อีกหนึ่งศิลปินระดับตำนานของวงการเพลงเกาหลี ‘SHINee’ กลับมาอีกครั้งในรอบ 2 ปี 2 เดือน พร้อมเผยเสน่ห์ที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในอัลบั้มชุดที่ 8 ‘HARD’ ที่มีเพลงไตเติลในชื่อเดียวกัน ซึ่งพวกเขาจะถ่ายทอดเสียงร้องหลากหลายเสน่ห์ ผ่านแนวเพลงต่าง ๆ ทั้งหมด 10 เพลง อีกทั้งยังเป็นการครบรอบเดบิวต์ 15 ปี ถือเป็นการเปิดบทใหม่ของ SHINee เลยทีเดียว
ความพิเศษของ ‘HARD’ ซึ่งเป็นเพลงไตเติลนั้น คือเป็นเพลงสไตล์ไฮบริดฮิปฮอปแดนซ์ ที่เป็นการผสมผสานดนตรีแนวบูมบัพ R&B และฮิปฮอปยุค 90 เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังสร้างความสนุกให้ผู้ฟังขึ้นอีกระดับ เมื่อผสมผสานกับเสียงร้องอันทรงเสน่ห์ตามแบบฉบับของ SHINee พร้อมกับเนื้อเพลงที่ติดปาก ‘We Go Hard’ ที่สื่อถึงความมุ่งมั่น และความแน่วแน่ที่จะบอกออกไปว่า ‘Young & Wild’ ตลอดไป
ที่สำคัญ ท่าเต้นของเพลงไตเติล ‘HARD’ ได้นำเสนอความเป็น SHINee ออกมาอย่างโดดเด่น โดยการผสมผสานท่าเต้นฮิปฮอปยุค 90 เข้ากับท่าเต้นที่ทันสมัย และยังมีจังหวะที่ชวนให้ทุกคนโยกตาม รวมกับท่าเต้นที่สามารถเต้นตามได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดความเป็นตัวเองของแต่ละสมาชิกผ่านท่าเต้นอีกด้วย สามารถช่วยเพิ่มความสนุกในการรับชมเพลงนี้ยิ่งขึ้น
นอกจากเพลงไตเติลอย่าง ‘HARD’ แล้ว ในอัลบั้มยังมีเพลงต่าง ๆ อีกมากมายหลากหลายแนวให้เลือกฟังกันอย่าง ‘The Feeling’ ที่เป็นเพลงฉลองครบรอบ 15 ปีที่ถูกปล่อยออกมาก่อน เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้แก่ ‘ชยาวอล’ แฟนคลับที่พวกเขารัก
‘JUICE’ เพลงแนวฮิปฮอป-แดนซ์ที่มีจังหวะชวนโยก เนื้อเพลงมาพร้อมหัวข้อที่พูดถึงพลังอำนาจในตัวของเราเอง, ‘10X’ เพลงที่มีจังหวะไม่เร็วไม่ช้ามาก ผสมผสานเสียงเครื่องกระทบที่หลากหลาย, ‘Satellite’ เพลงแนวแดนซ์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อปที่เนื้อเพลงได้เปรียบตัวเองเหมือนกับดาวเทียม ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะลอยไปอยู่เคียงข้างคนที่รัก, ‘Identity’ เพลงแดนซ์แนวอัปเทมโปที่พูดถึงเรื่องอัตลักษณ์ การเผยตัวตนของเราออกมา เหมือนกับชื่อเพลง
‘Like It’ เพลงแดนซ์ป๊อบที่เนื้อเพลงพูดถึงความตื่นเต้นจนอยากจะออกไปเจอกับโลกใบใหม่, ‘Sweet Misery’ เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ป๊อบที่เมื่อฟังแล้วจะทำให้รู้สึกได้ถึงความเศร้า ผ่านจังหวะดนตรีที่มีความหน่วง และหนัก, ‘Insomnia’ เป็นเพลงแนว R&B และฮิปฮอปที่มีจังหวะช้า ผสมผสานเสียงร้อง และเสียงแรปเข้าด้วยกันอย่างนุ่มนวล และ ‘Gravity’ เพลงแนว R&B เป็นอีกหนึ่งเพลงช้าที่จะครองใจผู้ฟังได้อย่างแน่นนอน ด้วยเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงเรื่องแรงโน้มถ่วงที่ดึงดูดให้เรามาพบกัน จึงเป็นเพลงที่ปิดท้ายอัลบั้มได้อย่างสวยงาม
และก่อนหน้านี้ SHINee ได้จัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 6 ‘SHINee WORLD VI [PERFECT ILLUMINATION]’ ทั้งหมด 3 รอบการแสดง ในวันที่ 23-25 มิถุนายน 2566 ณ KSPO DOME กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รวมผู้ชมกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งในคอนเสิร์ตนี้ พวกเขาก็ได้แสดงเพลงใหม่จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 เป็นครั้งแรก รวมถึงเพลงฮิตที่เรียบเรียงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมนำมาแสดงร่วมกับวงดนตรี ทำให้เหล่า ชยาวอล ต่างได้รับความสุขผ่านเสียงเพลงจากนักร้องที่พวกเขารักในคอนเสิร์ตนี้กันเลยทีเดียว
อัลบั้มชุดที่ 8 ‘HARD’ นี้ ถือเป็นการกลับมาอย่างสง่างามของ SHINee ในรอบ 2 ปี 2เดือน และได้เผยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงได้นำเสนอแนวเพลง R&B-ฮิปฮอปยุค 90 ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ SHINee ที่ทำให้ผู้ฟังบางส่วนรู้สึกเหมือนได้หวนกลับไปยังช่วงเวลาที่พวกเขาเพิ่งเดบิวต์ นอกจากนี้ยังเป็นการครบรอบเดบิวต์ 15 ปี อัลบั้มนี้จึงถือเป็นการเปิดบทใหม่ และเป็นผลผลิตจากประสบการณ์กว่า 15 ปีของ SHINee เลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง
SHINee คัมแบคอย่างเฉิดฉาย พร้อมอัลบั้มเต็มชุดใหม่ ‘Don’t Call Me’
‘คีย์ SHINee’ กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง กับความสำเร็จในรีแพ็กเกจอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Killer’
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
Photo: SM Entertainmet