เมื่อหญิงสาวปริศนาโทรมาขอให้ผู้ประกาศของสถานีรายงานข่าวการตายของตัวเธอ
และเธอก็ตายพร้อมกับลูกสาวจริง ๆ อย่างเป็นปริศนา กลายเป็นที่มาของเรื่องราวระทึกขวัญที่คาดไม่ถึง
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Anchor เป็นภาพยนตร์ที่จัด Genre ไว้เป็น งานระทึกขวัญอิงจิตวิทยาและปมปริศนาลึกลับ ไม่ใช่ Horror ดังนั้นใครที่เป็นโรคกลัวผี กลัวหนังสยองขวัญ อย่าเพิ่งเมินเพียงเพราะชื่อไทยที่ว่า ‘เจาะข่าวผี’ นะคะ ลองค่อย ๆ ดูไปแบบสบาย ๆ ปล่อยไหลไปตามเรื่อง แม้จะมีฉากสะดุ้งมีบ้างสร้างสีสัน แต่การันตีว่าดูจบแล้วจะสนุกอึ้งทึ่งแน่นอน ส่วนใครเป็นฮาร์ดคอร์หนังสายนี้ อาจพอคาดเดาอะไรได้บ้างก่อนแล้ว ไม่ต้องรอใกล้จบ เอ…นี่เรียกว่าปล่อยกลิ่นสปอยล์แล้วล่ะสิ
เรื่องราวก็จะว่าตามชื่อเรื่องคือ ผู้ประกาศข่าว (ศัพท์ภาษาอังกฤษอ่านว่า Anchor : แองเค่อ) จองเซรา (รับบทโดย ชอนอูฮี) แม้เธอจะอยู่ในเลเวลที่ใคร ๆ ก็เรียกรุ่นพี่ ได้อ่านข่าวภาคค่ำสามทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาไพร์มสุดก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ เพราะรอบตัวคือการแข่งขันชิงดีชิงเด่น ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง รวมไปถึงต้องคอยโชว์ฝีมือเรียกคะแนนจากหัวหน้าเพื่อไต่เต้าขึ้นไปอีก ทำให้เธอค่อนข้างตึงเย็นชา จนเครียดจุกท้องไส้ปั่นป่วนบ้าง แถมที่บ้านเองก็ยังมีความกดดันจากแม่ของเธอ อีโซจอง (รับบทโดย อีฮเยยอง) ผู้หมกมุ่นคอยกระตุ้นย้ำว่าเธอต้องเป็นนักข่าวที่โดดเด่น อย่ายอมให้อะไรมาขวางกั้นความสำเร็จ
วันหนึ่ง ก่อนเข้ากล้องไลฟ์รายการข่าว เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงที่ชื่อว่า ยุนมีโซ แจ้งข่าวว่าตัวเองและลูกสาวถูกสตอล์กเกอร์คุกคามบุกรุกบ้าน เธอกลัวมากเพราะอีกเดี๋ยวเขาคงกลับมาอีกรอบ จองเซราจึงบอกว่าจะแจ้งตำรวจให้ แต่ยุนมีโซขอให้จองเซราเป็นคนมาด้วยตัวเอง เพราะอยากให้การตายของเธอได้เป็นรายงานข่าวโดยนักข่าวที่ชื่นชอบ จึงจะมีความสุข จองเซราคิดว่านี่น่าจะเป็นการโทรแกล้งล้อเล่น จึงจะยุติการสนทนา แต่ประโยคสุดท้ายปลายสายส่งเสียงร้องแทรกมาว่า เขาฆ่าลูกสาวเธอแล้ว!
หลังจากนั้นจองเซราก็เข้ากล้องอ่านข่าวตามปกติ ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าเรื่องนี้ยังคงรบกวนจิตใจเธออยู่ จนกระทั่งกลับบ้านได้เล่าแม่ฟัง แม่จึงแนะนำว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เธอควรคว้าไว้ ควรไปหายุนมีโซเพื่อการเป็นนักข่าวที่แท้จริง จะได้ไม่เป็นแค่คนอ่านข่าวเจื้อยแจ้ว
จองเซราจึงได้พบศพของยุนมีโซวัยยี่สิบกว่าแขวนคอตาย กับลูกสาววัย 5 ขวบจมน้ำตายในอ่างอาบน้ำ และได้ทำข่าวนี้ด้วยตัวเอง ชื่อของเธอจึงโดดเด่นไปพร้อมกับข่าวดัง ส่งให้ผู้บริหารเห็นโอกาสเรียกเรตติ้งจากการขยายประเด็นข่าวต่อ แต่ผิดคาดที่ตำรวจสรุปคดีหลังสอบสวนว่าเป็นการฆ่าตัวตายหลังจากบีบคอลูกถ่วงน้ำจนตาย เหตุเกิดหลังวางสายจากจองเซรา โดยไม่มีใครบุกรุกบ้านเลย และพบภูมิหลังเป็นคนป่วยจิต ตัดขาดจากครอบครัว พักการเรียนเพราะมีลูกซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพ่อคือใคร
ในการแตกประเด็นข่าว แม้จองเซราลึก ๆ แล้วจะมีความขัดแย้งในใจ แต่ในที่สุดก็เลือกที่จะชี้นำที่ประชุมให้เปลี่ยนจากมุมเห็นอกเห็นใจในโศกนาฏกรรมชีวิตแม่ลูกลำพัง มาเป็นการตีประเด็นแรง ๆ ของแม่ที่ฆ่าลูกตัวเอง เพราะจี้ใจสังคมได้เรียล ๆ กว่า ซึ่งก็ดูเหมือนว่าความกล้าคิดต่างจากใคร ๆ และแรงทะเยอทะยาน ที่กำลังส่งเธอก้าวไปอีกขั้น
ในการไปหาข้อมูลเบาะแสในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ทำให้จองเซราเจอกับ จิตแพทย์ชเวอินโฮ (รับบทโดย ชินฮาคยุน) หมอรักษาอาการจิตเภทให้ยุนมีโซซึ่งเธอได้ไปพบหมอก่อนวันตายด้วย เขาอ้างกับตำรวจว่ามาบ้านนี้เพื่อหาเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ
ด้วยความที่ชเวอินโฮ มีท่าทีนิ่งเย็นชา ดูมีเลศนัย ทำให้จองเซราสงสัย และค้นข้อมูลเก่าได้ว่าเคยมีคนไข้ของเขาโดดตึกที่คลีนิคลงมาตายเมื่อหลายปีก่อน แต่สุดท้ายก็ปิดคดีไปเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่มีหลักฐานใดเอาผิดกับหมอ ทำให้เธอตัดสินใจเข้าไปพบหมอชเวอินโฮ เพื่อหาข้อมูลคลายข้อกังขาและค้นหาความจริงที่ทั้งเธอและผู้ชมจะคาดไม่ถึง
แม้ว่าการดำเนินเรื่องในช่วงแรกของหนังจะไม่หวือหวามากนัก แต่รายละเอียดข้อมูลล้วนเป็นประโยชน์ต่อการเข้าใจบทเฉลยภายหลัง อารมณ์ที่ถูกบิวด์รอ ก่อคำถามขึ้นในใจ ดูไปคิดไปเปลี่ยนไปมามากมาย เช่น จองเซราโดนผีอำวิญญาณหลอนเพราะเธอไม่ยอมไปช่วยหรือไม่? (ยิ่งเจอเพื่อนร่วมงานเผยเคล็ดไม่ลับว่า ถ้าไม่ได้มองหน้าเหยื่อในที่เกิดเหตุ ใบหน้านั้นจะตามติดมาให้เห็นไม่เลิกรา …ก็ชวนคิดมากตามละ) เหยื่อตายเพราะเธอหรือไม่? (ความหลอนจึงคอยตามรังควานเธอ) คดีเป็นการฆ่าตัวตายเองจริงหรือเปล่า ยังมีเงื่อนงำอื่นอีกหรือไม่? (สรุปคดีดูง่ายรวบรัดผิดคาด ตั้งใจมาให้เป็นข่าวของจองเซราเพื่ออะไร)
รวมถึง จิตแพทย์ที่คล้ายคนเป็นโรคจิตซะเอง แท้จริงเป็นคนดีหรือคนร้าย เกี่ยวข้องกับเรื่องราวอย่างไร ทำไมจึงทำตัวมีเลศนัยชวนสงสัยเหลือเกิน (หลังจากเพิ่งผ่านบทจิตๆของชินฮาคยุน ในซีรีส์ Beyond Evil บอกเลยว่าไม่ค่อยไว้ใจนัก 555) ครึ่งหลังของหนังจึงต้องติดตามชมกันเองนะ จะได้ไม่สปอยล์หมดสนุกค่ะ
จัดได้ว่าเป็นหนังที่ทำได้สนุกดี พาเราเคลิ้ม ๆ ไปกับเรื่องราวที่อาจดูเหมือนค่อนข้างเรียบแต่เรียล หยอดความระทึกบ้าง และสร้างปมสงสัยให้เก็บรอจังหวะพีค ลวงเพื่อหักมุมเข้าสู่บทเฉลยอย่างอึ้ง แต่แยบยลและเข้าใจได้ลงตัวหมด ให้ทั้งอารมณ์สะเทือนใจและโล่งใจตามเมื่อบรรลุจุดคลี่คลายได้
สาระของแก่นตัวละครนักข่าว จองเซรา ที่ทิ้งมุมให้คิดตาม ผู้หญิงกับความก้าวหน้าในวิชาชีพที่ต้องแข่งกับเพศชาย แข่งกับเด็กรุ่นใหม่ที่อาจมีรูปลักษณ์นำประสบการณ์ หรือแม้แต่การแข่งกับความคาดหวังของตัวเอง ที่มีแม่เป็นตัวเร่งสุมเชื้อ รวมไปถึงความเหลื่อมล้ำทางเพศที่ส่งให้ผู้หญิงอยู่ยาก หมดอนาคต เมื่อมีลูกในช่วงจังหวะชีวิตที่ไม่ใช่ เฉกเช่นสถานการณ์ของยุนมีโซ ส่งต่อไปถึงเรื่องปัญหาสุขภาพจิตในสังคม ใครที่ไม่แกร่งทนหรือจัดการความเจ็บปวดได้ ก็เลือกที่จะหลุดพ้นด้วยความตาย กลไกทางจิตที่ช่วยจัดการได้อย่างหนึ่งของมนุษย์ตามที่หมอชเวอินโฮกล่าวไว้เป็นนัยของปมปริศนาในเรื่องด้วย ก็คือ ทุกคนจะมีใครบางคนไว้เป็นข้ออ้างปัดความผิดที่ทำลงไปเสมอ ประเด็นของการสร้างพล็อตอิงจิตวิทยาเป็นไปอย่างลงตัว มีน้ำหนัก และถ่ายทอดให้เข้าใจได้ไม่ยากนัก โดยรวมเป็นเรื่องราวที่เข้ากับความเป็นจริงของสังคมได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากบท การเดินเรื่อง งาน Cinematography ที่ดีแล้ว ชอนอูฮี คืออีกหนึ่งหัวใจความสำเร็จของเรื่องเลย เธอถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย และยังเป็นอารมณ์ที่ลึกซึ้งเรียกพลังอินเนอร์มาก ซีนทรงพลังสุดที่ผู้เขียนชอบมากคือซีนจบ ชอนอูฮีคือทำได้เต็มอารมณ์มากเลย
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
