หลอนและโดดเด่นสมดังคำกล่าวของ บงจุนโฮ ผู้กำกับหนังเรื่องดัง Parasite ที่กล่าวไว้ว่า
‘Sleep’ เป็น ‘หนังสยองขวัญเกาหลีที่แหวกแนวที่สุดในรอบทศวรรษ’
ขอเชิญมาพิสูจน์งานความหมายคมคายผ่านศิลปะลีลาที่ชวนทึ่งจริงๆ
Sleep เป็นหนังเดบิวท์ของผู้กำกับ ยูแจซอน หรือ เจสันยู ซึ่งมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับของบงจุนโฮจากเรื่อง Okja (2017) และ Secretly Greatly (2013) รวมถึงเป็นผู้กำกับเสียงของเรื่อง Along With the Gods ทั้งสองภาคมาแล้ว
ผลงานเดบิวท์ของเขานี้แจ้งเกิดได้อย่างภาคภูมิ มีความสดใหม่ตั้งแต่พล็อต คอนเซ็ปต์แก่นความคิด การเดินเรื่องที่น่าชมด้วย Genre ผสมผสานของความลึกลับ ชวนติดตามใคร่รู้ ระทึกเขย่าขวัญ และการสะท้อนจิตนัวร์ ปนตลกร้ายเบา ๆ เชิงจิตวิทยาหน่อย ๆ นอกจากนี้ Sleep ยังได้โอกาสเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ผ่านมาในสายประกวด International Critics’ Week ซึ่งเป็นเวทีของการสนับสนุนความสามารถหน้าใหม่ ๆ
ท้องเรื่องเล่าถึง คู่สามีภรรยาที่ท้องแก่ลูกคนแรก และมีเจ้าตูบปอมปอมน่ารักอีกหนึ่งตัวเป็นสมาชิกในครอบครัว พวกเขาอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ชั้นบน สามีคือ ฮยอนซู (รับบทโดย อีซอนคยุน) เป็นนักแสดงละครในบทสมทบที่ยังไม่มีชื่อเสียงนัก จึงมีความเครียดกังวลอยู่บ้าง ภรรยาคือ ซูจิน (รับบทโดย จองยูมิ) เวิร์คกิ้งวูแมนผู้มีความคิดบวก ใส่ใจและให้กำลังใจสามีมาตลอด จัดว่าเป็นคู่ชีวิตธรรมดา ๆ คู่หนึ่งที่ดูมีความสุขดี ด้วย Motto ประจำบ้านคือ ‘ถ้าร่วมแรงร่วมใจกัน ทุกอุปสรรคจะผ่านพ้นไปได้’
เหตุเริ่มต้นเมื่อคืนหนึ่งฮยอนซูซึ่งไม่เพียงนอนกรนเสียงดัง แต่ยังเริ่มละเมอกลางดึกอย่างไม่รู้ตัว จากละเมอพูด ไปสู่การออกอาการประหลาดรุนแรงชวนหลอนจิตซูจินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคืน ช่างแตกต่างจากฮยอนซูภาคกลางวันราวกับเป็นคนละคน ถึงขั้นเดินไปคุ้ยเนื้อดิบในตู้เย็นกิน ทิ้งตัวเองออกไปจากระเบียงตึกเกือบดิ่งลงมาตายถ้าเธอฉุดไว้ไม่ทัน รวมถึงความหลอนช็อคสุดก็คือน้องตูบของครอบครัวกลายเป็นเหยื่อแช่แข็งในตู้เย็น!
ซูจินที่เครียดวิตกมากขึ้น ๆ ยิ่งเมื่อลูกคลอด ก็ยิ่งเป็นห่วงหนักขึ้นอีก แต่ที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามทุกวิถีทาง ทั้งพาไปพบแพทย์รักษาโรคนอนละเมอ ทั้งสร้างมาตรการในบ้านเพื่อปกป้องความปลอดภัย ซึ่งก็ยังไม่มีวี่แววจะเห็นผลใดนัก ยังความทุกข์ทรมานให้ซูจินทั้งกายและใจ ไม่กล้าหลับไม่กล้านอน จิตผวาสาหัสกว่า ทั้ง ๆ ที่สามีไม่เคยรู้ตัวอะไรด้วยซ้ำ จนไปลงเอยด้วยคำตอบทางไสยศาสตร์ ที่พึ่งทางใจจากคำแนะนำของแม่ ซึ่งพาแม่หมอมายืนยันว่าเขาถูกผีสิงแน่นอน
แต่การจะไล่ผีได้ก็ต้องรู้ชื่อผีก่อน ทำให้ซูจินเริ่มหมกมุ่นการหา ใครคือผีตนนั้นที่ตั้งใจมารังควาญเธอ การหาพบว่าเป็นใครนั้นก็นำชีวิตเธอไปสู่อันตรายอีกด้านที่เกินคาด รวมถึงความสัมพันธ์ครอบครัวที่หมิ่นเหม่พังทลาย ชวนอยากรู้ว่าผีนั้นเป็นใคร ทำเพราะอะไร จะใช่ผีจริงหรือไม่ ฮยอนซูจะหายจากโรคละเมอสยองหรือไม่ เขาและเธอจะกอบกู้ครอบครัวแตกกระเจิงกลับมาแสนสุขเช่นเดิมได้หรือไม่ อย่างไร ต้องไปติดตามดูอย่างตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ และเสียววูบเย็นวาบบ้าง
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ ความเขย่าขวัญที่ได้อารมณ์หนังผี แต่ไม่ได้เห็นผี มันเป็นเทคนิคที่แยบคายในการสื่อเนื้อหาของชีวิตคู่ ครอบครัวสุดแสนธรรมดาๆครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องเผชิญเรื่องประหลาดสยองจิต เป็นประสบการณ์โลดโผนเกินคาด อันเกิดจากเหตุการณ์พื้น ๆ ใกล้ตัว แต่สามารถสอดแทรกกลิ่นอายความลึกลับเข้าไปได้ นั่นคือการนอนหลับ กิจกรรมที่ไม่ค่อยมีใครหยิบมาสร้างเรื่องราวความสัมพันธ์อย่างเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ การนอนหลับที่ควรจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นกลายเป็นปัญหาคุกคามชีวิตอย่างชวนตลกร้ายและขนลุกได้อย่างไรกัน
ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ในการนอนสามารถหมายถึงการชาร์จพลัง การปลดปล่อยจิตใต้สำนึก การหลับใหลสิ้นสติ ไปถึงการหลับนิรันดร์คือตาย และถ้าหยิบสิ่งที่มีความคลุมเครือจากการหลับนี้มาเล่นด้วยการตั้งต้นที่ ‘นอนละเมอ’ ทำให้สามารถดิ้นตีความได้เป็นปริศนาดี จะเป็นคำอธิบายเชิงของวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์ดี ซึ่งผู้กำกับผูกเรื่องเล่าเรื่องได้ดีให้ทั้งสองแกนดูกลมกลืนไปด้วยกันจนจบ จนเราอาจไม่คิดอยากหาคำตอบแล้วว่าจริงแท้คืออะไรกันแน่ เพราะเราได้คำตอบอื่นที่สร้างความพึงพอใจให้เราเพียงพอแล้วก็ได้
บางครั้งการหาข้อเท็จจริงก็อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญของการจัดการความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่ผลลัพธ์ปลายทางต่างหาก โดยเฉพาะอย่างเมื่อผลลัพธ์นั้นถูกคลี่คลายด้วยความเชื่อใจในกันและกันในฐานะการเป็นคู่ชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ก็ตอกย้ำผ่านแผ่นป้าย Motto ครอบครัวอย่างตรงไปตรงมา และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของผู้เป็นต้นตอเรื่องราว ในขณะที่สารพัดวิธีแก้ปัญหาหรือสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการอยู่ร่วมกัน หรือแม้แต่การนำครื่องรางเข้ามาเป็นตัวช่วย ก็สื่อสะท้อนถึงชีวิตผู้หญิงที่มักแบกรับปัญหาของครอบครัวโดยออโตเมติกและดิ้นรนจัดการกับปัญหานั้นอย่างถึงที่สุด
ความแยบยลในการบิวด์อารมณ์ความรู้สึกก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หนังทำได้ดีมาก ค่อย ๆ ไต่ระดับเพิ่มดีกรีจากความสงสัย สังเกต สับสน พัฒนาเป็นความกังวล วิตก จนเครียด กลัว ไปถึงขั้นผวา จิตหลอน สูญเสียสติ ที่อวลอารมณ์ผู้ชมให้จมดิ่งไปกับนักแสดงได้ตลอดเรื่อง ถูกพาให้คล้อยตามภรรยาที่กลัวพฤติกรรมสามี แล้วค่อย ๆ ย้ายข้างไปกลัวพฤติกรรมภรรยาแทน ในดีกรีที่ทวีความเขย่าขวัญขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับการแสดงของ จองยูมิ ที่ถ่ายทอดพัฒนาการทางอารมณ์นั้นได้อย่างชวนติดตามมาก ประกอบกับงาน Cinematography ที่ดีงาม ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์ครบทุกด้าน พร้อมจะเป็นงานสดใหม่แปลกตา ได้ทั้งบันเทิงและเนื้อหาดี ๆ ควรค่าต่อการชมค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡