนหนึ่งก็เอากลับมาขายให้เหยื่อพร้อมบังคับการกู้เงินเพื่อรีดดอก เรียกว่าหากินหลายเด้งวนเวียนซ้ำไปเรื่อยๆด้วยวิถีอันธพาล นายใหญ่ของแก๊งนี้ ก็คือ จุงบอม (รับบทโดย คิมจงซู) ที่มอบหน้าที่หาเงินและใช้กำลังจัดการปัญหาไว้ที่ชีกอน ส่วนตัวเองก็นำเงินที่ได้ไปต่อยอดผลักดันหาผลประโยชน์จากนักการเมือง ใครทำงานได้ดีก็ชม แต่ใครทำพลาดก็เอาตายได้
ชีวิตของยอนกยูจึงเริ่มเปลี่ยนไป เขาต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆในโลกเถื่อนที่ชั่วร้ายและสุดอันตรายนี้ โดยมีชีกอนเป็น ‘ต้นแบบ’ โดยไม่รู้ตัว รวมถึงได้พัฒนาความสัมพันธ์ลางๆ ‘พี่น้องต่างสายเลือด’ กับชีกอน ด้วยว่าทั้งคู่มีปมชีวิตที่คล้ายกัน แต่อุปสรรคก็เกิดขึ้นระหว่างการเรียนรู้พฤติกรรมโหดและโฉด เพื่อภารกิจสุดอันตราย และยังมีซึงมูที่ไม่ชอบขี้หน้ายอนกยูป็นทุน กลัวถูกแย่งตำแหน่งมือขวาไป ชีวิตเสื่อมทรามบัดซบนี้จะลงเอยอย่างไร ต้องตามไปดูกัน
ในแง่ของพล็อตและโครงบทไม่ได้มีเนื้อหาอะไรฉีกใหม่ไปจากสิ่งที่เคยดูๆกันมาในเรื่องของโลกอาชญากรรม อันธพาล สินบนการเมือง ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การขาดโอกาส การใช้ความรุนแรงที่พบรอบตัวในสังคมตั้งแต่ภาพใหญ่ลงมาถึงในครอบครัว
แต่หนังได้เลือกหยิบจับเฉพาะโมเมนต์ความทุกข์ยากอับจนหนทางของเยาวชนที่กำลังเติบโตคนหนึ่งมาขยายภาพขยี้อารมณ์ เห็นถึงจิตเทาๆก้ำกึ่งดีเลว ด้วยทางเลือกที่ดูไม่ค่อยจะมีช้อยส์ให้เลือกนัก ความดิ้นรนสู้เพื่อรอด ยึดมั่นในความหวังเล็กๆ ให้เราติดตามแบบจมดิ่งลงไปกับเขา เผชิญความบัดซบ หดหู่ หมองหม่น ชวนอึดอัดจนมิอาจฟันธงได้ชัดว่าเป็นโชคหรือเคราะห์ ช่วยหรือฉุด ทำถูกหรือทำผิด ตัดสินจากอะไรดี ชีวิตที่จนตรอกเยี่ยงนี้ ควรโทษอะไรดีหละ มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ไหม…แม้คำตอบจะยังไม่มี แต่ท้ายสุดอาจขอลงเอยเพียงว่าเชียร์ให้เขารอด หลุดพ้นปลักตม ได้พบความหวัง แม้สิ่งที่แลกมาจะสุดเลวร้ายก็ตาม ก็เพื่อคลี่คลายความอึดอัดในใจเราผู้ชมเองด้วยแหละ
การกรอบโฟกัสแค่มุมนี้ เรื่องราวจึงละเลยความสมจริงไปบ้าง เราจะไม่เห็นตำรวจ หรือตัวช่วยทางกฎหมายใดๆเลย เราไม่เห็นผู้ใหญ่ที่จะตามหาหรือช่วยเหลือเด็ก ผู้ใหญ่เทาๆคนเดียวที่ยื่นมือมาก็คือชีกอน ก็เพราะเขาเห็นวัยเด็กของตัวเองในตัวยอนกยู และถ้ายอนกยูจมอยู่ในนรกเมืองทรามนี้ อนาคตก็คงกลายเป็นผู้ใหญ่แบบชีกอนอีกคนแหละ
ในอีกด้านก็เห็นมุมเล็กๆที่แอบใส่ใจรายละเอียดให้ความหมายดีเหมือนกัน เช่น การใช้รอยบากแผลเป็นมาสื่อกลายๆว่าพร้อมเป็นนักเลง การเฉลยเรื่องแฮมเบอร์เกอร์ก็แซะกลายๆสังคมด้วย
ด้านงานโปรดัคชัน ทำบรรยากาศและอารมณ์ออกมาได้ตอบโจทย์ดี ฉากโหดๆหวาดเสียวด้วยอาวุธแปลกตา เช่นถุงตะปูฟาดหน้า คีมถอดเล็บ หรือแท่นตัดกระดาษตัดมือ ฉากหดหู่สะเทือนใจก็บิวด์ได้ชวนอึ้งดี การแคสนักแสดงได้เหมาะกับบท และแสดงได้ดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็น ฮงซาบิน คิมฮยองซอ จองแจควัง
ส่วนซงจุงกินั้นแม้เมคอัปดีแสดงดี ได้ความเข้มๆหยาบกระด้างละ (แผลเป็นข้างแก้มซ้าย คือของจริงนะ) แต่ส่วนตัวผู้เขียนก็ยังเห็นเงาหน้าหล่อหนุ่มดอกไม้ที่ลบยากเหลือเกิน ยังแอบคิดเองว่าถ้าได้หนวดเครารำไร อาจเถื่อนถ่อยขึ้นได้อีกหน่อยไหมนะ แต่ก็ถือว่าเป็นความสมหวังของซงจุงกิที่ได้โอกาสเปลี่ยนภาพ เพิ่มโอกาสให้บทใหม่ๆโทนนี้ในอนาคต ก็คุ้มกับการไม่รับค่าตัวเรื่องนี้ เป็นความ win-win เพราะผู้ผลิตก็คุมต้นทุนได้ดีขึ้น และได้อีกจุดขายเสริมแรงโปรโมต (นอกจากไม่รับค่าตัว ยังใจดีซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่แจกฮงซาบินกับคิมฮยองซอด้วย น่ารักจริงๆ)
ด้วยโทนหนังที่ว่ามาข้างต้นอย่างสมชื่อ Hopeless ตลอดเรื่อง จึงเหมาะกับคอหนังดาร์คนัวร์ที่จิตแข็งหน่อยนะ ส่วนสายโลกสวยก็เลือกเอาว่าจะลองชิมลางหรือข้ามไปป้ายหน้าเลยก็ได้ค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน