Doctor Slump (หัวใจหมอไม่มอดไหม้) เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีน้ำดีต้นปี 2024 ที่ไม่อยากให้พลาดไป เพราะตลอดเรื่องได้บรรจุข้อความที่ทำให้ผู้ชมอย่างเราได้รับการปลอบประโลมจิตใจ ไปพร้อม ๆ กับตัวละครหลัก 2 คุณหมอที่ต่างกำลังเผชิญกับจุดตกต่ำของชีวิต ทั้งที่ชีวิตก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไปได้สวย ในวันที่เส้นกราฟชีวิตที่เคยพุ่งขึ้นของพวกเขาทั้งสองกลับเปลี่ยนทิศสู่จุดดำดิ่ง พวกเขาจึงได้มาเคียงข้างและเยียวยาใจกันและกัน
ในชีวิตของทุกคน ย่อมมีช่วงเวลาที่ ‘ชีวิต’ ของพวกเขาต้องการการทำ CPR
นี่คือคำโปรยบนโปสเตอร์ของซีรีส์ Doctor Slump ที่ตั้งใจจะบอกกับเราตั้งแต่ต้น ด้วยการสื่อถึงสัจธรรมของชีวิตที่ทุกคนต่างเผชิญ ว่าต่อให้เราตั้งใจกับชีวิตแค่ไหน หรือใช้ชีวิตมาอย่างไร เราทุกคนต่างมีขึ้นและมีลง ต่างมีวิกฤต และปัญหากันทั้งสิ้น ท่ามกลางยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเครียดและความเหนื่อยล้า ซีรีส์แนวนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนที่มาบอกว่าคุณไม่ได้เผชิญกับความยากลำบากนั้นเพียงคนเดียว
เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้จึงถูกถ่ายทอดในแนวฮิลลิ่งโรแมนซ์ (힐링 로맨스) ที่เริ่มเห็นบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ในซีรีส์เกาหลี ดังนั้นมากกว่าการเป็นซีรีส์หมอแนวโรแมนติกแล้ว Doctor Slump ยังเป็นพื้นที่ฮีลใจให้รู้สึกผ่อนคลาย และได้ข้อความดี ๆ ที่เติมพลังให้ชีวิต ผ่านตัวละครที่เผชิญปัญหาและอุปสรรคในชีวิตไม่แตกต่างกันกับคนดูอย่างเรา ซึ่งกระบวนการที่เห็นตัวละครเยียวยาใจ ความรู้สึก relate ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนี้ ทำให้คนดูได้รับการเยียวยาไปด้วยเช่นกัน
หมอเอง..ก็ป่วยได้
เมื่อวางตัวละครหลัก เป็น 2 คุณหมอที่เผชิญวิกฤต เรื่องราวของพวกเขาจึงถ่ายทอดให้เห็นถึงมุมมองที่ลึกลงไปที่หลายคนอาจจะไม่ทันได้นึกถึง นั่นก็คือ การที่คนเป็นหมอที่รักษาผู้อื่นนั้นก็ป่วยได้เหมือนกัน
โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ Doctor Slump ผู้กำกับโอฮยอนจง ได้กล่าวไว้ว่า “ตัวละครหลักของเราล้วนมีอาชีพเป็นแพทย์ จริงอยู่ว่าพวกเขาทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยในซีรีส์ แต่ซีรีส์แพทย์เรื่องอื่น ๆ ก็มักนำเสนอแง่มุมนี้ไปแล้ว ซีรีส์ของเราจึงมุ่งเน้นไปที่การเผชิญหน้ากับปัญหาสุขภาพจิตของเหล่าแพทย์”
Doctor Slump ปูเรื่องจากชีวิตของ นัมฮานึล (รับบทโดย พัคชินฮเย) นางเอกของเรื่อง ซึ่งมีแพชชั่นมุ่งมั่นกับการตั้งใจเรียนและอ่านหนังสืออย่างเคร่งครัดจนประสบความสำเร็จและกลายเป็นวิสัญญีแพทย์ในโรงพยาบาล แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหามากมายทั้งการกดขี่และเอาเปรียบจากรุ่นพี่ งานที่ถาโถมจนทั้งร่างกายรับไม่ไหว และสร้างปมในใจเกิดเป็นภาวะหมดไฟและป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด
ในวันที่ตัดสินใจไปหาหมอแล้วพบว่าตัวเองที่เป็นหมอกำลังป่วยกลายเป็นกำแพงสูงที่ไม่สามารถก้าวผ่านไปได้ เธอไม่กล้าบอกกระทั่งคนในครอบครัว และตัดสินใจลาออกจากงานอย่างเงียบ ๆ ต่อมาคนในบ้านก็รู้ความจริง ตอนแรกแม่ของนัมฮานึลไม่เชื่อเรื่องอาการป่วยทำให้เกิดปากเสียงกันจนลูกวิ่งหนีออกจากบ้าน ภายหลังก็ได้พบยารักษาโรคซึมเศร้าและร้องไห้อย่างหนัก พร้อมส่งข้อความหาเธอ
“ฮานึลลูก แม่อยากได้ลูกสาวที่สุขภาพแข็งแรง มากกว่าลูกสาวที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าลูกจะเลือกแบบไหน แม่ก็รักและเป็นห่วงลูกมากนะ“
ด้วยความรักและความเข้าใจจากครอบครัว ค่อย ๆ ทลายกำแพงสูงให้นัมฮานึลก้าวสู่โลกที่สดใสอีกครั้ง พร้อม ๆ กับความรักจากคู่ปรับเก่าที่บังเอิญมาพบกันในวันที่ทั้งคู่แตกสลาย ยอจองอู (รับบทโดย พัคฮยองชิก) หมอศัลยกรรมพลาสติกผู้โด่งดังจากการสร้างคลิปคอนเทนต์ในสื่อสังคมออนไลน์ จนขยายคลินิกไปมากกว่า 10 สาขา แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตที่รุ่งโรจน์กลับต้องสะดุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์จนทำให้คนไข้เสียชีวิตคาเตียง
ท่ามกลางการต่อสู้ทางคดีความที่ต้องค้นหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นอกจากยอจองอูต้องสูญเสียทุกอย่างไป ความเสียใจยังเกิดขึ้นจากความโดดเดี่ยวด้วย เขาถูกพ่อแม่สร้างกรอบให้ชีวิตต้องมีแต่ความสำเร็จและห้ามผิดพลาด ถูกเพื่อนทรยศหักหลังในวันที่ต้องการใครสักคนมากที่สุด ขณะเดียวกันช่วงเวลาที่ทุกคนได้นอนหลับพักผ่อน ยอจองอู กลับต้องเผชิญกับฝันร้าย เขาพยายามที่จะกลับมาจับมีดผ่าตัดอีกครั้ง พร้อมกับดูแลนัมฮานึลและหวังว่าเธอจะพึ่งพาเขาได้ในเวลาเดียวกัน แต่เรื่องราวกลับไม่ไปได้ตามที่หวัง เขาเล่าความในใจให้นัมฮานึลฟัง และได้รับคำตอบกลับมาว่า
“จองอู ฉันดีขึ้นมากเลยเพราะนายแท้ ๆ ตอนแรกที่เพิ่งลาออกจากโรงพยาบาล ฉันรู้สึกเหมือนว่าโลกจะแตก แต่กลับมีความสุขขึ้นตั้งเยอะก็เพราะนาย เราได้ไปกินต็อกบกกี ไปเกมเซนเตอร์ แล้วได้ไปดูหนังในโรง นายทำให้ฉันเห็นว่าชีวิตมีอะไรมากกว่าโรงพยาบาล นายก็เหมือนกันนะ ชีวิตนายมีอะไรมากกว่าคลินิก ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือเปล่า ยังไงนายก็เป็นคนที่สุดยอด“
การมีอยู่ของคนข้าง ๆ คือ ยาชั้นดี
แม้จะมีวันที่แย่ แต่เมื่อมองไปแล้วมีคนอยู่ข้าง ๆ หัวใจที่หนาวเหน็บก็กลับมามีความอบอุ่นอีกครั้งได้ นอกจากการตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์หลังรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรค PTSD แล้ว ทั้งนัมฮานึลและครอบครัวที่คอยดูแล เอาใจใส่ รับฟัง และโอบกอด ก็เป็นยารักษาโรคตัวสำคัญที่ทำให้พระเอกก้าวข้ามผ่านความกลัวในอดีตไปได้ เหมือนกับที่พระเอกบอกนางเอกว่า “เธอเป็นเหมือนยาคลายกังวลในชีวิตที่ขมปี๋ของฉัน”
นอกจากการคอยประคองจิตใจกันและกันของ 2 ตัวละคร ที่ทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแล้ว ซีรีส์ยัง Normalize การไปพบจิตแพทย์ โดยนำเสนอให้เห็นว่าเมื่อตัวละครเผชิญปัญหาทางจิตใจ ก็ตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ และเข้ารับการรักษา ซึ่งมุมมองเหล่านี้เป็นการช่วยให้ผู้ชมเข้าใจว่า การไปพบจิตแพทย์เป็นเรื่องน่าอาย และไม่ได้แสดงว่าอ่อนแอ แต่เป็นการดูแลสุขภาพจิต ไม่ต่างอะไรกับการที่เราป่วยกายแล้วไปพบแพทย์เลย
ปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรมของคนเป็นหมอ
แม้ในเรื่องจะเน้นถึงการเยียวยารักษาใจของคนเป็นหมอทั้ง 2 คน แต่น่าสนใจที่ต้นตอของเรื่องราวนั้นได้แฝงประเด็นชวนคิดถึงเรื่องปัญหาการทำงานหนัก ความอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงความเสี่ยงในการทำงานของบุคลากรการแพทย์ในซีรีส์ Doctor Slump เป็นภาพสะท้อนเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยข้อมูลวิจัยจากสมาคมแพทย์ประจำบ้านเกาหลีใต้ (KIRA) พบว่า แพทย์ประจำบ้านในเกาหลีทำงาน 77.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมากกว่าครึ่งของประชากรตัวอย่างทำงานมากกว่า 80 ชั่วโมง ซึ่งเกินกว่าจำนวนชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด โดยแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยกรรมหัวใจและทรวงอกทำงานเฉลี่ย 102.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ขณะเดียวกัน แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดให้แพทย์ประจำบ้านที่ทำงานติดต่อกัน 16 ชั่วโมงต้องมีเวลาพักผ่อนอย่างน้อย 10 ชั่วโมง แต่ผลวิจัยพบว่า พวกเขากลับไม่ได้พักตามเวลาดังกล่าว ถึงหมอจะรักษาผู้ป่วย แต่หมอเองก็ป่วยได้เช่นกัน ด้วยสภาพการทำงานหนักหน่วงเช่นนี้ส่งผลให้แพทย์ประจำบ้านต้องเผชิญกับผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ กระทั่งเริ่มมีแนวโน้มการลาออกกลางคันเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในเกาหลีใต้ที่ต้องจับตามองกันต่อไป และคาดว่าในอนาคตจะมีมาตรการแก้ไขปัญหานี้เพื่อไม่ให้หมอต้องกลายเป็นผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจเพิ่มมากขึ้น
สามารถรับชมซีรีส์ Doctor Slump ได้ครบทั้งหมด 16 ตอนได้แล้วที่ Netflix
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡