ซีรีส์แนวที่เอาใจคอซีรีส์เกาหลีได้มากที่สุดและมีกลุ่มเป้าหมายมากเกินกว่าภายในประเทศเกาหลีใต้นั้นคงหนีไม่พ้นแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยผ่านการชมซีรีส์แนวนี้มาเยอะแยะมากมาย โดยปกติซีรีส์ความรักแบบนี้จะมีสูตรสำเร็จตายตัวอยู่ในโครงสร้างบทละครของทุกเรื่อง จนมาระยะหลังที่จะให้นึกถึงเรื่องที่สร้างความแตกต่างและสนุกจนติดใจจริงๆก็หาได้ยากเสียเหลือเกิน แต่สำหรับ “Romance Supplement” หรือ “Romance is a Bonus Book” เรื่องนี้นั้น มีจุดเด่นและเหตุผลเฉพาะตัวหลากหลายประการที่อยากจะแนะนำและชวนให้ลองเปิดชมกัน
5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์อบอุ่นหัวใจเรื่อง “Romance is a Bonus Book”
1. เค้าโครงเรื่องที่โดนใจแสนฟินจนอินไปตามๆกัน ♥
ซีรีส์เรื่องนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวการทำงานภายในสำนักพิมพ์คยอรูซึ่งมี ชาอึนโฮ (รับบทโดย อีจงซอก) ทำงานเป็นนักเขียนและบรรณาธิการที่อายุน้อยที่สุดเรียกว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ในวงการนักเขียนเลยก็ว่าได้ซึ่งเขาได้ไปตกหลุมรัก นูน่า (คำศัพท์ภาษาเกาหลีที่ชายอายุน้อยกว่าเรียกผู้หญิงอายุมากกว่า) ที่ผ่านการแต่งงานและมีลูกแล้ว 1 คน คังดันอี (รับบทโดย อีนายอง) อดีตนักเขียนคำโฆษณา ที่เคยรุ่งในสายอาชีพตัวเองแต่ต้องมาตกอับเพราะผันตัวเป็นแม่บ้านจนวันหนึ่งเธอเลิกกับสามีทุกอย่างจึงต้องเริ่มต้นใหม่ ชาอึนโฮตกหลุมรักนูน่ามาตั้งแต่เด็กๆจากอุบัติเหตุที่เธอช่วยไว้จึงต้องดูแลกันและกันจนสนิทกันมาจนโต
พล็อตเรื่องที่ดูเหมือนจะธรรมดาไม่มีอะไรมากไปกว่าความรักของชายที่อายุน้อยกว่าที่มีให้กับสาวอายุมากกว่าที่ผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว ชายที่แสนจะเพอร์เฟกต์ไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆแต่กลับรักนูน่าคนนี้สุดหัวใจ ใช่ค่ะ…มันเหมือนความฝันมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันฟิ๊นนนนฟินนนนจนหยุดดูไม่ได้ การดำเนินเรื่องราวมีประเด็นและความน่าประทับใจให้ติดตามตลอดอย่างต่อเนื่อง จุดนี้ค่อนข้างสำคัญกับการทำซีรีส์เพราะถ้าถึงจุดที่เรื่องราวดำเนินช้าหรือไม่มีสิ่งน่าสนใจ ความสนุกของเรื่องนั้นๆจะถดถอยลงทันที แต่ซีรีส์เรื่องนี้แจกจ่ายความสนุก, ความสุขและความฟินได้อย่างไม่ขาดตอน
ไม่แปลกใจว่าทำไม “Romance Supplement” ถึงถ่ายทอดอารมณ์ความเป็นโรแมนซ์ออกมาได้อย่างดี เพราะเรื่องนี้นั้น เป็นผลงานของ นักเขียนจอนฮยอนจอง ส่วนตัวชื่นชอบผลงานของนักเขียนคนนี้จากเรื่อง “I Need Romance” ทุกภาคเป็นทุนเดิมที่เรื่องราวมีความทันสมัยและเก๋ไก๋ในแบบเฉพาะตัว พอมาเรื่องนี้จึงไม่พลาดและก็ไม่ผิดหวังอีกแล้วยังคงฝีมือได้ดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ขอชื่นชมการเลือกสีสันของซีรีส์โดยรวมด้วยว่าทำได้สดใสดูแล้วสบายตาสบายใจมากขึ้นไปอีกค่ะ
2. ความจิ้นต่างวัยแต่หัวใจไม่ต่างกัน ♥
นอกจากเรื่องราวดีๆและภาพสวยๆแล้วความฟินมันก็ต้องมาจากพระเอกนางเอกเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด อีจงซอก กับการมารับงานซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ครั้งแรกแบบเต็มตัว (ไม่แน่ใจรับเพราะอีนายองที่ชื่นชอบมานานแล้วหรือเปล่า 555) ฝีมือการแสดงของจงซอกสามารถวาดภาพชาอึนโฮออกมาได้เพอร์เฟกต์และน่าหลงใหลได้ตามสเปคที่สาวๆต้องการอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ทางด้าน อีนายอง ห่างหายงานแสดงซีรีส์ไปถึง 9 ปีเต็มจากเรื่องสุดท้าย “The Fugitive : Plan B” ออกอากาศในปี 2010 ทางช่อง KBS2 ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงต้องปัดฝุ่นกันเยอะพอสมควร แต่หลังจากได้เสพฝีมือการแสดงของเธอจากในเรื่องนี้แล้วขอบอกว่าเป็นนักแสดงที่มีทักษะการแสดงสมจริงและธรรมชาติอยู่สูงมาก ส่วนตัวชอบมากจนรู้สึกว่าเธอกลับมาได้แบบเต็มตัวแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เรื่องนี้ฟินมากเพราะการแสดงที่พาผู้ชมเข้าไปร่วมด้วยได้โดยไม่ต้องพยายาม คือถูกดูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว และอีจงซอก-อีนายองทำได้ดีมากจริงๆ วัยที่ต่างกันไม่สามารถขวางกั้นความจิกหมอนได้เลยจริงๆ มันฟินมากอ่ะขอบอก
3. พระเอกในฝัน…กับพระรองที่แสนดี ♥
แน่นอนว่าสูตรสำเร็จของซีรีส์แนวนี้ พระเอกเพอร์เฟกต์แล้วจะมีพระรองที่ไม่หล่อไม่เพอร์เฟกต์มาเป็นคู่แข่งก็คงจะดูไม่มันส์ซักเท่าไหร่ ขอแนะนำส่วนตัวเลยว่าพระรองเรื่องนี้งานดีถึงใจ แสดงก็ดี หน้าตาก็ดี หุ่นก็ดี ทำอะไรก็ดีไปหมด (ความรักมันบังตาจริงๆค่ะ 555) โดยในเรื่อง จีซอจุน (รับบทโดย อีฮาจุน) ชายหนุ่มนักวาดรูปประกอบหนังสือที่ในวงการสิ่งพิมพ์ต่างต้องการตัว ในวันฝนตกวันหนึ่งเขาบังเอิญไปเจอสาวคนหนึ่งตากฝนและร้องไห้พร้อมกับเดินเท้าเปล่า เขาจึงอยากรู้จักหญิงสาวในสายฝนคนนั้นในทันที …
ด้วยบุคลิกสไตล์พระรองที่แสนดีก็สามารถขายบทนี้ได้อยู่แล้วผสมเข้าไปกับเรื่องราวความรักฟินๆและการแสดงที่ทำได้ดี ก็ถือว่าสูตรสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ผลลัพธ์ออกมาทำได้ดีเลยทีเดียว ส่วนตัวคือดูแล้วชอบตัวละครทุกตัวไม่ใช่แค่พระเอกนางเอกและพระรอง ทุกตัวละครเรื่องนี้มีเสน่ห์ในแบบเฉพาะตัวที่โดดเด่น แต่กับ อีฮาจุน คนนี้…คุณได้ไปต่อค่ะ !!
4. เจาะลึกการทำงานของสำนักพิมพ์ ♥
นอกจากความฟินจิกหมอนต่างๆนานาที่พร่ำบอกว่ามีอยู่เยอะในซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ยังมีการเล่าถึงการทำงานของ สำนักพิมพ์คยอรู ซึ่งสำหรับผู้ชมที่ไม่เคยได้ทำงานในวงการสิ่งพิมพ์มาก่อนจะได้ความรู้ใหม่ๆจากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ อาทิ การทำลายหนังสือที่มีตำหนิหรือไม่ได้ขายแล้ว ไม่สามารถนำไปบริจาคได้ด้วยเงื่อนไขบางประการ, การพิมพ์และการพิสูจน์ตัวอักษรที่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด, การทำการตลาดของการขายหนังสือในรูปแบบต่างๆ, การแต่งคำโปรยของแต่ละเล่ม หรือแม้กระทั่งความซบเซาของตลาดสิ่งพิมพ์ส่งผลจากโลกออนไลน์ กว่าจะทำหนังสือออกมาได้ซักเล่มมีขั้นตอนกระบวนการมากไปและยากกว่าที่เคยคิดไว้เองเยอะมากจริงๆ
ประเด็นที่ชูออกมาจากซีรีส์เรื่องนี้หนึ่งประเด็นสำคัญเลยคือการให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือ แทบจะทุกคนที่ทำงานในสำนักพิมพ์คยอรูรักการอ่านและไม่อยากให้หนังสือหมดไปจากโลก สิ่งที่พวกเขาทำคือพยายามหาหนังสือดีๆแล้วตีพิมพ์ออกมาให้ประชาชนได้อ่านกัน แต่ก็คงหนีไม่พ้นการต้องทำเพื่อแสวงหากำไรไม่เช่นนั้นองค์กรก็ไม่สามารถคงอยู่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหนังสือไม่ควรหมดไปจากโลกและทุกคนยังคงควรอ่านหนังสือ หยุดโลกออนไลน์ให้น้อยลง หาหนังสือดีๆซักเล่มมานั่งอ่าน เพื่อพักผ่อนตัวเองจากโลกอันแสนวุ่นวาย แค่นี้ก็คือการพักผ่อนที่ดีที่สุดแล้ว
5. ข้อคิดดีๆจากเรื่องราวที่แสนจะธรรมดา ♥
ซีรีส์ที่ดีจะต้องมีทั้งความสนุกสุดฟินและต้องสอนมนุษย์ให้ข้อคิดดีๆได้ด้วยในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างของซีรีส์ที่ได้ครบถ้วน ตัวละคร คังดันอี นางเอกของเรื่องบทนี้สะท้อนให้เห็นการมองภาพของผู้หญิงในวัย 30 กว่าปลายๆผ่านการแต่งงานหย่าร้างมาแล้วพร้อมมีลูกติดได้อย่างชัดเจน เธอต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง, อีกครั้งและอีกครั้ง สามีที่ทิ้งเธอไปพร้อมกับภาระค่าเรียนลูกที่แสนจะหนักอึ้ง เธอหยุดงานไปหลายปีเพื่อ ‘เสียสละ’ ทำงานบ้านและดูแลลูกเต็มตัวเมื่อเธอต้องหาเงินอีกครั้งทุกอย่างคือการเริ่มต้นใหม่ เธอสมัครงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีใครอยากรับคนที่หยุดงานไปนานแล้วแบบเธอ และพอได้งานมาแล้วมันก็จะล้มอีกและเริ่มใหม่แบบนี้ไปเรื่อยๆ … ชีวิตมันไม่เคยสิ้นสุดจริงๆ
ชีวิตของหญิงสาวที่ดำเนินมากว่าครึ่งชีวิตอย่าง คังดันอี, คูยูซอน (รับบทโดย คิมยูมิ) สาวเก่งดุเผ็ดและโดดเดี่ยว ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์คยอรู และ ซอยองอา (รับบทโดย คิมซอนยอง) แม่ลูก1กับตำแหน่งผู้อำนวยการการตลาดของสำนักพิมพ์คยอรู ผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมาแล้วมากมาย สิ่งที่โหยหาคือความรักความเข้าใจและการเปิดใจจากคนที่รักพวกเธอจากใจจริง บางครั้งแค่การประสบความสำเร็จในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันไม่ได้ตอบโจทย์สมการความสุขได้ 100% หากแต่จะมีแค่ความจริงใจจากคนที่ดีเข้ามาบ้าง…สำหรับชีวิตหนึ่งได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
5 เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆจากซีรีส์ฟีลกู๊ดเรื่องนี้ เรื่องราวความรักของชาอึนโฮที่มีต่อนูน่าคังดันอีนั้นยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะต้องฟันฝ่าและลุ้นกันว่าจะสมหวังหรือไม่ ชาอึนโฮจะจีบนูน่าที่ไม่ได้มีความคิดเกินเลยกับน้องชายคนนี้เลยด้วยวิธีใดและจะทำให้นูน่าใจอ่อนได้หรือเปล่า ต้องมาคอยตามลุ้นกันได้ใน …. “Romance is a Bonus Book” และแม้ว่าเรื่องราวรักต่างวัยจะเป็นตัวชูโรงให้ผู้ชมได้ติดตามแต่คุณค่าที่ผู้ชมจะได้รับหลังจากชมซีรีส์เรื่องนี้นั้นมีมากมายจริงๆ ขอยกให้เป็นซีรีส์ดีๆอีกเรื่องที่ Korseries อยากจะแนะนำให้ลองติดตามชมกัน
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries >> อย่าลืมไปกด Subscribe กันน้า
Photo Credit (1)