Little Women ซีรีส์จากช่อง tvN ที่บอกเล่าเรื่องราวสุดระทึกทว่าละเมียดละไมและเสียดสีสังคมขั้นสุด นำแสดงโดย คิมโกอึน นัมจีฮยอน และ พัคจีฮู ในตอนที่ 3 และ ตอนที่ 4 ซีรีส์ได้เพิ่มปมและให้คำใบ้กับคนดูผ่านสัญญะและคำพูดค่อนข้างมาก ผู้เขียนจึงจดลิสต์รวบรวมวิเคราะห์ปมที่น่าสงสัย พร้อมตีแผ่สัญญะที่อาจซ่อนคำใบ้ให้ติดตามกัน ใครที่ยังงงกับปมประเด็นของซีรีส์เรื่องนี้ ได้เวลาไขให้กระจ่างแล้ว ~
*บทความนี้มีการกล่าวถึงเนื้อหาภายในเรื่อง ระวังสปอยล์นะคะ*
✿ ชีวิตพลิกผันของเคานต์ แห่งมองเตกรีสโต
ชีวิตพลิกผันของเคานต์ แห่งมองเตกรีสโต หรือ The Count of Monte Cristo เป็นนวนิยายแนวผจญภัยที่เขียนโดย Alexandre Dumas นักเขียนชาวฝรั่งเศส ภายในนวนิยายจะบอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยที่ระหว่างทางเต็มไปด้วยความหวัง ความยุติธรรม ความเมตตา การแก้แค้น และการให้อภัยของ Edmond Dantès (เอ็ดมอนด์ ดองเตส์) ชายผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกใส่ร้ายจากความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อจนถูกจำคุก แต่แล้วเมื่อออกจากคุกเขากลับปรากฏตัวในสังคมปารีสในฐานะเคานต์แห่งมอนเตกรีสโต
ในตอนที่ 3 ในขณะที่โออินจูได้นำเจ้าหญิงจอมโจรที่ผลิบานแล้วไปให้ประธานวอนซังอู (ลูกชายของนายพลแบคกีซอง) ตามจดหมายที่จินฮวายองเขียนไว้ในโรงพยาบาลจิตเวช ประธานวอนซังอูได้เปรียบ ‘โออินจู’ ว่าเธอคือ ‘เอ็ดมอนด์ ดองเตส์’ ซึ่งคำพูดนี้มันแฝงไปด้วยการใบ้เรื่องราวของเรื่องในอนาคต และยังเป็นการใบ้ถึงเส้นทางชีวิตที่โออินจูจะได้เจอในอนาคตอีกด้วย
หากเทียบกับในนวนิยาย เอ็ดมอนด์ ดองเตส์ ถูกใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมงานว่าเขาเป็น Bonapartism (อุดมการณ์ทางการเมืองที่ครอบงำโดยนโปเลียน โบนาปาร์ต) ทำให้ดองเตส์ถูกจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งใน Ep.3 จะเห็นได้ว่าอินจูก็กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันกับที่ดองเตส์เจอ เธอไม่ได้เป็นผู้ยักยอกเงิน เธอเป็นแค่หมากตัวนึงที่ถูกดึงตัวให้ลงมาเล่นเกมกระดานนี้อย่างงงๆ แต่เธอกลับถูกไล่บี้อย่างไม่ป็นธรรมจากทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นน้องสาวคนรองที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการที่พี่สาวถือครองเงินก้อนนี้จนจะแจ้งตำรวจจับ ทั้งฝั่งพัคแจซังที่กดอินจูให้จนตรอกถึงขนาดยอมตายได้ขอแค่ให้ได้เงินมาช่วยน้อง ทั้งชเวโดอิลที่ไม่รู้ว่าจะเข้ามาดีหรือร้ายหรือเข้ามาแค่เรื่องเงิน ทั้งวอนซังอาที่รอยยิ้มแสนสวยแต่เบื้องหลังกลับฉาบไปด้วยยาพิษร้ายแรง ทุกคนล้วนไล่บี้อินจูอย่างไม่เป็นธรรมทั้งหมด
จินฮวายอง เป็นตัวละครที่เปรียบได้กับเพื่อนนักโทษของดองเตส์ อับเบ ฟาเรีย เพราะเธอคือคนที่คอยอยู่ข้างๆอินจูเสมอ คอยสอนเธอในเรื่องของการวางตัวในสังคม คอยสอนเธอในเรื่องของบัญชีอย่างไม่มีกั๊กและเธอยังเป็นคนโยนเงินก้อนโตไว้ให้กับอินจูอีกด้วย ซึ่งเหมือนกับที่อับเบ ฟาเรีย ทำให้กับดองเตส์แทบจะทุกประการ ฟาเรียทั้งสอนวิชาการหลากแขนง และยังบอกดองเตส์เรื่องขุมทรัพย์บนเกาะมองเตกรีสโตอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้ดองเตส์สามารถกลับมาแก้แค้นทุกคนได้จากแหล่งขุมทรัพย์ที่ฟาเรียบอกเอาไว้ก่อนตาย
ซึ่งถ้าอินจูคือดองเตส์ และจินฮวายองคือฟาเรีย นั่นเท่ากับว่าจินฮวายองอาจจะตายแล้วจริงๆ และพัฒนาการในอนาคตของอินจูก็คงจะเป็นอะไรที่น่าจับตามองมากๆ ความจนตรอก และความต้องการที่จะปกป้องครอบครัวด้วยเงิน คงจะกลายมาเป็นแรงผลักดันหลักให้เธอมีเหลี่ยมมีคม และสามารถแก้แค้นทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้อย่างสาสม
✿ นิสัย 3 พี่น้องที่แตกต่างกันคนละขั้ว
ดูเหมือนใน Ep.3 และ Ep.4 ‘ความจน’ จะถูกสอดแทรกเข้าไปผสมรวมให้ออกมาเป็นทัศนคติ การกระทำ และคำพูดที่มาจากตัว 3 พี่น้อง เพราะใน 2 ตอนนี้เราจะเห็นนิสัยของ 3 พี่น้องได้ชัดเจนขึ้นมากๆ และทั้ง 3 พี่น้องก็แตกต่างกันมากๆด้วยเช่นกัน
- พี่สาวคนโต โออินจู เธอเติบโตมากับความยากจนถึงขีดสุดตั้งแต่เด็กๆ เป็นพี่คนโตที่ต้องคอยแบกรับและรับรู้ปัญหาทุกอย่างภายในบ้าน เป็นคนที่โดนความจนกดทับมากที่สุด เพราะฉะนั้นเธอเลยยอมทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน เพราะเธอเชื่อว่า ‘วิธีเดียวที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอได้ คือการที่จะไม่จนอีกต่อไป’ และเธอต้องการที่จะ ‘ปกป้องครอบครัวของเธอด้วยเงิน’ ถึงแม้การกระทำของอินจูบางอย่างจะชวนขมวดคิ้วไปบ้าง ทั้งความเชื่อคนง่าย ทั้งการทำตัวซื่อๆอย่างการแบกเงินสดเป็นล้านๆเดินไปไหนมาไหน แต่หากมองกลับไปยังพื้นเพเบื้องหลังของเธอ กลับรู้สึกว่าการกระทำของเธอสมเหตุสมผลและเป็นตัวเธอมากๆ แม้ทั้งชีวิตเธอจะลำบากแต่เธอก็ไม่เคยต้องมานั่งระแวงกับการที่จะถูกตามฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้ และถึงแม้จะใฝ่ฝันอยากจะมีเงินมากๆมาทั้งชีวิตแต่พอมีเงินขึ้นมาจริงๆ เธอกลับไม่รู้วิธีที่จะใช้มันเลย ดูได้จากการเลือกซื้อ ‘ไอศกรีม‘ เป็นสิ่งแรกหลังจากที่ได้เงินมา
- พี่สาวคนกลาง โออินกยอง เธอคือคนที่แตกต่างไปจากพี่น้องทั้งหมดเพราะปัญหาที่เธอเผชิญมาตั้งแต่เด็กๆมันไม่ใช่ ‘ความจน’ ที่ติดตัวเป็นกลิ่นเหมือนพี่น้องทั้ง 2 แต่มันคือ ‘การถูกเหยียด’ ที่ทำให้เธอกลายเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ และพอใจกับความจนที่กดทับอยู่แบบนี้ ฟีลแบบถึงฉันจะจนแต่ก็จนอย่างมีศักดิ์ศรี และที่เธอสามารถมั่นใจในความจนของตัวเองได้ขนาดนี้ก็เพราะลึกๆเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอยังมีย่าเป็นต้นไม้ใหญ่ให้คอยพึ่ง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเธอก็ยังมีย่ารวยๆคอยยื่นมือเข้ามาช่วย มีเพื่อนที่มีฐานะคอยซัพพอร์ต ดูได้จากแม้จะถูกพักงานแต่เธอกลับยังใช้ชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน ยังมีอาหารดีๆกินตลอดจากเพื่อนที่รวยและย่าที่มีฐานะ ยังได้อยู่ในบ้านหรูๆเสมอ ไม่พอเธอยังมีทักษะการพูดภาษาอังกฤษที่ชำนาญมากๆ ต่างจากพี่น้องทั้ง 2 คน ‘ภาษา’ จึงเป็นอีก 1 ทักษะที่บ่งบอกถึง ‘ความรวย’ ที่อินกยองมีในตัว
- น้องสาวคนเล็กของบ้าน โออินฮเย เธอเกลียดความจน เกลียดตัวตนของตัวเองที่เต็มไปด้วยความจน ไม่แปลกที่เธอจะพาลไม่ชอบพี่สาวทั้ง 2 คนไปด้วย เพราะเธอนั่นต้องเติบโตมากับความลำบากขั้นสุดของพี่น้อง เธอเหมือนเกิดมาเป็นภาระที่พี่สาวทั้ง 2 ต้องแบกไว้บนหลัง เธอเลยโหยหาสิ่งที่จะพาเธอให้หลุดพ้นไปจากความจนที่เธอเกลียดแสนเกลียดนี้ ไม่แปลกที่บ้านของฮโยรินจะกลายเป็นเหมือนพระเจ้าสำหรับเธอ เพราะทุกอย่างล้วนแปลกใหม่ น่าค้นหา น่าเรียนรู้ และเธอก็อยากจะเป็นแบบนั้นเธออยากเป็นคนรวยที่เต็มไปด้วยออร่าของความรวยไม่ว่าจะเป็นรสนิยม การเข้าสังคม การกินอาหาร หรือแม้แต่ ‘จมูก’
✿ น้องที่ต้องตายเพราะ ‘ความจน’ Easter Egg ที่เพิ่มมาเพื่อคารวะต้นฉบับ
แท้จริงแล้วต้นฉบับของ Little Women นั้นเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ประพันธ์โดย Louisa May Alcott นักเขียนสาวชาวอเมริกัน ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ 4 สาวพี่น้องตระกูล March ได้แก่ พี่สาวคนโต Meg, พี่สาวคนรอง Jo, พี่สาวคนกลาง Beth และน้องสาวคนสุดท้อง Amy แต่ทว่าในฉบับซีรีส์เกาหลีกลับดัดแปลงให้มีพี่น้องเพียง 3 คนเท่านั้น แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่ 3 ซีรีส์กลับเฉลยปมเบื้องหลังของตระกูลโอ ว่าจริงๆแล้วบ้านตระกูลโอแท้จริงมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน
แต่น้องคนสุดท้อง ‘อินซอน’ กลับเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายในวัย 2 ขวบ เพราะว่าพวกเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะพาน้องคนสุดท้องไปรักษานั่นเอง การเพิ่มตัวละครน้องอินซอนเข้ามาถือว่าเป็นการคารวะต้นฉบับเดิมอย่างแนบเนียน ถือเป็นการเขียนบทที่ชาญฉลาดและน่าชื่นชมมากๆ
✿ ‘ดอกกล้วยไม้สีน้ำเงิน’ ดอกกล้วยไม้แห่งความตาย กับสวนลับของนายพลวอนกีซอน
ใน 2 ตอนนี้ซีรีส์มีการปล่อยข้อมูลของดอกกล้วยไม้แห่งความตาย หรือ ดอกกล้วยไม้สีน้ำเงิน ออกมาค่อนข้างเยอะมากๆ เลยจะมาลิสต์ทบทวนความทรงจำเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการใช้สืบปมในตอนต่อๆไป
- ดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินมีอีกชื่อว่า ‘กล้วยไม้ผียูเรเซีย’ และเป็นที่รู้จักในนาม ‘ผีแห่งเเวียดนาม’
- ดอกไม้ชนิดนี้ถูกนำเข้ามาในประเทศอเมริกา โดยทหารอเมริกาที่เข้าไปรบในสงครามเวียดนาม
- เหล่านักสำรวจและนักพฤกษศาสตร์ที่ได้เข้าไปหาดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินเพิ่มเติมภายในป่าของเวียดนาม แม้จะได้ติดไม้ติดมือกลับมาบ้างแต่ทุกคนกลับต้องแลกด้วยชีวิต จึงถูกเรียกว่า ‘กล้วยไม้แห่งความตาย’
- การผสมพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินในประเทศอเมริกาล้มเหลว ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น และต่อมายังถูกระงับการนำเข้า เพราะถูกจัดให้อยู่ในหมวด ‘ดอกไม้มีพิษ’
- พิษของดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินจะออกฤทธิ์ในลักษณะเหมือนยากล่อมประสาท คนที่ไวต่อความรู้สึกหากดมกลิ่นของมันชีพจรจะเต้นถี่ขึ้นจนรู้สึกว่าเท้าเบาหวิว และบางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดอาการหลอน และถ้าหากนำมันไปต้มกินมันจะออกฤทธิ์จนทำให้สูญเสียประสาทสัมผัสโดยสมบูรณ์
- การเสียประสาทสัมผัสโดยสมบูรณ์ คนทรงเจ้าจะเรียกช่วงเวลาขณะนั้นว่าเป็นขั้นแรกในการไต่ขึ้นสู่สวรรค์ ซึ่งในขั้นนี้คนทรงเจ้ามักจะได้เจอกับวิญญาณของคนตาย
จากข้อมูลทั้งหมดที่ซีรีส์ได้มีการเผยมา ทำให้เห็นว่าดอกไม้ชนิดนี้นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของการตายในแต่ละตัวละครแล้ว ดอกไม้ชนิดนี้ยังมีการออกฤทธิ์กล่อมประสาทอีกด้วย ซึ่งการเผยข้อมูลนี้ออกมาทำให้สามารถโยงไปถึงสาเหตุการตายของประธานคิมดัลซูที่เสียไปอย่างปริศนาได้ นั่นเป็นเพราะประธานคิมดัลซูที่ได้รับดอกกล้วยไม้มาจากพัคแจซัง เขาได้ดมมันก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำแล้วปลิดชีพตัวเองด้วยเข็มฉีดยา สามารถอนุมานได้เลยว่านั่นเป็นเพราะฤทธิ์กล่อมประสาทของดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินที่เปลี่ยนให้คนที่ไม่อยากตายกลับฆ่าตัวตายได้อย่างง่ายดาย
และสิ่งที่น่าสงสัยไปมากว่านั้นคือดอกไม้นี้หายากมาก เหลือเพียงไม่กี่ดอกบนโลก แถมคนที่รู้ก็ยังมีแค่ในแวดวงคนทรงเจ้าของเวียดนามเท่านั้น แต่ทำไมนายพลวอนกีซอนถึงได้มีดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินนี้ในครอบครองต้นใหญ่ขนาดนั้น นายพลวอนกีซอนต้องการเก็บดอกไม้ชนิดนี้เอาไว้เพื่ออะไร
✿ ทหารดีบุก และ บ้านตุ๊กตา
หากใครจำได้ใน intro เปิดเรื่องซีรีส์เราจะเห็นตุ๊กตาทหารดีบุก และบ้านตุ๊กตาปรากฎอยู่ใน intro ซึ่งในตอนนี้ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า ‘ทหารดีบุก’ เป็นตัวแทนสัญลักษณ์แทนตัวของ ‘พัคแจซัง’ ชายหนุ่มที่ไต่เต้าขึ้นมาจากการเป็นลูกคนขับรถจนสามารถเป็นมหาเศรษฐีได้จากการแต่งงานกับ ‘วอนซังอา’ ลูกสาวของนายพลวอนกีซอน เจ้าของ ‘บ้านตุ๊กตา’ ที่ใบหน้ามักจะฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
ทำให้เมื่อกลับไปย้อนดู intro จะเห็นว่าเจ้าของเล็บสีเขียวดูเหมือนจะมีเปอร์เซ็นเป็น ‘วอนซังอา’ ค่อนข้างสูง ฉากที่ดีดสิ่งของที่มีทหารดีบุกอยู่ในนั้นเหมือนจะเป็นการเฉลยกลายๆว่าพัคแจซังเป็นเพียงหมากนึงในเกมกระดานที่เธอวางไว้ ที่เมื่อใช้เสร็จก็เขี่ยทิ้งได้ทันที ไม่เพียงเท่านั้นในฉากสุดท้ายของ intro จะเห็นได้ว่าเจ้าของเล็บสีเขียวเธอได้กุมบ้านตุ๊กตาของเธอเอาไว้ ท่ามกลางเจ้าหญิงจอมโจรที่ผลิบาน การกระทำของเธอในฉากนี้มันสามารถบ่งบอกได้ว่าบ้านตุ๊กตาที่เต็มไปด้วยห้องหลากหลายห้องนี้ มันคือ ‘กระดาน’ ที่เธอได้วางแผนเอาไว้ และทุกอย่างมันถูกจับวางและจัดแจงโดยเธอทั้งหมด
หรือจะมองในอีกแง่ก็ได้ว่าหากหัวหน้า ‘จินฮวายอง’ ยังไม่ตาย เจ้าของเล็บสีเขียวก็มีเปอร์เซ็นเป็นเธอสูงเช่นเดียวกันทั้งปมการทำศัลยกรรมก่อนตาย การมีรอยสักที่ข้อเท้าซึ่งเป็นตัวระบุตัวตนได้ดี และการสวมรอยเป็นอินจูในสิงค์โปร์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอาจจะถูกดำเนินการโดยหัวหน้าจินทั้งหมดเลยก็ได้ ศพที่อยู่ในบ้านอาจจะเป็นคนที่เธอเอามาสวมรอย และเธอในตอนนี้ก้อาจจะอยู่เบื้องหลังคอยตามเก็บทีละคน ในใบหน้าใหม่ที่ได้ศัลยกรรมมา ก็สามารถมองในแง่นั้นได้เช่นกัน
✿ ‘นางแอรีแอดเน่’ หญิงผู้สังหารพี่ชายและถูกสามีทรยศ
นางแอรีแอดเน่ (Ariadne) เธอเป็นธิดาของกษัตริย์ไมนอส บุตรของซุสในร่างวัวกับนางยูโรปา เธอตกหลุมรัก ธีซิอัส (Theseus) โอรสของราชาอีจีอัสแห่งเอเธนส์ เข้าอย่างจังเมื่อแรกเห็น ด้วยความรักที่ท่วมท้นทำให้นางไม่อยากให้ธีซิอัสต้องตายเหมือนกับชายหนุ่มคนอื่นๆ เธอจึงไปขอคำแนะนำจากแดดาลัส ให้บอกทางในเขาวงกตที่มิโนทอร์อาศัยอยู่ และยังขอให้บอกวิธีการจัดการกับมิโนทอร์อสูรครึ่งคนครึ่งวัวให้จงได้ เมื่อนางแอรีแอดเน่รู้ถึงวิธีเอาชนะมิโนทอร์ได้ เธอจึงเอาด้ายไปให้กับธีซิอัสเพื่อให้เขาสามารถหาทางออกมาจากเขาวงกตได้
หลังจากที่ธีซิอัสสังหารมิโนทอร์ลง เขาก็ได้ลงเรือมาพร้อมกับแอรีแอดเน่โดยได้แวะค้างคืนที่เกาะแนคซอส แต่ในคืนนั้นเขากลับฝันเห็นเทพีอธีนา โดยในฝันนางได้สั่งให้เขาออกเรือไปตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเขาจะต้องทิ้งนางแอรีแอดเน่เอาไว้ เพราะแท้จริงแล้วนางเป็นคู่ของไดโอนีซัส ไม่ใช่เขา ธีซิอัสจึงตัดสินใจทิ้งนางแอรีแอดเน่เอาไว้บนเกาะ ซึ่งนั่นทำให้เขาลืมเปลี่ยนใบเรือให้เป็นสีขาวตามสัญญาณที่ตกลงกันไว้กับบิดา ทำให้เมื่อราชาอีจีอัสเห็นกองเรือที่ใบเรือยังเป็นสีดำ พระองค์จึงเสียใจมากเพราะคิดว่าบุตรชายของตนได้ตายแล้ว พระองค์จึงโดดหน้าผาลงมาตายก่อนที่เรือจะเข้าเทียบท่า
หากอิงจากตำนานของนางแอรีแอดเน่ วอนซังอา ก็คือนางแอรีแอดเน่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่เป็นภรรยาของพัคแจซัง หรือ ธีซิอัส ซึ่งเธอได้กำจัดพี่ชายอย่างประธานวอนซังอูให้ออกไปจนพ้นทางสามีของเธอ(ปัจจุบันถูกส่งไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวช) ซึ่งประธานวอนซังอูก็เปรียบได้กับ มิโนทอร์ ที่ถูกธีซิอัสสังหารจากคำแนะนำของแอรีแอดเน่ และเธอยังเป็นตัวช่วยสำคัญให้พัคแจซังหลุดพ้นจากความยากจนได้ด้วย ซึ่งความยากจนของพัคแจซังในอดีตก็สามารถเปรียบได้กับเขาวงกตที่แอรีแอดเน่ได้ให้ด้ายกับธีซิอัสเอาไว้เพื่อให้เขาสามารถหาทางออกมาได้ หลังสังหารมิโนทอร์เสร็จ
การเปรียบเทียบว่าวอนซังอาคือนางแอรีแอดเน่ ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆว่าเธออาจจะโดนสามีอย่างพัคแจซังทรยศในอนาคต เหมือนที่แอรีแอดเน่ถูกธีซิอิสทิ้งไว้บนเกาะแนคซอส
ติดตามอ่าน วิเคราะห์ปมน่าสงสัย พร้อมตีแผ่สัญญะที่อาจซ่อนคำใบ้ให้ติดตาม ในซีรีส์ Little Women Ep.5-6 ได้ในบทความต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิเคราะห์ปมน่าสงสัย พร้อมตีแผ่สัญญะที่อาจซ่อนคำใบ้ให้ติดตาม ใน ซีรีส์ Little Women Ep.1 – Ep.2
เรื่องย่อซีรีส์ : Little Women | สามพี่น้อง (2022)
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
