หนังเดบิวต์ของคิมซอนโฮที่เปิดทางให้สาดเสน่ห์ร้าย ยียวน และโหดเหี้ยม แต่ผู้ชมจะเกลียดไม่ลงจริง ๆ
หนังแอ็คชั่นระห่ำคุณภาพจัดเต็ม การันตีงานจากหนังตระกูล The Witch
หนังบู๊โหดเข้มข้นที่ดูไปหัวเราะไปได้ด้วยอย่างสุดบันเทิงใจ
The Childe ในชื่อไทยว่า ‘เทพบุตร ล่านรก’ เป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับ พัคฮุนจอง เจ้าของผลงานดัง ๆ อย่าง The Witch : Part 1. The Subversion (2018), The Witch: Part 2. The Other One (2022), Night in Paradise (2021) และ V.I.P. (2017) และเรื่องล่าสุดนี้ก็ยังอยู่ในแนวถนัดของเขาคือ Genre ของนีโอนัวร์ แอ็คชั่น ทริลเลอร์
งานนี้ยังคงได้คุณภาพคราฟท์ดีสวยศิลป์ เต็มรสบันเทิงด้วยลีลาหยอดปริศนาชวนติดตาม บู๊แอ็คชั่นระทึกถึงใจ และเสน่ห์ของนักแสดงที่มาร่วมส่งให้หนังน่าสนใจมากขึ้น แม้ยอดตั๋วที่เกาหลีจะไม่ได้พุ่งสูงนัก แต่ผู้เขียนขอฟันธงเลยว่าถูกใจสายแมสไฮบริดของบ้านเราที่ชอบโหดมันส์ปนหล่อได้ฮาดีแน่นอนค่ะ
ว่าด้วยเรื่องราวของ ฮันมาร์โก (รับทโดย คังแทจู) เด็กหนุ่มวัย 24 ที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์กับแม่เพียงลำพัง เขาเป็น ‘โกปิโน‘ หรือก็คือลูกครึ่งเกาหลีฟิลิปปินส์ เขารักการชกมวย อาศัยรายได้เล็กน้อยจากการขึ้นชกตามสนามมวยเถื่อน แต่ก็ยังเก็บไม่พอเป็นค่าผ่าตัดแม่ซึ่งป่วยหนัก ยิ่งพยายามหาเงินด้วยวิธีอื่นก็ยิ่งเจอปัญหาเข้าตาจน แม้เขายังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพ่อซึ่งเป็นคนเกาหลีเลย แต่ก็หวังพึ่งพาให้ช่วยค่าผ่าตัดแม่
มาร์โกได้ไหว้วาน แมทธิวคิม (รับบทโดย อีกียอง) ผู้อำนวยการของโรงเรียนสอนเด็กโกปิโนที่มาร์โคเรียนและโตมา ให้ช่วยจ้างใครก็ได้ตามหาพ่อให้หน่อย แต่ครูคิมแจ้งข่าวดีเกินคาดกลับมาว่า พ่อเขาซึ่งเป็นเศรษฐีก็ตามหาเขาอยู่เช่นกัน
ทนายคัง (รับบทโดย ฮอจุนซอก) คนของพ่อมานำตัวมาร์โคบินด่วนสู่เกาหลี บนเครื่องบินมาร์โกได้เจอกับหนุ่มปริศนามาดผู้ดีหล่อเนี๊ยบที่เรียกตัวเองว่า ‘เพื่อน’ (รับบทโดย คิมซอนโฮ) แม้รอยยิ้มจะโชว์ความเป็นมิตร แต่หน้าและลีลาที่กวน ๆ จิต ๆ ก็ทำให้มาร์โครู้ว่าเขาไม่น่าไว้ใจนัก และชวนช็อคยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาบอกว่า มาร์โคมาเกาหลีเพื่อ….(รอเฉลยในหนัง) แต่สำหรับผู้ชมคงใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ กว่า เพราะได้เห็นจากฉากเปิดเรื่องก่อนหน้ามาแล้วว่า ‘เพื่อน’ ผู้ดีคนนี้เป็นนักฆ่าอำมหิตหน้ายิ้ม
เมื่อมาถึงเกาหลี มาร์โกผู้ยังไม่ทันได้รู้อะไรเลยก็ตกสู่วังวนเดือด ต้องหนีเอาชีวิตรอดการไล่ล่าโหดเอาเป็นเอาตายที่รุมเข้ามาไม่ยั้งจากบุคคลอันตรายหลายฝ่าย เข้าทำนองหนีเสือปะจระเข้ ทั้งจาก ‘เพื่อน’ ปริศนาคนนั้น จาก ยุนจู (รับบทโดย โกอารา) ผู้หญิงที่เคยบังเอิญเจอในฟิลิปปินส์แล้วโผล่มาข้างตัวในเกาหลีอย่างมีเลศนัย รวมถึงจากทีมสมุนของ ฮันอีซา (รับบทโดย คิมคังอู) ทายาทของมหาเศรษฐีซึ่งเป็นมูลนิธิใหญ่ที่บริหารโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยดังหลายแห่ง ฮันอีซาเป็นผู้โลภกระหายในสมบัติของพ่อ และจิตโหดฆ่าคนได้ป่าเถื่อนเลือดเย็นเหมือนเกมยิงปืนล่าสัตว์
ถึงจุดที่เงื่อนงำปริศนาทยอยเฉลย มาร์โกได้รู้เหตุผลแท้จริงของการมาเกาหลี รู้ความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ล่าแต่ละรายที่มุ่งเป้ามาที่เขา สถานการณ์อันชวนช็อคก็พาเขามาถึงจุดอันตรายที่ยากจะเอาชีวิตรอด ต้องไปติดตามว่าเขาจะผ่านวิกฤตินี้ไปอย่างไร ในขณะที่ยังเหลือความจริงที่ชวนตะลึงยิ่งกว่ารอเขาอยู่ แค่ขอให้รอดชีวิตมารับความอึ้งพ่วงตลกร้ายสมกับชื่อดั้งเดิมของหนังว่า Sad Tropical
นั่นคือความโดดเด่นของบทที่ทำให้ชวนติดตาม แบบไม่ยาก ไม่กั๊กจนเกินไป (อาจรู้สึกนิด ๆ ด้วยซ้ำว่าตอนปล่อยพรวดก๊อกแรกนั้น ดูง่ายไปนิด หรือเพราะเป็นจุดอ่อนของผู้หญิงที่ชะล่าใจเกิน ..สปอยล์นิดนะ) มีบทหักมุมท้ายเรื่องที่สนุกดี มีปูความระทึกจากงานบู๊แอ็คชั่นมาตั้งแต่ต้นเรื่อง พอเข้าบทแอ็คชั่นไล่ล่าก็พีคมากขึ้นเรื่อย ๆ มีหมดตั้งแต่ฉากไล่ล่าด้วยสองเท้าวิ่ง ไปถึงรถไล่ล่า บู๊ชกต่อยไปถึงซัดกระสุนใส่กัน และพีคตะลุมบอนเดือด สาดกระสุนเลือดพล่าน เชื่อมือผู้กำกับได้เลย ทำออกมาได้น่าดูและสนุกไม่มีเอื่อยแน่นอน
สิ่งที่เป็นจุดเด่นเรื่องนี้ที่ทำให้ดูเพลินขึ้นอีกก็คือ การจัดมุกฮามาแทรกความตึงเครียดได้เก่ง ช่างคิดในรายละเอียดอย่างเป็นธรรมชาติ ได้มุกที่ดูเหมือนฉากถ่ายผิดพลาดต้องตัดทิ้ง รวมถึงการเลือกวางบทฮาไว้ตรงจุดที่คาดไม่ถึงคือฉากหน้าสิ่วหน้าขวาน และคนที่ขยันชงบทฮาเยอะสุดก็คือพ่อเทพบุตรนักล่าสุดโหดโดย คิมซอนโฮ นี่แหละ
ตัวละครของคิมซอนโฮถือเป็นคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจ อาศัยเสน่ห์ของความ Contrast หลากหลาย ไม่ว่าจะหน้าหล่อแต่อำมหิต ยิ้มแต่หลอน ผู้ดีแต่ดูกวนประสาท ขี้หลงความโปรของตัวเอง เนี๊ยบหรูแต่เป็นนักฆ่าเลือดสาด แล้วยังมีหน้ากลัวเลือดเลอะรองเท้าอีก เท่และโหด แต่ทำใจเสาะโอดครวญกับแผลถาก ๆ ของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ซัดคนอื่นไร้ความปราณี ส่วนคิมคังอูที่ชั่วโฉดเอาเรื่อง พอได้จังหวะก็ปล่อยมุกฮาประชันกับเค้าด้วย
หนึ่งในความได้ใจผู้ชมที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คืองานแคส ผู้กำกับตั้งอกตั้งใจเลือก คิมซอนโฮ มาแต่แรก เขียนบทให้เป็นเขาเลย และยืนยันไม่ล้มเลิกความตั้งใจแม้จะมีอุปสรรคใดก็ตาม ถึงขั้นว่า ถ้าคิมซอนโฮไม่แสดงก็จะล้มโปรเจ็คท์กันเลย ต้องขอบคุณที่คิมซอนโฮที่ตัดสินใจเดินหน้ารับแสดงเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่ยุติงานอื่น ๆ ไปหมด ตัวละครเองก็มีเสน่ห์อยู่แล้ว เขาทำให้เสน่ห์ฉายชัดมากขึ้นไปอีก จนขโมยทุกซีนที่ออกฉากได้จริง ๆ
นอกจากนี้ยังมีแคสตัวละครมาร์โกที่ฝ่าออดิชั่นคนหลักเกือบสองพันคน การได้ คังแทจู มาคือดีมาก ทั้งหน้าตาและฝีมือการแสดง เรียกว่ารักษาความเป็นศูนย์กลางที่ไม่ถูกกลบเลย แคสของ คิมคังอู ก็หายห่วงเสิร์ฟสมศักดิ์ศรี สำหรับความเห็นของผู้เขียน จะมีก็แต่แคสฝ่ายหญิงที่ดูอ่อนไปนิด ไม่ว่าเป็น โกอารา ที่ออร่าโหดไม่ออก หรือแคสตัวละคร ฮันกายอง น้องสาวต่างแม่ของ ฮันอีซา ถ้าออกรสถึงพริกถึงขิงกว่านี้อีกหน่อยก็คงเด็ดขึ้น
ท้ายสุด เรื่องนี้มาถ่ายทำที่เมืองไทยแทนโลเคชั่นฟิลิปปินส์ ทำให้หลาย ๆ ฉากดูคุ้นตาแอบมีอารมณ์ร่วมนิด ๆ และเพลงประกอบเพราะดีเลยค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡