กลางซากปรักหักพังดุจนรก ยังมีหนึ่งอะพาร์ตเมนต์รอดตระหง่านให้ใคร ๆ หมายพึ่งพิง
กลางวิมานที่ติดกฎเหล็กเสพสุขเฉพาะลูกบ้านผู้มีสิทธิ์ ก็ยังมีนรกมืดมิดของจิตมนุษย์
วิมานหรือสวรรค์แท้จริงจะอยู่ที่ใด ใช่ว่าแข็งแกร่งเป็นคอนกรีตแล้วจะอยู่ยืนยงตลอดไป
Concrete Utopia หรือชื่อไทยว่า คอนกรีต ยูโทเปีย วิมานกลางนรก เป็นผลงานของ ผู้กำกับออมแทฮวา ซึ่งเคยมีดีกรีรางวัลจากผลงานเรื่อง Vanishing Time: A Boy Who Returned (2016) เรื่องนี้จะเป็นงานบันเทิงผสมผสานทริลเลอร์ แอ็คชั่น ดรามา บนพื้นหลังของผลพวงหายนะภัยพิบัติ สอดแทรกความตลกร้ายเสียดสีในประเด็นสังคม ยูโทเปีย-ดิสโทเปีย รวมไปถึงการสะท้อนจิตมนุษย์เทา ๆ เรียกว่าเป็นหนังที่ดูจบแล้วชวนตกตะกอนความคิดตามอีกเยอะ จึงทำให้หนังเรื่องนี้ถูกจับตาเป็นเรื่องเด่นหนึ่งใน Big 4 ของช่วงซัมเมอร์เกาหลีปีนี้ และผล ณ ตอนที่เขียนรีวิวนี้ ก็คือยอดตั๋วทะลุ 3 ล้านใบใน 3 สัปดาห์ ขึ้นแท่น Box office เป็นอันดับ 3 ของปี และได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนหนังเกาหลีไปชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ซึ่งจะมีงานในวันที่ 10 มีนาคม 2024
ท้องเรื่องของหนังเป็นสภาวะหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ถล่มโซลพังยับ (ไม่ระบุสาเหตที่มา) รวมถึงอะพาร์ตเมนต์ซึ่งเป็นที่พักอาศัย เป็นชีวิต ความหวัง ความสุข เป็นศูนย์รวมใจครอบครัวของผู้คนล้วนอันตรธานไปสิ้น เหลือเพียงตึกเดียวรอดตระหง่านอยู่ คือ ‘อะพาร์ตเมนต์ฮวังกุง’ ผู้คนที่รอดตายจากพื้นที่ข้างเคียงก็พากันหนีความหนาวจัดถึงตายได้ เข้ามาหาความอบอุ่นพักพิงที่นี่ ประวิงเวลารอความหวังจากหน่วยกู้ภัย (ซึ่งไม่มีมาด้วยเหตุใดไม่รู้) ทว่า ทั้งพื้นที่และอาหารก็มีจำกัด ความคิด ‘เอาตัวรอด’ จึงอุบัติขึ้นบนสิทธิ์การเป็นเจ้าของสังคมอันมีค่าแห่งนี้
คิมกึมแอ (รับบทโดย คิมซอนยอง) ประธานชมรมสตรีที่ลุกขึ้นมาเป็นตัวตั้งตัวตีเรียกประชุมลูกบ้าน โหวตเลือกว่าจะขับไล่คนนอกหรือไม่ ผลคือ ‘ไล่ออกให้หมด’ โหวตผู้แข็งแรงใจสู้มาเป็นตัวแทนผู้นำการปกป้องฮวังกุง รวมถึงจัดตั้งทีมแบ่งหน้าที่ เช่นหน่วยปราบปรามด้วยกำลัง หน่วยรักษาพยาบาล หน่วยออกหาเสบียง หน่วยคลังจัดสรรแจกอาหาร ก็อยู่บนพื้นฐานประชาธิปไตยและวางระบบจัดการแบบมืออาชีพในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีนะ
คิมยองทัก (รับบทโดย อีบยองฮอน) ลูกบ้านห้อง 902 ได้รับเสียงเป็นเอกฉันท์ให้เป็นตัวแทนปกป้องฮวังกุง เพราะผลงานที่เขาเคยช่วยดับไฟอย่างห้าวหาญเกินใคร ความเป็นผู้นำของเขาฉายแววออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถขับไล่คนนอกออกไป สามารถนำทีมออกหาเสบียงมาเติมได้ตลอด เป็นศูนย์รวมจิตใจของลูกบ้านได้ โดยมีคิมกึมแอคอยหนุนหลัง และสร้างกฎเหล็กเพื่อการอยู่รอดของชาวฮวังกุง
คิมมินซอง (รับบทโดย พัคซอจุน) ลูกบ้านห้อง 602 อาชีพข้าราชการคนธรรมดา ๆ ต้องการเพียงมีชีวิตมั่นคงมีสุขกับภรรยา คือ จูมยองฮวา (รับบทโดย พัคโบยอง) ซึ่งเป็นพยาบาลจิตใจดีมีมนุษยธรรม เขายอมรับหน้าที่ทีมปราบปรามตามที่คิมยองทักมอบหมาย ก็เพียงเพราะคิดว่า การปกป้องฮวังกุงเท่ากับปกป้องมยองฮวา ส่วนมยองฮวาก็ทำหน้าที่ทีมดูแลการเจ็บป่วยบาดเจ็บ
ด้วยเหตุนี้ ฮวังกุงจึงได้รับการฟื้นฟูกลับมามีชีวิตชีวาทั้งสถานที่และจิตใจ อาณาจักรเล็ก ๆ ซึ่งเป็นเหมือนยูโทเปียได้ไม่นานนัก ก็ผุดคลื่นใต้น้ำเล็ก ๆ จากที่ลูกบ้านคิดเห็นต่าง ลักลอบแหกกฎเหล็กเพื่อปันน้ำใจ รับผู้เดือดร้อนจากภายนอกเข้ามาอยู่ การคุมเกมรักษาความสงบ (หรือคงไว้ซึ่งอำนาจของผู้ที่ปกครอง) จึงเด็ดขาดด้วยด้านมืดของจิตใจ ใช้ความรุนแรง ไร้มนุษยธรรม เห็นแก่ตัวมากขึ้น รวมถึงการออกหาเสบียงที่เป็นเยี่ยงโจรถือสิทธิ์ของความมีพวกมีแรงมากกว่า และเหยียดหยามผู้อยู่นอกยูโทเปียของพวกเขาเป็นดั่งแมลงสาบ
นอกจากนี้ การกลับมาของลูกบ้าน มุนฮเยวอน (รับบทโดย พัคจีฮู) ห้อง 903 ที่ทิ้งบ้านไปก่อนเกิดแผ่นดินไหว ต้องเผชิญทุกข์ยากภายนอกเยี่ยงนรก จนตัดสินใจกลับมา เธอกำความลับบางอย่างที่เปรียบเสมือนระเบิดที่ถล่มความ ‘ยูโทเปีย’ ของฮวังกุงได้เลย เพียงรอเวลาและผู้มาดึงสลัก ยังไม่รวมถึงเหล่าผู้ถูกขับไล่ที่เคืองแค้นหรือเป็นกลุ่มจรจัดนอกอาณาจักรนี้ ที่อาจพร้อมเสี่ยงสู้ตายสักครั้งแย่งชิงยูโทเปียเพื่อความอยู่รอดบ้าง
ผิวเผินใคร ๆ จะคิดว่านี่เป็นหนังพล็อตภัยพิบัติเดิม ๆ อีกแล้ว แต่จริง ๆ แล้วหนังเน้นหายนะหลังจากนั้น ซึ่งมีเนื้ออื่น ๆ อย่างแน่น มีเลเยอร์ของความหมาย มีนัยลึกซึ้ง สัญลักษณ์แฝงไว้ตลอด เรียกว่าคิดทุกเม็ด คล้ายกับฟิลตอนดูเรื่อง Parasite เลย แต่เพื่อมิให้รีวิวยาวเกิน จะขอพูดเฉพาะประเด็นใหญ่ ๆ ละกัน
อันดับแรกสุด การหยิบอะพาร์ตเมนต์มาเป็นตัวแทนสื่อความสำคัญ ครบทั้งการเป็นความหวังเป็นชีวิตของปัจเจกบุคคล ความรักของครอบครัว ไปถึงชี้วัดการพัฒนาเติบโตของประเทศ ที่กลายเป็นเครื่องแบ่งชนชั้นในสังคมไปด้วย การจะมีบ้านหรือเป็นเจ้าของห้องอะพาร์ตเมนต์ของคนเกาหลีมีกระบวนซับซ้อนยากเย็นมาก อันที่จริง อีกชื่อในภาษาเกาหลีของเรื่องนี้มีความหมายว่า ‘สาธารณรัฐอะพาร์ตเมนต์’ ผู้ชมจะอ๋อเลยเมื่อดูจบ แต่ชื่อ Concrete Utopia เองก็ชัดเจนในคอนเซ็ปต์เช่นกัน
คอนเซ็ปต์ของการเล่นกับความหมายของยูโทเปีย-ดิสโทเปียที่เสียดสีได้ดี สร้างความยูโทเปียบนสถานที่ดิสโทเปีย แล้วพวกเขาก็ทำให้เป็นความดิสโทเปียบนพื้นที่ยูโทเปียซะเองแหละ ไม่ใช่แค่ว่าพังเพราะด้านมืดของจิตเท่านั้น แต่ใจดีจนไม่สนกติกาสังคมก็ร่วมชงความพังได้เหมือนกัน การเปรียบเทียบตึกฮวังกุงสูงตระหง่านเป็นยูโทเปียกับซากตึกพังในท้ายเรื่องเป็นยูโทเปียที่แท้จริงกว่า ตึกแนวตั้งกับแนวราบก็ยังให้ความหมายของความสัมพันธ์ที่ต่างกันได้อีกด้วย ที่จุกไปกว่านั้นคือพื้นที่สุดทางชีวิตคนเราก็แค่บนกระดานไม้แผ่นเล็ก ๆ เท่านั้น!
หนังสะท้อนภาพปัญหาการอยู่ร่วมกัน ความเป็นสังคม การเมืองการปกครอง ต้องอาศัยทัศนะความเสียสละแบบไหน ประชาธิปไตยหรือเผด็จการคุมอำนาจดีกว่ากัน จะเรียกว่าเป็นความแกร่งมากขึ้นหรือบ้าอำนาจมากขึ้น ก็ห่างกันแค่เส้นบาง ๆ และความศรัทธาของผู้ตาม การแบ่งแยกชนชั้นหรืออภิสิทธิ์ชน แท้จริงแล้วก็ยังคงมีอยู่เสมอไม่ว่าจะโลกใบเล็กหรือใบใหญ่ ยูโทเปียหรือดิสโทเปีย
การออกแบบตัวละครทำได้น่าสนใจ สะท้อนหลายประเภทของคนในสังคมจริง ๆ ให้สนุกสำรวจวิเคราะห์ คิดได้หลายมุมมองเลย
คิมยองทัก มีมิติ มีพัฒนาการที่น่าติดตาม มีปมหักมุม คิดดี ๆ ก็ฟันธงไม่ถูกเลยนะว่า เขาผิดเขาเลว 100% ไหม ควรเห็นใจ หรือสำนึกบุญคุณหรือประณามและกำจัดทิ้งดี การมีเขาหรือไม่มีเขา สถานการณ์ไหนจะดีกว่ากัน แม้จะพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับตัวละครนี้ แต่ก็จะเข้าใจได้กับความเป็นไปของเขา อีบยองฮอน อินลึกในทุกมิติ จากสุดข้างหนึ่งไปยังสุดอีกข้างหนึ่ง ตีบทแตกแยกขั้วได้สมศักดิ์ศรีนักแสดงเอลิสต์ระดับอินเตอร์จริงๆ
จูมยองฮวา และ โดคยุน (รับบทโดย คิมโดยุน) เป็นคนดีที่ตัดสินใจถูกต้องแล้วจริงหรือไม่ ในเวลาและวิธีการที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ พัคโบยอง รับบทที่โตขึ้นกว่าเดิม ๆ เป็นคนมีครอบครัว แต่กลิ่นอายความตัวเล็กใจกล้าบุ่มบ่ามหน่อย ๆ ของพัคโบยองยังคงอยู่ ซึ่งก็เข้ากับตัวตนของมยองฮวามาก
คิมมินซอง ตัวละครที่หัวอ่อนปล่อยลู่ไปมาได้ แม้จะอยู่ตรงกลาง ไม่สุดสักข้างเป็นแบบยองทักหรืออีกข้างแบบมยองฮวาก็ตาม ความยืดหยุ่นแบบไม่มีเป้าหมายอะไรมากไปกว่าตัวเองจนเหมือนคนเทา ๆ ก็เจอในสังคมทั่วไปเยอะ แต่ก็เป็นอีกตัวละครที่ส่งแรงดึงดูดผู้ชมด้วยการใช้พัคซอจุนซึ่งก็ดูลงตัวดี ชวนให้ส่งใจลุ้นเป็นพิเศษกับบทที่ได้รับ
คิมกึนแอ ก็เป็นตัวละครเด่นในโลกวันนี้ มองแง่บวก เธอเป็นคนมีความคิดความสามารถ เก่งทั้งจัดการงานและบริหารใช้คนเป็น แต่มองในแง่ลบ เธอก็เป็นเหมือนผู้ชักใย และหลบภัยด้านหลัง หนีเอาตัวรอดได้ไวกว่าผู้ที่เป็นหนังหน้าไฟอย่างคิมยองทัก
งานโปรดัคชั่น ซีจี แสงสี ซาวน์ เพลง เต็มคุณภาพฟอร์มใหญ่สมกับความทุ่มเทของทีมงาน ถึงขั้นว่าลงทุนสร้างตึกสามชั้นมาถ่ายทำฉากอะพาร์ตเมนต์กันเลย แว่วมาว่า ผู้กำกับขลุกอยู่ในห้องตัดต่อ ทำแล้วทำอีกจนอีบยองฮอนแซวเขาว่าเป็น ‘ผู้อาศัยอยู่ในห้องตัดต่อ’ 555 กระนั้นก็ยังแอบรู้สึกว่าหนังยังมีความยืดเยื้ออยู่บ้างบางช่วง และบทจบอาจเรียบง่ายไปหน่อย ส่วนเหล่านักแสดงก็เรียกว่าอึดกันมาก ในบทของอากาศหนาวเหน็บลบ 26 องศาแต่ช่วงที่ถ่ายทำเป็นหน้าร้อน! ปิดท้ายด้วยโบนัสแถมความน่ารักจากผู้กำกับที่ชวนน้องชายคือ ออมแทกู มาร่วมแสดงรับเชิญในบทคนจรจัดข้างทางด้วย เอ็นดูจัง
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡