หากระยะนี้ใครได้มีโอกาสรับชมซีรีส์แนวกฎหมายที่เพิ่งออกอากาศไปได้เพียงไม่กี่ตอนอย่าง Extraordinary Attorney Woo ซึ่งกำลังได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในตอนที่ 2 ของการออกอากาศคงจะได้ทำความรู้จักกับทนายความสาว อูยองอู ที่เป็นแอสเพอร์เกอร์ซินโดรมกันไปบ้างแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่า แอสเพอร์เกอร์ ที่ว่านี้มันคืออะไรและมันคือออทิสติกหรือไม่? เรามาไขข้องใจนี้ไปพร้อมกันค่ะ
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม (Asperger Syndrome) เป็นความบกพร่องของพัฒนาการรูปแบบหนึ่ง ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสเปกตรัมเดียวกับ ออทิสติก (Autism Spectrum Disorder) โดยในอดีตมีการจัดกลุ่มแยกย่อยจึงเรียกแยกกันเพราะมีความแตกต่างกันบางส่วน โดยผู้ที่เป็นแอสเพอร์เกอร์จะมีระดับสติปัญญาที่ปกติหรือในบางรายสูงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับผู้ที่เป็นออทิสติก แต่ในปัจจุบันได้ยกเลิกการเรียกแยกย่อยแล้วและเรียกรวมกันว่า ออทิสติก ซึ่งผู้ที่ประสบในสภาวะเหล่านี้จะมีความบกพร่องของพัฒนาการด้านการเข้าสังคม, ขาดความเข้าใจต่อความรู้สึกผู้อื่น และจะมีความย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอ
สิ่งเหล่านี้เมื่อสะท้อนภาพกลับไปที่ อูยองอู ในฐานะทนายแอสเพอร์เกอร์ ซีรีส์ได้นำเสนอสภาวะที่แตกต่างนี้ของเธอ ที่ทำให้ผู้ชมร่วมลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครที่ต้องใช้ความพยายามในการใช้ทักษะการเข้าสังคม และเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ที่พบเจอให้ได้
แน่นอนว่าในซีรีส์สามารถถ่ายทอดความพยายามของ อูยองอู ออกมาได้อย่างสนุกสนานและก้าวข้ามทุกปัญหาไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ทว่าในชีวิตจริง จะเป็นไปได้หรือไม่ที่อาชีพทนายความจะสามารถทำงานโดยผู้ที่เป็นออทิสติก? คำถามนี้จึงเป็นที่มาที่ไปของบทความนี้ที่ Korseries จะมาเจาะลึกเส้นทางของ เฮลีย์ มอสส์ (Haley Moss) สาวออทิสติกที่เติบโตและเอาชนะอุปสรรคจากอาการต่าง ๆ จนกลายเป็นทนายความมืออาชีพที่เป็นออทิสติกแบบเปิดเผยคนแรกในฟลอริดา … มาลองสำรวจไปพร้อมกันว่าเธอทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
เฮลีย์ มอสส์ ถูกสังเกตเห็นอาการได้ตั้งแต่วัย 2-3 ขวบ พ่อแม่ของเธอพบว่าเธอไม่พูดเลยแม้จะถึงวัยอันสมควรแล้ว เวลาไปงานปาร์ตี้เธอก็มักจะกรีดร้องเสียงดังอยู่บ่อยครั้งโดยไร้สาเหตุ แต่ถึงกระนั้นเธอก็มีความสามารถพิเศษมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน อาทิเช่น การต่อจิ๊กซอว์ 100-200 ชิ้น และในตอนนั้นเองที่เมื่อพ่อแม่พาเธอไปพบแพทย์ เธอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ออทิสติก
เฮลีย์ เริ่มพูดได้ปกติครั้งแรกช่วงชั้นเกรด 1 (เทียบเท่าประถม 1) ต่อมาช่วงประมาณ 9 ขวบพ่อกับแม่ก็บอกความจริงเกี่ยวกับความผิดปกติของเธอพร้อมอธิบายว่า เธอเป็น ออทิสติกที่มีศักยภาพสูง* สิ่งนี้ก็เหมือนกับ แฮร์รี พอตเตอร์ ที่เธอชอบอ่าน แฮร์รี ไม่ใช่คนธรรมดาเพราะเขามีพลังพิเศษซึ่งเหมือนกับเธอที่ไม่ใช่คนปกติทั่วไป เธอเองก็มีอาวุธเป็นความสามารถพิเศษติดตัวเช่นกัน
*High Functioning Autism ~ ออทิสติกที่มีระดับสติปัญญาปกติไปจนถึงอัจฉริยะแต่บกพร่องทางทักษะการเข้าสังคมและการรับรู้ความรู้สึกคนอื่น รวมถึงมีอาการย้ำคิดย้ำทำ
หลังจากที่ได้ทราบว่าเป็นออทิสติกแล้ว เฮลีย์ ก็ถูกเข้ารับการบำบัดมากมายไม่ว่าจะเป็น การบำบัดด้านการพูด (Speech Therapy), การบำบัดผ่านการเล่น (Play Therapy), การบำบัดผ่านการขี่ม้า (Equine Therapy) หรือแม้กระทั่งการทำกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสริมเพื่อช่วยพัฒนาการด้านสังคมและการสื่อสารของเธอให้เท่าเทียมกับคนในวัยเดียวกัน
ด้วยความพยายามของทั้งตัวเฮลีย์เองและครอบครัว รวมถึงความอัจฉริยะในการเรียนรู้ของเธอ ทำให้เธอสามารถคว้าปริญญาเอก นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยไมอามีมาครอบครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นเธอก็เข้าทำงานในบริษัทด้านกฎหมาย และเธอก็กลายเป็นทนายความมืออาชีพที่เป็นออทิสติกอย่างเปิดเผยคนแรกในฟลอริดาช่วงปี 2019
มากไปกว่านั้นเฮลีย์ยังเป็นศิลปินวาดภาพป็อปอาร์ตแนวร่วมสมัยและเธอยังอุทิศตนเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์และให้ความรู้กับคนทั่วไปเกี่ยวกับออทิสติกในหลายโปรเจกต์ รวมถึงเธอยังเคยมีผลงานการเขียนบทความเผยแพร่เกี่ยวกับความบกพร่องที่เธอเป็นและรวมถึงในหัวข้ออื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งเธอเคยออกรายการทางโทรทัศน์และช่องยูทูปมามากมาย ล้วนแล้วแต่นำแนวคิดที่เป็นประโยชน์มาบอกเล่าเพื่อสังคมมาโดยตลอด หนึ่งในคำพูดของเธอที่ชวนให้ตระหนักคิดและนำไปวิเคราะห์ต่อกันเอง จากที่เธอเคยบอกเอาไว้ว่า
❛ ฉันคิดว่ามันสำคัญที่เราจะเล่าเรื่องของเราด้วยตัวเราเอง มันไม่ใช่แค่เรื่องของฉันสามารถให้แรงบันดาลใจกับคนอื่น และเรื่องของฉันก็ไม่ใช่แค่เรื่องของความบกพร่อง แต่มันคือเรื่องของความบกพร่องที่เป็นส่วนหนึ่งในตัวของฉันต่างหาก ❜
เฮลีย์ บอกเพิ่มเติมอีกว่าหลายครั้งที่ผู้บกพร่องมักจะถูกตีกรอบจำกัดจากคนปกติที่ไม่ได้ประสบอยู่ในสภาวะเดียวกัน เธอจึงเชื่อเสมอว่าคนที่จะสามารถเล่าเรื่องการเป็นผู้บกพร่องและบอกว่าพวกเขาต้องการอะไรได้ดีที่สุด ก็คือเสียงจากคนที่เป็นผู้บกพร่องเอง
“Different isn’t bad. It’s just different, and that can be Extraordinary”
“การแตกต่างไม่ใช่เรื่องที่แย่เลย มันแค่แตกต่าง และนั่นสามารถกลายเป็นความพิเศษได้”
– Haley Moss
เรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจนี้ที่ร่ายเรียงมา ตัวผู้เขียนได้รับอิทธิพลมาจากการรับชมซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ที่ทำให้ค้นพบเรื่องราวของ เฮลีย์ ที่มีตัวตนอยู่จริง และเธอมุ่งมั่นในอาชีพการเป็นทนายไม่ต่างจากตัวละครอูยองอูเลย ซึ่งชาวคอซีรีส์สามารถติดตามรับชมเรื่องนี้พร้อมซับไทยได้ทาง Netflix ทุกสัปดาห์ และทางผู้เขียนหวังว่าเรื่องของทั้ง อูยองอู และ เฮลีย์ นี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นต่อสู้กับชีวิตในแต่ละวันได้อย่างเข้มแข็งและก้าวเดินด้วยความมั่นใจและมั่นคงอย่างต่อเนื่องไปด้วยกันนะคะ
อัปเดตข่าวสารไวทันใจ และพูดคุยเม้าท์มอยซีรีส์กับผู้เขียนได้ที่ Twitter : @nUKiOz
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ ^^
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡