Money Heist: Korea – Joint Economic Area หรือ ทรชนคนปล้นโลก: เกาหลีเดือด ซีรีส์รีเมคซีรีส์สัญชาติสเปนชื่อดัง La Casa de Papel ก็ได้เปิดฉากการปล้นสะเทือนคาบสมุทรเกาหลีอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งแก๊งโจรตัวละครหลักภายในเรื่องที่ใช้ชื่อ มาจากชื่อเมืองในแต่ละประเทศ ก็เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากว่า จะเป็นใครกันที่จะมารับบทบาทนี้ ซึ่งตัวละครหลักอย่าง ‘ริโอ’ แฮ็กเกอร์อัจฉริยะของทีม ก็ได้หนุ่ม ‘อีฮยอนอู’ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงแทบทุกแขนงมามากกว่า 18 ปี เข้ามารับบทนี้ไปครอง
การแสดงของอีฮยอนอูในบทริโอ ไม่ว่าจะอยู่ในในลุคของแฮ็กเกอร์คนเก่ง ลุคน่ารักที่ออกมากี่ฉากก็ยิ้มชวนใจละลาย ไม่ว่าจะอยู่ในลุคไหนก็อีฮยอนอูก็สามารถคว้าใจของคนดูได้อยู่หมัด ทำเอาคนดูตกหลุมรักนักแสดงหนุ่มยิ้มหวานคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นไปตาม ๆ กัน คอลัมน์ SPOTLIGHT วันนี้จึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ อีฮยอนอู นักแสดงหนุ่มมากความสามารถชนิดที่ผลงานทุกแขนงยาวเหยียดเป็นหางว่าวเลยทีเดียว !
ผลงานซีรีส์ของ อีฮยอนอู
- Oolla Boolla Blue-jjang (KBS1, 2004)
- Spring Day (SBS, 2005)
- Hwarang Fighter Maru (KBS2, 2006)
- The Legend (MBC, 2007)
- Lobbyist (SBS, 2007)
- The Great King, Sejong (KBS, 2008)
- Four Colours of Love (KBS2, 2008)
- The Return of Iljimae (MBC, 2009)
- Queen Seondeok (MBC, 2009)
- What’s for Dinner? (MBC, 2009)
- Master of Study (KBS, 2010)
- Gyebaek (MBC, 2011)
- Brain (KBS, 2011)
- Man from the Equator (KBS, 2012)
- To the Beautiful You (SBS, 2012)
- Run Toward Tomorrow (SBS, 2015)
- The Scholar Who Walks the Night (MBC, 2015)
- Moorim School: Saga of the Brave (KBS, 2016)
- The Liar and His Lover (tvN, 2017)
- Money Heist: Korea – Joint Economic Area (Netflix, 2022)
ผลงานภาพยนตร์ของ อีฮยอนอู
- Baribari Jjang (2005)
- Holiday (2006)
- A Dirty Carnival (2006)
- Hwang Jin Yi (2007)
- The Loneliness of Butcher Boy (2010)
- GLove (2011)
- Secretly, Greatly (2013)
- The Con Artists (2014)
- Northern Limit Line (2015)
- The Beauty Inside (2015)
- Hero (2022)
- Dream (2022)
- Dog Days (2022)
อีฮยอนอู (Lee Hyun Woo, 이현우) เกิดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 1993 ปัจจุบันอายุ 29 ปี จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยดงกุก สาขาการแสดง และเป็นนักแสดงภายใต้การดูแลของ Awesome Ent. ค่ายนักแสดงในเครือของ Kakao M ที่มีนักแสดงดังอย่างพัคซอจุน คิมยูจอง ยูรา คิมโดฮวานร่วมค่าย โดยอีฮยอนอูได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดงเด็ก จากการแสดงละครเด็กชุด Oolla Boolla Blue-jjang ในปี 2004 ทางช่อง KBS1
หลังจากเดบิ้วต์ อีฮยอนอู ก็มีผลงานการแสดงหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ผลงานภาพยนตร์โดยเขาได้ก้าวเข้าสู่วงการจอแก้วจากภาพยนตร์เรื่อง Baribari Jjang ในปี 2005 และได้รับบทนำในซีรีส์ทันทีในอีก 2 ปีถัดมาจากเรื่อง Hwarang Fighter Maru (2006) ในบทซอดาฮัม 1 ในฮวารังนักรบจากราชวงศ์ชิลลา ก่อนที่จะประสบความสำเร็จทางด้านการแสดงจนสามารถคว้ารางวัล Best Young Actor จากเวที KBS Drama Awards 2008 จากการรับบท กษัตริย์เซจงมหาราชในวัยเด็ก ในซีรีส์พีเรียดฟอร์มยักษ์ The Great King, Sejong (2008)
หลังจากคว้ารางวัลอีฮยอนอูก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงเด็กจากซีรีส์พีเรียด จนทำให้มีผลงานซีรีส์แนวพีเรียดออกมาติดต่อกันอีก 3 เรื่อง The Return of Iljimae (2009) ในบท ชาโดรี เด็กชายที่มีนิสัยขวานผ่าซาก Queen Seondeok (2009) ในบท คิมยูชินวัยเด็ก ชายนักรบผู้จงรักภักดีกับองค์หญิงต๊อกมาน และ Gyebaek (2011) ในบท นายพลกเยแบ็กวัยเด็ก และยังมีผลงานภาพยนตร์ย้อนยุคอย่าง Hwang Jin Yi (2007) ในบท โนมีวัยเด็ก ผู้เป็นทั้งเพื่อน ทาส และรักแรกของจินยี อีกด้วย
จากผลงานแนวพีเรียดทั้งจอแก้วและจอเงิน ที่ฮยอนอูมักจะได้รับบทเป็นตัวละครหลักของเรื่องในวัยเด็กเสมอ ทำให้ภาพจำของเขาคือนักแสดงเด็กที่เติบโตมาพร้อมกับชุดฮันบกในหลากหลายยุค
เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2010 อีฮยอนอูก็ได้โอกาสถอดชุดฮันบกและหันมาใส่ชุดนักเรียนแทนในซีรีส์ Master Of Study (2010) ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กๆในโรงเรียนยองมุน ในบท ฮงชานดู ภาพลักษณ์ใหม่บวกกับความน่ารักสดใสของหนุ่มมัธยมปลายที่มักจะสวมใส่ฮู้ดและแขวนเฮดโฟนไว้ที่คอเสมอ ทำให้อีฮยอนอูถูกพูดถึงในวงกว้าง
และนั่นทำให้ในปี 2012 ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ผลงานแรกจากค่าย SM Entertainment อีฮยอนอู ก็ได้รับบทพระรองเป็นครั้งแรก ในซีรีส์ To the Beautiful You (2012) ในบทบาท ชาอึนกยอล นักฟุตบอลสุดป็อปที่ตกหลุมรักนางเอกของเรื่องทั้งๆที่ยังไม่ได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย ซึ่งฮยอนอูก็สามารถถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้อย่างน่ารักขโมยใจผู้ชมไปได้อย่างล้นหลามจนสามารถคว้ารางวัล New Star Award จากเวที SBS Drama Awards 2012 ถือว่าเป็นรางวัลที่ 2 ในเส้นทางการแสดงของเขา
ทางฝั่งของภาพยนตร์นั้น แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ กับภาพยนตร์ Secretly, Greatly (2013) ที่บอกเล่าเรื่องชีวิตของร้อยโทวอนรยูวานหรือบังดงกูทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งมาอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ระยะยาวเพื่อแฝงตัวเป็นสายลับในคราบลูกจ้างแสนขยันของร้านโชว์ห่วยในหมู่บ้านเล็กๆแถบชนบทแห่งหนึ่ง โดยฮยอนอูรับบท รีแฮจิน หนุ่มน้อยนักเรียน ที่มาจากหน่วยรบพิเศษสังกัด 5446 เช่นกันกับรยูวาน เป็นตัวละครที่ผูกพันและจงรักภักดีต่อรยูวานมาก
ผลงานจากเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา Best New Actor/Best Young Actor จากเวที 22nd Buil Film Awards เวที 34th Blue Dragon Film Awards และเวที 16th Seoul International Youth Film Festival แม้ใน 3 เวทีนี้อีฮยอนอูจะชวดรางวัลไปอย่างน่าเสียดายแต่แล้วเขาก็ได้รับการเสนอชื่ออีกครั้งในสาขา New Star Award จากเวที 9th Asia Model Festival Award และสามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ
นอกจากนี้อีฮยอนอูยังได้มีโอกาสในการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ในบทเพลง An Ode To Youth ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกอีกด้วย เรียกได้ว่าความสามารถมีครบจบในตัวคนเดียวจริงๆค่ะ
ความปังของอีฮยอนอูในแวดวงจอเงินยังไม่หมดลงง่ายๆ เพราะเขาได้เข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ Northern Limit Line (2015) ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือที่เขียนจากเรื่องจริงของชเวชุนโจ ภาพยนตร์ที่ขึ้นแท่นมีผู้เข้าชมมากที่สุดประจำปี 2015 โดยภาพยนตร์ได้หยิบยกเอาเหตุการณ์ ‘การระดมยิงยอนพยอง’ ในช่วงปี 2002 ที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพบอลโลกร่วมกับญี่ปุ่น ในบริเวณน่านน้ำทะเลเหลืองเขตแดนระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ ขึ้นมาบอกเล่าอีกครั้ง โดยฮยอนอูรับบทเป็น ปาร์คดงฮยอก แพทย์หนุ่มประจำเรือ ที่เป็นที่รักของทุกคน
ผลงานการแสดงจากเรื่องนี้ส่งผลให้อีฮยอนอูสามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 2 รางวัลในสาขา Rising Star Award จากเวที 30th Korea Best Dresser Swan Awards และสาขา Best Supporting Actor Award จากเวที 49th WorldFest-Houston International Film Festiva และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา Best New Actor จากเวที 52nd Grand Bell Awards อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผลงานสร้างชื่ออีกเรื่องที่ทำให้ความสามารถทางการแสดงของฮยอนอูเป็นที่รู้จักไปทั้งวงการ
หลังจากได้สร้างตำนานด้านการแสดงไว้ในวงการจอเงินแล้ว ฮยอนอูก็ได้ขึ้นแท่นพระเอกอย่างเต็มตัวประกบนักแสดงสาวซอเยจี ในซีรีส์เรื่อง Moorim School: Saga of the Brave (2016) เรื่องราวของโรงเรียนมูริม โรงเรียนที่จะต้องได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนเท่านั้นถึงจะเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ โดยฮยอนอูรับบทเป็น ยุนชีอู ไอดอลหนุ่มที่กำลังเผชิญกับอาการผิดปกติเกี่ยวกับการได้ยินโดยเขามักจะเห็นภาพเด็กในกองไฟ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังโดนข่าวฉาวรุมเร้าเขาจึงเดินทางไปยังโรงเรียนมูริมตามคำแนะนำ และในเรื่องนี้ฮยอนอูก็ยังรับหน้าที่ในการร้องเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วยในบทเพลง One Thing
ต่อด้วยบทพระเอกแบบรัวๆ กับซีรีส์ The Liar and His Lover (2017) ประกบคู่กับไอดอลสาว จอย red velvet โดยฮยอนอูรับบทเป็น ฮันคังกยอล โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงชื่อดัง ซึ่งในซีรีส์เรื่องนี้ฮยอนอูก็ไม่พลาดที่จะร้องเพลงประกอบซีรีส์ ร่วมกับสาวจอยในบทเพลง I’m Okay อีกด้วย โดยผลงานซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่งท้ายก่อนที่ฮยอนอูจะเข้ากรมรับใช้ชาติ
นอกจากนี้อีฮยอนอูยังไปโลดแล่นในแวดวงมิวสิควีดีโออยู่หลายเพลงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลง YOU&I และเพลง above the time ของศิลปินสาวมากความสามารถอย่างไอยู ที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆของฮยอนอู เพลง First Love’s Melody ของ Acoustic Collabo เพลง I love you ของ คู่พี่น้อง Akdong Musician และเพลง Ordinary Love ของ KCM โดยเพลง above the time ถือเป็นผลงานแรกที่แฟนๆได้เห็นฮยอนอูผ่านสื่อหลังจากปลดประจำการ
และแล้วก็มาถึงผลงานชิ้นล่าสุด ในซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area (2022) ในบทแฮกเกอร์น้องเล็กของทีม ‘ริโอ’ เด็กหนุ่มที่แรงจูงใจที่ทำให้เข้าร่วมทีมมีเพียงต้องการประชดพ่อที่ชอบบังคับเส้นทางการใช้ชีวิตของเขาเท่านั้น ถึงแม้จะมาจากครอบครัวคนรวยแตกต่างจากคนอื่นในทีม แต่ริโอก็ยังเป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจการปล้นสำเร็จไปตามแผนทั้งความเก่งกาจทางด้านไอที และความรู้ในด้านการแพทย์ ผลงานเรื่องนี้จึงถือเป็นการกลับมาเล่นซีรีส์เรื่องแรกหลังจากออกจากกรมของฮยอนอู และเป็นการคัมแบ็กงานแสดงในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว
ใครที่ตกหลุมรักหนุ่มยิ้มโลกละลายมากความสามารถที่ประวัติยาวเป็นหางว่าวคนนี้ ก็สามารถติดตาม อีฮยอนอู ได้ทาง Instagram : @hihyunwoo กันได้เลยค่ะ ~
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
