Emergency Declaration (ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ) ภาพยนตร์แอ็กชันหายนะฟอร์มยักษ์ของเกาหลี ที่ในขณะนี้ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก และยังสามารถเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมในเทศกาลหนัง Cannes Film Festival ครั้งที่ 74 ไปได้อย่างล้นหลาม ด้วยเรื่องราวที่ทำเอาลุ้นระทึกไปตาม ๆ กัน อีกทั้งยังขนทัพทีมนักแสดงระดับแถวหน้าของเกาหลีไว้มากมาย อาทิ ซงคังโฮ อีบยองฮอน จอนโดยอน คิมนัมกิล อิมชีวาน คิมโซจิน และ พัคแฮจุน
ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด ผู้กำกับฮันแจริม จึงได้มีโอกาสมาพูดถึงสิ่งที่น่าสนใจภายในภาพยนตร์เรื่อง Emergency Declaration และได้เผยถึงเหตุผลที่หยิบนำเอาประเด็นมหันตภัยบนเครื่องบินมาทุ่มทุนการสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์ว่า
“ผมได้ข้อเสนอให้ทำภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมจึงเริ่มวางโครงเรื่องและแผนคร่าว ๆ แต่ไม่รู้จะทำออกมาเป็นภาพได้แบบไหนในตอนนั้น ผมจึงศึกษาและดูภาพยนตร์เกาหลีที่เกี่ยวกับมหันตภัยต่าง ๆ แทบทุกเรื่อง จนกระทั่งเกิดไอเดียว่าจะสานต่อโปรเจกต์นี้อย่างไรให้มันโดดเด่นออกมา ซึ่งส่วนใหญ่ผมมักจะทำภาพยนตร์โดยให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง พอ ๆ กับตัวละคร ซึ่งการทำตัวละครให้ผู้ชมอินไปด้วย บางทีมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ผู้ชมคนนั้น ๆ พบมา แต่ถ้าภาพยนตร์มีสถานการณ์ที่น่าสนใจ มันจะยิ่งทำให้ทุกคนสนุกไปพร้อมกันได้ ซึ่งเหตุการณ์ใน Emergency Declaration ผมคิดว่าภาพยนตร์นี้สามารถมอบความระทึกให้กับคนทุกเพศวัยได้ครับ”
นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทอดความระทึกขวัญที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินออกมาได้อย่างสมจริงแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับคำแนะนำจากมืออาชีพตัวจริง อย่างนักบิน ทีมตำรวจ กองทัพอากาศ และอีกมากมายด้วยเช่นกัน ซึ่ง ผู้กำกับฮันแจริม ได้เผยว่า
“พวกเราตั้งใจทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาสมจริงมากที่สุด เราจึงได้รับคำแนะนำจากผู้สันทัดด้านนี้หลายคนเลยครับ เราได้ทั้งนักบินและลูกเรือมาเป็นที่ปรึกษาให้เราตั้งแต่เริ่มเขียนบท และยังมีทีมตำรวจมาให้คำปรึกษาด้านการก่อการร้ายบนเครื่องบิน อีกทั้งยังมีกองทัพอากาศและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เราพยายามใช้คำแนะนำจากพวกเขา เพื่อสร้างความสมจริงให้กับภาพยนตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมอยากให้ผู้ชมได้มีประสบการณ์เหมือนอยู่บนเครื่องบินลำนั้นด้วยตัวเอง ดังนั้นความสมจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการใช้เครื่องบินจริง ๆ ทำฉาก งานแสง งานกล้อง และทุก ๆ อย่าง”
ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ทุ่มทุนการผลิตด้วยจำนวนทุนมากถึง 28,000 ล้านวอน อีกทั้งยังได้สั่งเครื่องบินซึ่งเป็นซีนไฮไลท์ของภาพยนตร์ ส่งตรงมาจากต่างประเทศอีกด้วย โดย ผู้กำกับฮันแจริม เผยต่ออีกว่า
“เราต้องใช้เครื่องบินโดยสารที่สามารถเดินทางจากโซลไปฮาวายได้จริง ซึ่ง Airbus ควบคุมโดยใช้แค่คันบังคับ มันคงดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เราเลยหันไปใช้ Boeing 777 แทน โดยการซื้อเครื่องจากลาสเวกัส ก่อนที่มันจะถูกแยกส่วนและส่งขึ้นเครื่องมาให้เรา งานตกแต่งภายใน ทั้งเบาะและพื้นถูกปรับให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ เดิมทีมันเป็นสีฟ้า แต่เราอยากให้มันดูอบอุ่น ผู้ชมจะได้รู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งในผู้โดยสาร ในฉากที่เครื่องบินเสียการควบคุม กล้องเราหมุนรอบเครื่อง 360 องศา เป็นร้อยรอบ ทีมเทคนิคพิเศษและสตั๊นท์แมนแนวหน้าของวงการภาพยนตร์เกาหลีช่วยกันเพื่อให้นักแสดงและทีมงานกว่าเจ็ดสิบชีวิตถ่ายทำกันอย่างปลอดภัย”
สุดท้ายนี้ ผู้กำกับฮันแจริม ได้นำเสนอถึงแง่คิดที่ผู้ชมทุกคนจะได้รับจากภาพยนตร์เรื่อง Emergency Declaration ว่า
“ผมต้องการจะเน้นประเด็นว่า คนเราเอาชนะความกลัวในสถานการณ์บีบคั้นถึงชีวิตอย่างไร ธรรมชาติของมนุษย์พร้อมทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ผมหวังว่าผู้ชมจะได้แง่คิดตรงนี้กลับไป นอกเหนือจากความบันเทิงครับ”
สำหรับใครที่อยากติดตามเรื่องราวชวนระทึกขวัญนี้ อย่าลืมคาดเข็มขัดให้แน่น และไปรับชมภาพยนตร์ Emergency Declaration (ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ) ได้ที่โรงภาพยนตร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ Emergency Declaration (ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ) ได้จากคลิปด้านล่างนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡